การเมืองช่วงชุลมุนนับถอยหลังสู่เลือกตั้ง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง!!

การเมืองช่วงชุลมุนนับถอยหลังสู่เลือกตั้ง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง!!

          ถ้าวันที่ 24  กุมภาพันธ์  2562 คือวันเลือกตั้งตามโรดแม็พของ คสข.จริงแท้แน่นอน

            ก็ต้องนับเวลาถอยหลังมาสู่วันเลือกตั้งอีกไม่นานที่ประชาชนทุกคนปรารถนาให้มีการเลือกตั้งในวันนั้น

            ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพรรคการเมืองขนาดเล็กหลาย ๆ พรรครวมตัวกันเป็น “สหพรรค” ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม 2562

            ผลปรากฎว่ากระแสจากพรรคการเมืองส่วนใหญ่และประชาชนไม่สนองตอบการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป

            แม้แต่ คสช.เองก็ยันยันทุกวันเวลาว่า วันเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็พไม่เปลี่ยนแปลง!!

            พรรคการเมืองเล็ก ๆ ที่เป็นพรรคการเมืองใหม่ ๆ ถอดด้ามคิดจะเอาใจ คสช. โดยคิดว่า คสช.อยากเลื่อนเลือกตั้ง 

            เมื่อสร้างกระแสเลื่อนเลือกตั้ง “แป๊ก”  ไม่ประสบผลสำเร็จสมประสงค์ของคนอยากเลื่อน  ก็ไม่รู้ว่าที่อ้างไม่พร้อม จะเปลี่ยนใจพร้อมสู้หรือไม่

            แต่ถ้าพรรคการเมืองไหนไม่พร้อม ก็คงต้องรอไปสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าโน้น  ไม่ผิดกติการัฐธรรมนูญประการใด

            เนื่องจากขณะนี้ทุกพรรคการเมืองได้ประกาศตัวว่าพร้อมสู้ 100 % ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะออกกติกาแบบไหน

            หลังปลดล็อกให้พรรคการเมืองต่าง ๆ หาเสียงได้ตามสะดวกปากปลายเดือนธันวาคมนี้  รับประกันซ่อมฟรีว่าการหาเสียงของแต่ละพรรคจะดุเดือดเลือดพล่าน รวมทั้งข่าวลือข่าวปล่อยจะออกมาเป็นระยะ ๆ ให้สนุกมีรสชาติ

          นอกจากนี้ก็จะมีวาทะกรรมเด็ด ๆ ประดิษฐ์ถ้อยคำเสียดสีกระแนะกระแหนออกมาจากปากของนักการเมืองต่าง ๆ  เป็นระยะ ๆ เช่นกัน

            แต่ที่แน่ “บิ๊กดู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะโดนหนักกว่าใคร??

          แม้ว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่แง้มปากเต็มที่ว่าตนเองจะมีชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ

          แต่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวอย่างเปิดเผยว่าพรรคจะเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎกติกาแน่นอน

            สาเหตุที่ “บิ๊กตู่” ยังไม่เผยตัวเองเร็วไป  ก็ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนต้องคิดให้เปลืองสมอง  เพราะต้องการแบบตั้งใจไปเดินสายพบปะประชาชนติดตามงานของรัฐบาลในทุกภูมิภาค

            เพราะสามารถอ้างเหตุผลดื้อ ๆ อย่างสง่างามว่าไปทำงานการบ้านไม่ใช่เรื่องการเมือง

            แต่ในความเป็นจริงที่ยากจะปฏิเสธได้  ใคร ๆ ก็รู้ว่าคือการหาเสียงคะแนนนิยมจากชาวบ้านในการสืบทอดอำนาจ

            เนื่องจากทุกฝ่ายการเมืองฟันธงว่า “บิ๊กตู่” มาในนามพรรคพลังประชารัฐชัวร์

            ว่ามาว่า “บิ๊กตู่” จะรอถึงวันที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ  จึงค่อยเปิดปากยอมรับอย่างชายชาติทหาร

            ส่วนจะมีการ “พลิกล็อก” เป็นพรรคการเมืองอื่นที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ที่เชียร์ “บิ๊กตู่” เป็นผู้เสนอชื่อแทนพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่  ก็ต้องเฝ้ามองดูสถานการณ์อย่าได้กะพริบตา??

          ไม่ว่าจะอยู่ “พรรคพลังประชารัฐ” หรือ พรรคการเมืองอื่น  “บิ๊กตู่” ของแฟนคลับก็หนีไม่พ้นที่จะโดนโจมตีไม่เว้นวันให้ลาออกจาก “นายกรัฐมนตรี” เพื่อความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองต่าง ๆ และไม่เป็นการเอาเปรียบทางการเมือง

แว่ว ๆ มาว่าหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศวันเลือกตั้งเป็นที่แน่นอนในปลายเดือนธันวาคมนี้แล้ว

            พอปีใหม่ 2562  ผ่านพ้นไปไม่นานเกินรอ “บิ๊กตู่”  อาจยื่นลาออกจากการเป็น “นายกรัฐมนตรี” ??

            เพื่อรอเป็น “นายกรัฐมนตรี” สืบทอดอำนาจยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต่อไปหลังเลือกตั้ง!!

ดังท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวเป็นอมตะวาจาว่า “ตถาตา” ทุกอย่างมันเป็นเช่นนั้นเอง

ซึ่งอาจตีความหมายในประชาธิปไตยไทยนิยมว่า มันก็เป็นเช่นนั้นเองแหละท่านที่เคารพ

          เพราะฉะนั้นใครที่รักชอบ “บิ๊กตู่” ก็โปรดเตรียมดีใจ   ส่วนผู้ที่เกลียดก็ต้องทำใจ!!

                                                            นายจักรยาน