คคบ.เข้ม! สั่งฟ้อง 43 ผู้ประกอบธุรกิจ
ละเมิดสิทธิผู้บริโภค เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (นายบรรจง สุกรีฑา) ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจจำนวน 43 ราย ฐานละเมิดสิทธิผู้บริโภค ในคดีสำคัญซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สินค้า และบริการทั่วไป”
การดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 9 ราย
1.กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านพักอาศัย แต่ต่อมาพบว่าการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบและใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดความชำรุดบกพร่องและความเสียหาย เมื่อแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบ แต่กลับเพิกเฉยไม่เข้าดำเนินการแก้ไข การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงิน 1,500,035 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจองซื้อบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาจองซื้อบ้านพร้อมที่ดินในโครงการ ราคา 2,978,000 บาท โดยได้ชำระเงินจอง 5,000 บาท และเงินดาวน์อีก 7 งวด เป็นเงิน 70,000 บาท รวมชำระไปแล้วทั้งสิ้น 75,000 บาท แต่เนื่องจากสัญญาไม่ได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของโครงการ และการก่อสร้างเกิดความล่าช้าอย่างมาก ผู้บริโภคจึงขอยกเลิกสัญญา มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินจำนวน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านเดี่ยว ราคา 1,659,217 บาท กำหนดแล้วเสร็จภายใน 90 วัน โดยได้ชำระเงินไปแล้ว 4 งวด เป็นเงิน 1,327,372 บาท แต่ผู้รับจ้างกลับทำงานไม่แล้วเสร็จและทิ้งงานไป ผู้บริโภคจึงร้องเรียนให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหายในส่วนของงานที่ยังไม่แล้วเสร็จ มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 324,363 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีห้องชุดไม่เป็นไปตามโฆษณา นิติบุคคลอาคารชุดได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของร่วมว่า ห้องชุดที่ซื้อในโครงการไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้หลายรายการ และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ได้รับอนุญาตและไม่ปฏิบัติตามโฆษณา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จึงเป็นการผิดสัญญาและละเมิดสิทธิของผู้บริโภค มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 6,444,791.30 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด (เกี่ยวกับการขายคืน) ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ราคา 3,000,000 บาท และชำระราคาครบถ้วนแล้ว ต่อมาผู้บริโภคต้องการขายห้องชุดคืน ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจตกลงรับซื้อคืนในราคาเดิม แต่กลับผัดผ่อนและไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง มติที่ประชุมให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อห้องชุดคืน และชำระเงินจำนวน 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด (เกี่ยวกับการไม่โอนกรรมสิทธิ์) ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ราคา 12,177,616 บาท และได้ชำระเงินครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ประกอบธุรกิจยังไม่ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้บริโภค หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้คืนเงินค่าห้องชุดเป็นจำนวน 11,900,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างบ้าน (เกี่ยวกับการก่อสร้างล่าช้า) ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านในวงเงิน 1,146,000 บาท แต่ผู้ประกอบธุรกิจก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนดในสัญญา ผู้บริโภคได้ติดตามทวงถามให้ชำระค่าปรับจากการผิดนัดหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจชำระค่าปรับจากการก่อสร้างล่าช้าเป็นเงินจำนวน 34,380 