การเมืองร้อน 2 เรื่อง 2 รสระดับใหญ่ ในหน้าร้อนมีนาคม 2564!!

การเมืองร้อน 2 เรื่อง 2 รสระดับใหญ่ ในหน้าร้อนมีนาคม 2564!!

การเมืองร้อน 2 เรื่อง 2 รสระดับใหญ่ ในหน้าร้อนมีนาคม 2564!!

นายจักรยาน

            เดือนมีนาคม 2564 เข้่าสู่ฤดูร้อนเต็มสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นตามคำประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ประเเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

            สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยในเดือนมีนาคมนี้ก็มีความร้อนตามฤดูกาลเช่นกันด้วย 2 กรณีที่ต้องห้ามกะพริบตา

                ร้อนเรื่องแรกก็คือการปรับ ครม. แทน รัฐมนตรีแกนนำสาย "นกหวีด" กปปส.ที่ต้องกระเด็นกระดอนจากเก้าอี้ด้วยคำพิพากษาของศาลอาญาให้ติดคุกโดยไม่รอลงอาญา จากเหตุการณ์ปิดกรุงเทพมหานคร และขัดขวางการเลือกตั้งไปหลายจังหวัดระหว่างปลายปี 2556-2557

                ณ วันนี้เรา ๆ ท่าน ๆ อาจจะทราบแล้วว่าใครเป็นใครมาทดแทนเก้าอี้ที่ว่างลงทั้งของพรรคพลังประชารัฐ กับ พรรค ปชป.

                ส่วนจะมีการสลับกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่  ก็ยังไม่่เป็นที่่ชัดเจน  แต่ทว่าอาจมีการสลับเก้าอี้ของรัฐมนตรีของแกนนำรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐก็เพื่อความเหมาะสมดูแล้วดีในกระทรวงนั้น ๆ

                จะมีคนนอกแหกด่านเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคแกนนำรัฐบาลหรือไม่นั้น  ไม่น่าจะเป็นจริง เพราเ "ลุงตู่" ได้ยืนยันว่า "ไม่มีคนนอก จบนะ"!!

                โผปรับ ครม.ล่าสุดที่ทุกสำนักสื่อทั้งหนังสือพิมพ์กระดาษ  สื่อออนไลน์  โซเซียลมีเดีย ต่างก็ปล่อยโผออกมาตรงกันเหมือนนัดกันไว้ในตำแหน่งที่ต้องมีการปรับเปลี่ยน

                เช่นเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ มีอยู่ 2 โผ  โผแรกผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็น รมว.ศึกษาธิการคือ  "นายชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์"  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

                โผที่สอง  "นายอนุชา  นาคาศัย" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะได้รับการอัพเกรดโยกไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ  โดยให้ "นายชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์" มานั่งเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทน

                สำหรับเก้าอี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หรือมีตัวย่อเป็นภาษาปะกิตว่า ดีอีเอส นั้นจะทำการโยกเยก "นายอิทธิพล  คุณปลื้ม" รมว.วัฒนธรรม เป็นนั่้งเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส!!

                โดยให้  "นางสาวตรีนุช  เทียนทอง" ส.ส.สระแก้ว 5 สมัย พรรคพลังประชารัฐ หลานสาวของ "ป๋าเหนาะ" เสนาะ เทียนทอง ผู้อาวุโสทางการเมืองไทยที่คนไทยรู้จักดีมานั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม เป็นรัฐมนตรีใหม่เปิดชิง

                แต่ข่าวคราว รมช.คมนาคม โควต้าพรรค ปชป. มาหย่อนก้นนั่งแทน "นายถาวร เสนเนียน" ที่ต้องคดีคิดคุกตามคำพิพากษา ยังอีมครึมว่าใครคนไหนในพรรค ปชป.มานั่งแทน

                ที่แน่ ๆ ก็คือต้องเป็น ส.ส.สายใต้คนใดคนหนึ่งตามโควต้าระเบียบแบบเผนของพรรค ปชป.!!

                อา..การปรับ ครม.ครั้งนี้ ไม่น่าจะมีแรงกระเพื่อมให้รัฐบาล "ลุงตู่" สั่นคลอนจน "เรือเหล็ก" ต้องอัปปางลง??

