การเมือง – จิตไม่ว่าง – ขยับเป็นป่วน

การเมือง – จิตไม่ว่าง – ขยับเป็นป่วน

           การมีภาพโผล่ของ 2 พี่น้องตระกูลชิน “นายทักษิณ ชินวัตร” ผู้พี่ และ “น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร” ผู้น้อง เดินเคียงคู่ที่ถนนคนเดินในนครปักกิ่ง ประเทศสาธารณประชาชนจีน ใกล้วันวาเลนไทน์ และวันตรุษจีน

            ทำให้ประเทศไทยป่วนไปหมด ตามคำพูดของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ประชาชนอย่างเราๆ ท่านๆ จะเป็นผู้ให้คำตอบว่าเท็จจริงประการใด??

            และวันนี้ก็รู้ความจริงกันแล้วว่าบ้านเมืองเราเกิดความสะเทือนไม่มั่นคงปั่นป่วนวุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมดทุกตารางนิ้วของประเทศจ่ริงหรือไม่!?!

            ถ้าจะปั่นป่วนก็อยู่ที่จิตของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองและฝ่ายที่หลงรักหลงเกลียดเกิดอาการ “จิตไม่ว่าง” ปัจจุบันทันด่วน 

            ดังสุภาษิตคำคมของจีนที่บอกไว้ว่าความทุกข์ของคนเรามีอยู่ 4 ประการคือ  1.มองไม่ทะลุ 2.สละไม่ลง 3.แพ้ไม่เป็น 4.ปล่อยวางไม่ได้ ซึ่งมีการแพร่ทางโซเซียลมีเดียเป็นระยะๆ ตามแต่โอกาสของสถานการณ์

            ใครปล่อยวางทางจิตไม่ให้หงุดหงิดได้ ก็จะทำให้สมองโล่งสบายใจ ไม่ต้องไปคิดให้จิตไม่ว่างว่า ทำไม 2 พี่น้องตระกูล “ชิน” โดนประเทศไทยถอนพาสปอร์ตทุกฉบับ กลับยังเดินทางเข้าออกไปประเทศโน้นประเทศนี้ได้สะดวก

            ก็ขอให้เราๆ ท่านๆ คิดอย่างสบายใจว่า เป็นเพราะทั้ง 2 พี่น้องใช้อภินิหารของกฎหมายประเทศนั้นๆ สำแดงฤทธิ์ออกมาจนทำให้มีพาสปอร์ตไปได้ทั่วโลก

            อีกข้อที่หลายๆ คนทำเป็นสงสัยว่า ทำไมหรือที่ประเทศต่างๆ ที่ให้ 2 พี่น้องหนีคดีจากไทยถึงไม่ถูกจับตัวส่งกลับตามกฎหมายไทย

            ณ เวลานี้ยังไม่มีคำตอบจากประเทศต่างๆ ที่ปล่อยให้ “พี่แม้ว” กับ “น้องปู” เข้าออกสะดวกและให้ที่พักพิงอาศัย ก็เพราะประเทศนั้น ก็ใช้กฎหมายของประเทศตนเองที่ไม่สนกฎหมายของไทย หรือกฎหมายไทยจะไปบังคับกฎหมายของประเทศนั้นไม่ได้ เพราะกฎหมายไทย่ไม่ใช่กฎหมายสากลที่นำไปใช้ได้ทั่วโลก!!

            พูดง่ายๆ ก็คือประเทศใครประเทศมัน นั่นแหละ!!

            ที่สำคัญอย่าลืมว่า 2 พี่น้องยังๆ ไงก็ไม่มีสิทธิ์เดินทางกลับเข้าประเทศไทย เพราะได้มีการแก้ไขกฎหมายไปแล้วโดยคดีของ 2 พี่น้องไม่มีหมดอายุความ ด้วยเหตุฉะนี้ 2 พี่น้องก็ต้องใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีตระเวนตะลอนประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วยความสบายใจจนหมดอายุ??

            เพราะฉะนั้นของให้เราๆ ท่านๆ ปล่อยจิตให้ว่าง ปล่อยวางให้สบายใจ ความปั่นป่วนวุ่นวายก็จะไม่บังเกิดขึ้นด้วยจิตคิดไปเอง!!

            สำหรับปัญหาข้อข้องใจของใครต่อใครเรื่อง “นาฬิกาหรู” ที่อยู่บนข้อมือของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม ผู้ที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติ ที่ตอนนี้ยังไม่มีผลสอบของ ป.ป.ช. ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด

            แต่ปม “นาฬิกาหรู” ทำให้ ครม.ของ “บิ๊กตู่” เกิดความไม่มั่นคงสะเทือนถึงเก้าอี้ผู้ที่รับผิดชอบความมั่นคงของบ้านเมือง??

            เพราะมีรัฐมนตรีร่วมคณะของ “บิ๊กตู่” ท่านหนึ่งคือ “หมอธี” น.พ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐ์ศิลป์ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ไปหลุดปากให้สัมภาษณ์ บีบีซีไทย ซึ่งมีการตีความคำพูดของ “หมอธี” ว่า ถ้าตนมีเรื่อง “นาฬิกาหรู” ก็ลาออกไปแล้ว แต่นักการเมืองไทยมีความรู้สึกแบบไม่บาง เหมือนนักการเมืองต่างประเทศที่รูสึกบาง จะประกาศบ๊ายบายจากเก้าอี้ทันทีถ้ามีเรื่องฉาวโฉ่มาถึงตนเอง!!

            คำพูดของ “หมอธี” ดังกล่าวก็จบลงด้วยคำ “ขอโทษ” ต่อ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม” ทำให้ ครม.”บิ๊กตู่” หยุดความสะเทือนลงไปได้ทันทีทันใด

            ประเทศชาติ ครม. และ “บิ๊กป้อม” ผู้ดูแลด้านความมั่นคง ก็มีความมั่นคงต่อไปแบบ “ไทยนิยม”!!

            ดังนั้น 2 ประเด็น 2 รสชาติไม่ว่า 2 พี่น้องตระกูล “ชิน” กับ “นาฬิกาหรู” มีการขยับเมื่อไหร่ ก็ต้องมีคนคิดว่าประเทศจะมีการปั่นป่วนขึ้นมาอีก??

            ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพราะการเมืองที่ยุ่งๆ นั้นมาจาก “จิตไม่ว่าง” นั่นแล !!

            นายจักรยาน