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (เกี่ยวกับการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน) ผู้บริโภคทำสัญญาซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ราคา 6,990,000 บาท แต่พบว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม จึงต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อบ้านคืน แต่กลับถูกเพิกเฉย มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อบ้านคืนและโอนกรรมสิทธิ์กลับคืนโดยปลอดภาระจำนอง พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ รวมเป็นเงิน 7,092,500 บาท (แบ่งเป็นค่าบ้าน 6,990,000 บาท ค่าธรรมเนียม 8,000 บาท ค่าผ้าม่าน 26,500 บาท ค่าเฟอร์นิเจอร์ 45,000 บาท และค่าติดตั้งครัว 23,000 บาท) และให้ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนของดอกเบี้ยที่ผู้บริโภคชำระให้สถาบันการเงิน พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
- กรณีสัญญาเช่าห้องพัก ผู้บริโภค 2 ราย ทำสัญญาเช่าห้องพัก โดยมีค่าเช่าเดือนละ12,900 บาท วางเงินประกัน 15,000 บาท และชำระค่าเช่าล่วงหน้า 4,500 บาท พร้อมค่าอินเทอร์เน็ตอีก 10,000 บาท ต่อมาผู้บริโภคต้องการยกเลิกบริการอินเทอร์เน็ต แต่ผู้ให้เช่าปฏิเสธ ผู้บริโภคจึงแจ้งขอยกเลิกสัญญาเช่าและย้ายออก แต่กลับถูกผู้ให้เช่ายึดทรัพย์สินและเงินประกันไว้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ให้เช่าคืนเงินแก่ผู้เช่าทั้ง 2 ราย รวมเป็นเงิน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป จำนวน 34 ราย
- กรณีสถานออกกำลังกาย ผู้บริโภคหลายรายใช้บริการสถานออกกำลังกาย ต่อมาบริษัทฯ ได้ประกาศ “จะปิดทำการชั่วคราว” และชดเชยด้วยการขยายเวลาสมาชิก 30 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แม้พนักงานจะแจ้งว่าจะเปิดให้บริการตามกำหนด แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ผู้บริโภคจึงขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินแก่ผู้บริโภคพร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสถาบันสอนภาษา ผู้บริโภคสมัครเรียนกับสถาบันสอนภาษาอังกฤษและชำระค่าเรียน 13,800 บาท แต่บริษัทฯ ยกเลิกการเรียนและเสนอว่าจะคืนเงินให้ ผู้บริโภคตกลงรับข้อเสนอว่าจะคืนเงินภายใน 30 วัน แต่มีการเลื่อนหลายครั้งและยังไม่ได้รับเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 10,692 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีรายการนำเที่ยว ผู้บริโภคซื้อรายการนำเที่ยวกับบริษัทฯ และชำระเงิน 82,000 บาท แต่บริษัทไม่สามารถจัดให้เดินทางได้และตกลงจะคืนเงินให้ ผู้บริโภคได้รับเงินคืนมาบางส่วน 41,500 บาท คงเหลือเงินที่ต้องชำระอีก มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 40,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีบัตรโดยสารเครื่องบิน ผู้บริโภค 2 ราย ซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินผ่านเว็บไซต์จำนวน 2 ใบ ราคา 76,130 บาท แต่มีเหตุให้ไม่สามารถเดินทางได้จึงขอยกเลิกบัตร บริษัทฯ แจ้งว่าจะคืนเงินโดยหักค่าธรรมเนียม แต่ผู้บริโภคยังไม่ได้รับเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 107,986 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีกิจกรรมวิ่ง ผู้บริโภคสมัครกิจกรรมวิ่งและชำระเงินให้บริษัทฯ ต่อมาบริษัทฯ ยกเลิกกิจกรรมและแจ้งให้ผู้ที่ต้องการเงินคืนแจ้งความประสงค์ตามช่องทางที่กำหนด ผู้บริโภคได้แจ้งความประสงค์แล้ว แต่บริษัทฯ ไม่ดำเนินการคืนเงินให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 6,041.86 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีรายการนำเที่ยว ผู้บริโภคหลายรายซื้อรายการนำเที่ยวกับบริษัทฯ แต่บริษัทไม่สามารถจัดให้เดินทางได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 90,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีกล้องวงจรปิด ผู้บริโภคซื้อกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้ง 9 ตัว ราคา 45,500 บาท โดยชำระเป็น 4 งวด ต่อมาพบว่ากล้องใช้งานไม่ได้ ร้านค้าแจ้งว่าเกิดจากปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตและให้ซื้อกล่องรับสัญญาณใหม่ราคา 1,590 บาท แต่ติดตั้งแล้วปัญหาก็ยังคงอยู่ ผู้บริโภคจึงต้องจ้างร้านอื่นมาแก้ไข ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 17,100 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 17,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีรถยนต์ไฟฟ้า ผู้บริโภคทำสัญญาจองสิทธิรถยนต์ไฟฟ้าและชำระเงิน 25,000 บาท โดยพนักงานขายแจ้งว่าจะได้รับส่วนลด 50,000 บาท ต่อมาพนักงานขายแจ้งว่ารถมีการเปลี่ยนรุ่นและให้ชำระเงินมัดจำเพิ่มอีก 10,000 บาทเพื่อรักษาสิทธิส่วนลด แต่เมื่อถึงกำหนด บริษัทฯ กลับไม่ได้หักเงินจองสิทธิ 25,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซ่อมแอร์รถยนต์ ผู้บริโภคนำรถยนต์เข้ารับการซ่อมระบบแอร์ ช่างแจ้งว่าจะเปลี่ยนโอริงแอร์และล้างตู้แอร์ในราคา 5,000 บาท หลังจากนำรถกลับไปใช้ แอร์ก็ไม่เย็นเหมือนเดิม ผู้บริโภคจึงนำกลับไปซ่อมอีก 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้คืนเงิน 7,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีไม่ได้รับสินค้า ผู้บริโภคสั่งซื้อคาร์ซีทในราคา 31,980 บาท โดยตกลงว่าจะได้รับสินค้าภายใน 90 วัน แต่เมื่อครบกำหนด บริษัทฯ ไม่ส่งมอบสินค้าให้ เมื่อผู้บริโภคติดตามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ทำให้ได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 31,980 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสัญญาบริการกำจัดปลวก ผู้บริโภคทำสัญญาบริการกำจัดปลวก 1 ปี รวม 4 ครั้ง ค่าบริการ 3,500 บาท เมื่อถึงเวลานัดหมาย บริษัทฯ ไม่เข้ามาดำเนินการและเพิกเฉย ผู้บริโภคจึงต้องการขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,750 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อรถยนต์ใช้แล้วและไม่ได้รับโอน ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ใช้แล้วจากเต็นท์รถ ในราคา 535,000 บาท และได้นำรถไปจำหน่ายพร้อมชำระเงินส่วนต่าง 131,000 บาท เต็นท์รถแจ้งว่าจะดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์และเล่มทะเบียนให้ แต่มีการผัดผ่อนมาโดยตลอด มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้เต็นท์รถจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวให้เป็นชื่อของผู้บริโภค มอบเล่มทะเบียน และคืนเงิน 5,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซ่อมรถยนต์ ผู้บริโภคนำรถยนต์เข้าซ่อมเพื่อตรวจสอบสาเหตุคราบน้ำมันรั่ว บริษัทฯ ใช้เวลานานในการซ่อมและไม่มีรถสำรองให้ใช้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้บริษัทฯ ชดใช้เงินค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถจำนวน 42,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีแหวนเพชรไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อแหวนเพชรราคา 16,000 บาท ค่าส่ง 100 บาท รวมเป็นเงิน 16,100 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน แต่ได้รับสินค้าเป็นสร้อยข้อมือแทน จึงส่งคืนสินค้าแต่ผู้ขายไม่ส่งมอบแหวนตามที่สั่งและจะคืนเงินให้เพียง 50% ผู้บริโภคไม่เห็นด้วย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 16,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีจอคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้ ผู้บริโภคสั่งซื้อจอคอมพิวเตอร์ผ่าน Facebook ราคา 5,840 บาท โดยผู้ขายโฆษณาว่า “สภาพไร้ตำหนิ จอโค้งสวยงาม ใช้งานได้ปกติทุกอย่าง” แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วพบว่าไม่สามารถใช้งานได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 5,840 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อสินค้าและได้ไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อของใช้อุปโภคบริโภคผ่าน Facebook หลายรายการรวม 909 บาท ต่อมาได้ยกเลิกบางรายการเหลือยอดชำระ 599 บาท แต่ได้รับสินค้าไม่ครบถ้วน จึงทวงถามให้ส่งมอบสินค้าที่เหลือ แต่ผู้ขายก็ยังไม่ได้ดำเนินการ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 428 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อเสื้อยืดและขอคืนผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อยืดมือสอง 7 ตัว ราคา 700 บาท บวกค่าขนส่ง 110 บาท รวม 810 บาท และได้ชำระเงินมัดจำไป 150 บาท ต่อมาต้องการเปลี่ยนคำสั่งซื้อเนื่องจากเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบ แต่ผู้ขายแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 150 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อหญ้าเทียมไม่เป็นตามที่สั่งผู้บริโภคสั่งซื้อและติดตั้งหญ้าเทียมราคา 22,314 บาท ผ่าน Facebook ผู้ขายรับประกัน 2 ปี แต่หลังจากติดตั้งพบว่ามีวัชพืชขึ้นจำนวนมาก ผู้บริโภคจึงติดต่อให้มาแก้ไข แต่ผู้ขายกลับบ่ายเบี่ยง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 5,346 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อเสื้อได้ไม่ตรง ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อสีครีมราคา 650 บาทผ่าน Facebook แต่ได้รับสินค้าเป็นเสื้อที่ไม่ใช่สีครีมและไม่ตรงตามแบบที่สั่งซื้อ จึงคืนสินค้าดังกล่าวไป มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 702 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อแท่นชาร์จโทรศัพท์ได้ไม่ตรง ผู้บริโภคสั่งซื้อแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายในตัว 2 ชิ้น ราคา 200 บาทผ่าน Facebook แต่เมื่อได้รับสินค้ากลับพบว่าเป็นแท่นวางโทรศัพท์ธรรมดา ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 200 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อเบาะนั่งนิรภัยแต่ไม่ได้รับสินค้า ผู้บริโภคสั่งซื้อเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ในราคา 11,990 บาท แต่ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าให้และไม่คืนเงิน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 11,990 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อสินค้าและได้ไม่ครบผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้ารวมเป็นเงิน 130,690 บาท และชำระเงินไป 125,000 บาท แต่ห้างหุ้นส่วนไม่ส่งมอบสินค้าให้ จึงได้ยกเลิกสัญญาและได้รับเงินคืนมาบางส่วน แต่ยังคงเหลือยอดที่ยังไม่ได้รับคืนอีก 9,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงินและดอกเบี้ยผิดนัดรวม 17,035.28 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อกางเกงได้ไม่ตรงปกผู้บริโภคสั่งซื้อกางเกงขาสั้น 3 ตัว รวม 1,099 บาท แบบเก็บเงินปลายทาง แต่เมื่อได้รับสินค้าและชำระเงินแล้ว พบว่าสินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้ขายเสนอจะคืนเงินให้เพียง 799 บาท ซึ่งผู้บริโภคเห็นว่าไม่ถูกต้อง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,099 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อชุดกระชับสัดส่วนได้ไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อชุดกระชับสัดส่วนสีดำ 1 ตัว ราคา 750 บาท ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งผู้ขายโฆษณาว่า “มีเอวคอดทันที” และสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน แต่เมื่อได้รับสินค้าและชำระเงินแล้ว พบว่าเป็นชุดขนาดใหญ่และไม่ตรงตามโฆษณา มติที่ประชุมดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 750 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อเจลอาบน้ำได้ไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อเจลอาบน้ำกลิ่นหอมไวท์เทนนิ่ง 1 ชิ้น ราคา 599 บาท ผ่าน Facebook แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วพบว่าไม่ตรงตามที่โฆษณา จึงส่งสินค้าคืนพร้อมค่าขนส่ง 83 บาท ผู้บริโภคต้องการให้ผู้ขายคืนเงินทั้งหมดรวมค่าขนส่ง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 682 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อนาฬิกาแต่ได้รับลูกบิดประตู