การเมืองสยามประเทศเข้าสู่่ยุค 3 ก๊กที่แปลกกว่าใครในโลก??

การเมืองสยามประเทศเข้าสู่่ยุค 3 ก๊กที่แปลกกว่าใครในโลก??

                โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ณ ประเทศไทยวันนี้  ศึกตะลุมบอนเลือกตั้งครั้งก็เป็นที่ปรากฏชัดว่าการเมืองได้แบ่งเป็น 3 ก๊กเรียบร้อยแล้ว

                การเลือกตั้้งที่ว่างเว้นมาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่หลายพรรคได้มีการรวมตัวกันโดยอ้างว่าเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย"

                และโยนไปให้พรรคการเมืองอีกฝ่ายที่เชียร์ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.ว่าเป็น"ฝ่ายเผด็จการทหาร"

                หรืออย่างที่รู้กันมานานแล้วล่ะลุงก่อนเลือกตั้งว่าการแย่งชิงอำนาจบริหารประเทศ ณ บัดนี้จะแบ่งเป็นฝ่ายเอา "ลุงตู่" และ ไม่เอา "ลุงตู่"!!

                เมื่อพรรคประชาธิปัตย์โดย "พี่มาก" เดอะมาร์ค อภิสิทธิ เวชชาชีวะ ได้ประกาศอย่างชัดเจนและชัดถ้อยชัดคำว่าจะไม่สนับสนุน "ลุงตู่" ให้เป็นนายกรัฐมนตรีช่วงท้ายเกมใกล้วันเลือกตั้งอีกเพียง 10 กว่าวัน เพื่อให้ประชาชนได้หายกังขากัน

                ปรากฏว่ามีเสียงสะท้อนกลับมามากมายมหาศาลทั้งชื่นชม และโจมตีของแฟนคลับตามสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีทั้งละเลงตัวอักษรที่อยู่ในกรอบของกฎหมายและเกินเลยกว่ากฎหมาย!!

                ผลบุญของการที่ไม่เอา "ลุงตู่" จะทำให้คะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตามหลังพรรคอื่น 2-3 พรรค จะสามารถแซงขึ้นมาเป็นที่ 1 หรือไม่ ก็ต้องรอพิสูจน์กันในวันเลือกตั้ง!!

                เหตุที่การเมืองแบ่งเป็น 3 ก๊ก  ทั้ง ๆ เป็นการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเอา "ลุงตู่" หรือไม่เอา

                แต่ก๊กประชาธิปัตย์เป็นก๊กที่แปลก แม้จะไม่เอา "ลุงตู่"  แต่ก็เหม็นขี้หน้าไม่มีทางจับมือร่วมกันทำงานกับ "พรรคเพื่อไทย" ทั้งชาตินี้และไม่ว่าชาติไหน ๆ

                ส่วนพรรคเพื่อไทย ยืนยันตลอดเวลาว่าไม่เอา "ลุงตู่"  และก็ไม่จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมือสกปรก!!

                สำหรับพรรคที่เชียร์ "ลุงตู่" ไม่ได้บอกว่าจะไม่เอากับพรรคไหน  ปล่อยให้ประชาชนคิดเอาเอง??

                ด้วยเหตุฉะนี้  ศึก 3 ก๊กของการเมืองไทยจะเป็นความแปลกประหลาดที่ไม่เหมือนใครในโลกประชาธิปไตย!!

                ทว่า ก๊กหนุน "ลุงตู่" สบายใจที่สุดจากการที่ผู้่ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัยเป็นเอกฉันท์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า "ลุงตู่" ไม่ใช่ "เจ้่าหน้าที่อื่นของรัฐ"  จึงไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นแคนดิเดต "นายกรัฐมนตรี"

                แม้ว่าคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ออกมาย่อมไม่ถูกใจฝ่ายที่อยากให้ "ลุงตู่" พ้นสภาพเป็นผู้ท้าขิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่จะมีการหาประเด็นร้อง "ลุงตู่" ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้การเมืองสนุกตื่นต้นระทึกใจว่า "ลุงตู่" จะไม่รอดในประเด็นไหน??

                ด้วยเหตุฉะนี้ศึก 3 ก๊ก ณ สยามประเทศเวลานี้ก็ห้ำหั่นสุดฤทธิ์สุดเดชกันต่อไปจนถึงวันเลือกตั้ง  โดยมี่ "ลุงตู่" เป็นพระเอกตัวชูโรงในการถูกรุมถล่มกินโต๊ะแบบโต๊ะจีนไม่เว้นวัน

                สำหรับแคนดินเดต "นายกรัฐมนตรี" ของพรรคการเมืองอื่น ๆ  สาธุชนทั้งหลายต้องเฝ้าจับตาดูเป็นพิเศษว่าจะมีโอกาสขึ้นแท่นนัมเบอร์วันแทน "ลุงตู่"ได้หรือไม่??

                สโลแกนของพรรคเพื่อไทยว่า "เอาลุงตู่คืนไป  เอากระเป๋าตุงคืนมา" จะประสบผลสำเร็จหรือไม่

                หรือสโลแกนของแกนนำพรรคพลังประชารัฐที่ว่า "เอา คสช.คืนไป  เอาลุงตู่คืนมา" ที่ออกมาสู้กับสโลแกนเพื่อเพื่อไทย จะเกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่

                ก็อยู่ที่ประชาชนจะจับปากกาฆ่าฝ่ายไหนในวันเลือกต้้ง??

                ชะตาชีวิตของ "ลุงตู่" ขึ้นกับปากกานี่แหละ!!

                                นายจักรยาน