                อีกกรณีไม่ใหญ่ไม่เล็กที่น่าจับตาดูก็คือศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราชที่พรรครัฐบาลด้วยกันเอง  ส่งผู้สมัครมาห้ำหั่นกันเองแบบใครดีใครอยู่ใครจู่ก็ปิ๋ว

                เก้าอี้ ส.ส.เขตนี้รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นพื้นที่ของพรรค ปชป. เพราะ "นายเทพไท เสนพงศ์" ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี  ซึ่งพรรค ปชป.ส่งน้องชาย "นายทพไท" คือ "นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์" มาลงสู้ป้องกันแชมป์ของพรรค ปชป.

                เป็นสัจธรรมของการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ที่ไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร  พรรค "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่ง "นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" ที่เคยลงสมัครครั้งแรกเลือกตั้งใหญ่พ่ายแพ้ "นายเทพไท เสนพงศ์" แบบเฉียดฉิว มาประลองกำลังกับพรรค ปชป.อีกครั้งให้รู้ดำรู้แดง

                ด้วยเหตุฉะนี้  เก้าอี้ ส.ส.เขตนี้ที่ว่างลงไปนั้น ถ้า พรรค ปชป.ชนะเหมือนเดิม  จำนวน ส.ส.ของพรรคก็ไม่หดหายไป   แต่ถ้าผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐชนะ  พรรคพลังประชารัฐก็ได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นอีก 1 คน  ทว่าจำนวน ส.ส.ของรัฐบาลก็เท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงประการใด

                ถ้าสมมตินะว่า  พรรค ปชป.พ่ายในศึกเลือตตั้งครั้งนี้  ก็คงไม่ทำให้ พรรค ปชป.งอนถอนต้วออกจากร่วมรัฐบาลให้รัฐบาลเรือเหล็กเอียงกะเท่เร่แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์

                เพราะเป็นรัฐบาลดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน  จะทำให้ "เราชนะ" ไปด้วยกันในมหกรรมเลือกตั้งทั่้วประเทศครั้งหน้า??

                เรื่องร้อน ๆ ใหญ่ ๆ ทางการเมืองกรณีที่สอง  ก็คือเรื่องที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" จะมีคำวินิจฉัยอย่างไรในวันที่ 11 มีนาคม 2564 ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่รัฐสภาได้ลงมติผ่านไปแล้วทั้งวาระ 1 และ 2 ที่รัฐสภาเห็นชอบให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)จำนวน 200 คนมายกร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ว่าขัดรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือไม่

                ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ขัดรัฐธรรมนูญปี 60 ไม่สามารถยกร่างทั้งฉบับได้  ต้องแก้ไขทีละมาตราจึงกระทำได้  ก็จะเป็นปัญหาการเมืองเรื่องร้อน ๆ ต่อไปอีกอีกนานวันว่าท่านผู้ทรงเกียรติจะมีข้อสรุปแก้มาตราไหนบ้างพร้อมกันไปทีเดียว

                เนื่องจากมาตราที่อยากจะแก้ไขนั้น  ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่อาจจะเห็นควรด้วย  แต่ท่านผู้ทรงเกียรติฝ่าย ส.ว.ไม่เห็นด้วย!?!

                ดังนั้น  อย่าไปคิดเดาล่วงหน้าว่าแก้ทีละมาตราจะสะดวกโยธิน  อาจจะคิดผิดก็ได้นะจะบอกให้

                ขอถ้าอีกที  ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่า  การเลือกตั้ง ส.ส.ร. 200 คนมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ส.ส.อันมีเกึยรติของประเทศก็ยังไม่สามารถเฮกันได้

                เพราะต้องรอลุ้นระทึกในการลงมติวาระที่ 3 วันที่ 17 มีนาคม 2564 นี้ว่า ที่ประชุมรัฐสภาร่วมระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว. จะให้ผ่านตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญหรือไม่??

                ทั้งนี้และทั้งนั้น  เพราะการผ่านมติในวาระที่ 3 แก้ไขให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.นี้น  ต้องมีเสียงของ ส.ว.จำนวน 2 ใน 3 ร่วมเห็นชอบด้วย  การลงมติในวันนั้นก็จะไปได่้สวย

            วันที่ 17 มีนาคม 2564 จึงเป็นวันอันตรายทางการเมืองที่สำคัญของประเทศว่า จะทำให้ปัญหาการเมืองมีเรื่องยุ่ง ๆ ต่อไปอีกนานวัน  หรือการเมืองจะสงบความยุ่งเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น!?!

            จบข่าวและก็จบนะ  สวัสดี

 

 

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด