การเมืองปีหมู  จับตาดู “ข่าวลือ” ที่มีทั้้งจริงและเท็จ??

การเมืองปีหมู  จับตาดู “ข่าวลือ” ที่มีทั้้งจริงและเท็จ??

 

การเมืองปีหมู  จับตาดู "ข่าวลือ" ที่มีทั้้งจริงและเท็จ??

 

                วันเวลาของวันนี้ได้เข้่าสู่ปฏิทินปีหมู 2562 เป็นปีแห่งการเลือกตั้งที่หวนคืนมาอีกครั้ง ที่บรรยากาศทางการเมืองของประเทศก็เป็นไปอย่างคึกคักตามบทบาทของแต่้ละพรรคการเมือง

                ซึ่งการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็งัดกลยุทธออกมาได้อย่างเต็มที่ตามสไตล์ใครสไตล์มันว่างั้นเถอะ

                แต่ที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้งถึงขั้นยุบพรรค  ตัดสิทธิทางการเมือง ก็คือ การหาเสียงใส่ร่ายป้ายสี บิดเบือนข้อเท็์จจริงของคู่แข่งทางการเมืองแต่ละขั้ว

                ส่วนคำคุยโวของพรรคการเมืองใหญ่ ๆ แต่ละพรรคที่โม้ว่าจะเป็นพรรคที่ได้เสียง ส.ส.มากสุด  มี ส.ส.ในกำมือ 150 ที่นั่งขึ้่นไป  ก็ว่ากันไปตามถนัดทางการเมืองที่ต้องโม้ไว้ก่อน

                ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้องรับปีใหม่ ก็มีการเกทับบลั๊พแหลกจำนวน ส.ส.ที่ประชาชนจะเลือกเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร  ไม่ว่าจะเป็น พรรคพลังประชารัฐ   พรรคเพื่อไทย  และพรรคประชาธิปัตย์

                เนื่องจากทั้ง 3 พรรคสำคัญ ๆ เชื่อมั่นว่าจะได้ ส.ส.เกินร้อยแน่นอน   ส่วนพรรคการเมืองระดับกลางไม่ได้คุยให้เส่ียน้ำลายตนเอง  เพียงขอให้มี ส.ส.เข้าสู่้สภาผู้แทนราษฎรเพียงแค่ 20-30คนก็เพียงพอแล้ว

                สาเหตุที่พรรคระดับกลางและเล็กมักน้อย ก็เพราะรู้ว่าไม่มีทางได้มากถึง 100 แน่  และจำนวน ส.ส.ของพรรคขนาดกลางหรือระดับเล็กได้เข้ามาก็มีประโยชน์ต่อพรรคตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

                ทั้งนี้และทั้งนั้น   ไม่ว่าพรรคการเมืองขั้วไหนได้เสียงข้างมาก  ก็ย่อมเชื้่อเชิญพรรคระดับกลางเข้าร่วมวงเป็นรัฐบาลผสมให้มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรด้วยความยินดี

                ส่วนใหญ่แล้วพรรคการเมืองระดับกลางและระดับเล็กเต็มใจเป็นฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน!!

                สำหรับการเลือกต้้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ออกแบบมาไม่ใช่เรือง "หมูๆ" สำหรับพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ได้คุยโวเอาไว้??

                เพราะผลการเลือกตั้งจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 251 คนจากจำนวน ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ 500 คน

                ซึ่งเจตนารมณ์ของคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องการให้มี "รัฐบาลผสม" มากกว่ารัฐบาลที่มีเสียงเกินครึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด  เพราะอาจจะเล็งเห็นว่าที่นี่ประเทศไทยเหมาะสมแบบไทยนิยมที่ต้องมี "รัฐบาลผสม"  ที่จะช่วยนำพาชาติบ้านเมืองได้อยู่รอดปลอดภัยมั่งคงยังไงยังงั้น

                ด้วยเหตุฉะนี้  ประชาชนได้แต่เพียงเฝ้ามองว่า พรรคการเมืองไหนจะได้เสียงข้างมากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม ระหว่าง พรรคเพื่อไทย หรือ พรรคพลังประชารัฐ

                เมื่อสถานการณ์การเมืองเป็นเช่นนี้  "ข่าวลือ" ทางการเมืองก็ถูกปล่อยออกมาอย่างตั้งใจว่า "พรรคประชาธิปัตย์"  จะจับมือกับ "พรรคเพื่อไทย" เพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับขั้วของ "พรรคพลังประชารัฐ" ที่สนับสนุนโดย คุณสมชาย (คสช.)

                และก็มี "ข่าวลือ"คาดการณ์ล่วงหน้าตามมาอีกว่า  ในที่สุดเกมการเมืองได้บังคับให้ "พรรคประชาธิปัตย"  ต้องมาร่วม "รัฐบาลผสม" กับ "พรรคพลังประชารัฐ"!?!

                อย่างไรก็ตาม "ข่าวลือ"  ก็คือ ข่าวจริงมั่งเท็จมั่ง  หรือจริงครึ่งเท็จครึ่ง  ให้ผู้ที่รับฟังข่าวลือได้คิดพิจารณาเอาเองว่าจริงกี่เปอร์เซ็นต์เท๋็จกี่เปอร์เซนต์!!

                ที่แน่ ๆ  ช่วงการหาเสียง  และหลังการเลือกตั้งไปแล้ว  ก็จะมี "ข่าวลือ" จากผู้่ประสงค์ดีปล่อยออกมาเป็นชุดของแต่ละฝ่าย  เพื่อให้การเมืองมีรสชาติไม่เงียบเหงา

                อ๊ะ อ๊ะ  ยังจำข่าวคราวกันได้นะว่าในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2561 ก็มี "ข่าวลือ" ว่า จะเลื่อนวันเลือกตั้้งจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไปเป็นต้นเดือนมีนาคม 2562

                ปรากฏว่ามีเสียงคัดค้านจากพรรคการเมืองกันเซ็งแซ่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง  พร้อมทั่้งโจมตีคณะกรรมการเลือกต้้ง (กกต.) กับ รัฐบาล คสช. แบบทูอินวันให้มีความดุเดือดด้วยวาทะกรรมตามถนัดปาก

                ตามกำหนดเวลาเดิมที่รัฐบาลเคยให้ไว้ว่า วันที่ 2 มกราคา 2562 จะมีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกต้้ง และภายใน 5 วัน กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้้ง แต่ก็ไม่มีการประกาศอะไรออกมา

                ดังนั้น เหมือนเป็นสัญญาณให้รู้ว่าอาจมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกด้วยความจำเป็นของบ้านเมือง??

                ณ  วันนี้สาธุชนทั้งหลายคงได้รับรู้กันถ้วนหน้าแล้วว่า  วันเลือกต้้งยังคงเดิม 24 กุมภาพันธ์ 2562 หรือเลื่อนไปเป็นต้นเดือนมีนาคม 2562 เพื่อความเหมาะสมตามกระแสข่าวที่ออกมา

                ไม่ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน  แต่ก็ต้องมี "เลือกตั้ง" แน่นอนล้านเปอร์เซ้นต์!!

                เพราะการเลือกตั้งเป็นสิ่งคู่กับประชาธิปไตย  ไม่ว่าจะครึ่งใบ  เต็มใบ หรือประชาธิปไตยแบบพิศดาร

                สวัสดีประเทศไทย!!

                                                นายจักรยาน

             

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั