การเมืองเรื่องฟอร์ม"รัฐบาลผสม"มีเหตุย้อนรอยคล้าย ๆ กันจากอดีตสู่ปัจจุบัน
นายจักรยาน
การเมืองก่อนที่ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอ่ยคำขอโทษ แล้วยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีเรื่องราวของ "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ที่นักการเมืองสมัยนั้นมักจะกล่าวอ้างถึง
ณ วันนี้ก็มีอะไรที่คล้าย ๆ กันในเรื่องของ "บารมี" เพราะมีกระแสข่าวว่ามี "ผู้มีบารมีนอกพรรค" ของแกนนำพรรครัฐบาลในการตกปากรับคำว่าจะยกกระทรวงแถวหน้าให้พรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนการยกกระทรวงเกรดเอให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลเกือบทั้งหมด ก็มิใช่เพิ่้งเกิดขึ้นครั้งแรก ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน
สมัยที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ "เดอะมาร์ค" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก้าวขึ้นมาเป็น "นายกรัฐมนตรี" มี "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้จัดการรัฐบาล
พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำรัฐบาลในครั้งนั้น ก็ยกกระทรวงเกรดเอแทบทั้งหมดให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลที่โอเคมาร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้เกรดบีเป็นส่วนใหญ่
สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้วิชาลดแหลกแจกแถมให้แก่พรรคร่วมรัฐบาล ก็เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลโดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำก็พอใจแล้ว
โดยเฉพาะ "เสี่ยเน" เนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ได้เอ่ยปากเป็นคำอมตะ "มันจบแล้วครับนาย" ส่งผลให้พรรคไทยรักไทยต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นฝ่ายค้านอย่างหน้าชื่นอกตรม
ทำให้พรรคภูมิใจไทย ได้นั่้งเก้าอี้กระทรวงใหญ่ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์
สำหรับรัฐบาลของ "ลุงตู่" ที่คัมแบ๊กกลับมาอีกครั้ง กระทรวงใหญ่ระดับเอส่วนใหญ่ก็จำเป็นยกให้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย มิฉะนั้นแล้ว "ลุงตู่" ไม่มีสิทธิมาเป็น "นายกรัฐมนตรี" ต่อไปอีก
คิด ๆ ดูประวัติศาสตร์การเมืองเรื่องยุ่ง ๆ บางครั้งก็ย้อนรอยมาเหมือนเดิมแบบนึกไม่ถึง
ด้วยเหตุฉะนี้ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ จึงต้องหลุดไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ "พรรคพลังประชารัฐ" สามารถเป็นแกนนำรัฐบาลเดินหน้าประเทศไปสู่ยุทธศาสตร์ชาติได้
ซึ่งการเข้าร่วมรัฐบาลชองพรรคประชาธิปัตย์กับ "ลุงตู่" ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็สมความปรารถนาที่ได้กระทรวงเกรดเอคือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยจำใจต้องปล่อยไปสมัยที่ "เดอะมาร์ค" เป็นนายกรัฐมนตรี
ณ วันนี้ ใครเป็นใครที่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดของพรรคร่วมรัฐบาล เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ได้รับทราบจากกระแสข่าวที่ออกมาเป็นระยะ ๆ ให้ตื่นเต้นเร้าใจ
เชื่อว่ารายชื่อที่ปรากฏออกมาตามสื่อต่าง ๆ นั้น 99 % จะเป็นไปตามนั้น จะมีเปลี่ยนแค่สลับเก้าอี้ในโควต้าของแต่ละกระทรวงที่พรรคร่วมรัฐบาลได้จับจองไว้ใครอย่าแตะ!!
ส่วนเก้าอี้ "นายกรัฐมนตรี " ของ "ลุงตู่" ที่ฝ่ายค้านได้ออกมาขย่มอ้างข้อกฎหมายว่าเป็น "โมฆะ" เพราะ ส.ว.ที่คัดสรรมาไม่ถูกต้องไม่มีความเป็นกลาง การลงมติดังกล่าวจึงขัดรัฐธรรมนูญ และก็มีฝ่ายค้านบางคนก็พยายามย้ำตอกย้ำว่า "ลุงตู่" มีคุณสมบัติต้องหามตามรัฐธรรมนูญ เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ว่าฝ่ายที่หนุน "ลุงตู่" จะได้มีการชี้แจงไปก่อนหน้านี้ที่มีการเอะอะถึงปัญหานี้ว่าบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญได้ยกเว้นไว้!!
แต่ก็เชื่อว่าการส่งเสียงค้าน "ลุงตู่" ตอดนิดตอดหน่อยสะกิดสะเกาในขณะนี้ ก็ไม่ส่งผลสะเทือนถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ได้ออกแบบให้เป็นแบบนี้ใครจะทำไม??
เพราะฉะนั้นเรา ๆ ท่าน ๆ มาเฝ้ามองดูดีกว่าว่า รัฐนาวา "ลุงตู่" จะลอยน้ำแล่นฉิวได้ครบเทอม 4 ปีหรือไม่
ถ้าวันเวลาเดินหน้าไปได้ปีสองปี มีคนในพรรคร่วมรัฐบาลหรือคนกันเองเอ่ยปากออกมาว่า "มันจบแล้วครับลุง"!!
รัฐบาล "ลุงตู่" EP.2 ตกน้ำป๊อมแป๋มแน่??
นายจักรยาน
Social Links