ผู้บริโภคสั่งซื้อนาฬิกาดิจิทัล ราคา 1,150 บาท แต่ได้รับ ลูกบิดประตู แทน จึงติดต่อบริษัทขนส่งเพื่อระงับการจ่ายเงินแต่ไม่สำเร็จ เมื่อติดต่อผู้ขาย ผู้ขายกลับให้ชำระเงินเพิ่มอีก 350 บาท ซึ่งผู้บริโภคเห็นว่าไม่ถูกต้อง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,150 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีซื้อเครื่องดูดฝุ่นแต่ได้ของใช้งานไม่ได้จริง ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องดูดฝุ่นและเป่าลม ราคา 999 บาท แต่เมื่อได้รับและชำระเงินแล้ว พบว่าเป็นเครื่องขนาดเล็กที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง ไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 999 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อชั้นวางรองเท้าแต่ได้แผ่นพลาสติก ผู้บริโภคสั่งซื้อชั้นวางรองเท้าราคา 1,399 บาท เมื่อชำระเงินและได้รับสินค้าแล้ว พบว่าเป็นเพียงแผ่นพลาสติกสำหรับประกอบชั้นรองเท้าพร้อมวัสดุประกอบสีดำจำนวน 8 ชุด ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,399 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อเสื้อโปโลแต่ได้ไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อโปโล 2 ตัว (ไซส์ L ชาย 1 ตัว และไซส์ S หญิง 1 ตัว) ราคาตัวละ 250 บาท รวมค่าขนส่ง 30 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 530 บาท แต่ได้รับเสื้อเพียง 1 ตัว มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 250 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแต่ระบุส่วนผสมไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้นอนหลับง่าย 3 กล่อง (แถมฟรี 1 กล่อง) ราคา 690 บาท แต่เมื่อรับประทานแล้วมีอาการง่วงนอนและปวดศีรษะอย่างมาก เมื่อสอบถามผู้ขายจึงทราบว่ามีส่วนผสมของปลาและนมถั่วเหลืองซึ่งไม่ได้ระบุไว้บนฉลาก ผู้บริโภคจึงขอคืนสินค้าและเงิน แต่ผู้ขายไม่ยอมคืนให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 690 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีสว่านไฟฟ้าไร้สาย ผู้บริโภคสั่งซื้อสว่านไฟฟ้าไร้สายราคา 790 บาท แต่ได้รับแบตเตอรี่ไม่ครบ และผู้ขายไม่ยอมจัดส่งส่วนที่เหลือให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายส่งมอบแบตเตอรี่ที่เหลือและคืนเงิน 790 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีเสื้อยืดพร้อมสกรีน ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อยืดสกรีนภาพขาวดำแบบดิจิทัล 12 ตัว ราคา 2,960 บาท แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 2,960 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีกุ้งแห้งไม่ตรงตามข้อตกลง ผู้บริโภคสั่งซื้อกุ้งแห้ง 1 กิโลกรัม ราคา 499 บาท แบบเก็บเงินปลายทาง แต่เมื่อได้รับสินค้าและชำระเงินแล้วพบว่าไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ มติที่ประชุมดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 499 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- กรณีแพ็กเกจอาหารคลีน ผู้บริโภคสั่งซื้อแพ็กเกจอาหารคลีนราคา 8,400 บาท แต่ไม่ได้รับอาหารตามเวลาที่กำหนด มีการเลื่อนส่งและอาหารตกหล่น จึงขอยกเลิกและขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 7,233.33 บาท พร้อมดอกเบี้ย
สรุปผลการดำเนินคดี ที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจทั้งหมด 43 รายแบ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ 9 ราย และผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป 34 ราย เพื่อบังคับให้คืนเงินแก่ผู้บริโภครวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30,907,911.70 บาท (สามสิบล้านเก้าแสนเจ็ดพันเก้าร้อยสิบเอ็ดบาทเจ็ดสิบสตางค์) พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังจะเสนอเรื่องต่อศาลเพื่อพิจารณาสั่งให้บริษัทและผู้มีอำนาจลงนามจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติมจากค่าเสียหายที่แท้จริงตามที่ศาลเห็นสมควร
Social Links