คู่แฝดดิจิทัล เริ่มมีใช้ในวงการแพทย์
มองเห็นภาพรวมร่างกายของแต่ละคน
สุทธิชัย ทักษนัต์
Digital Twins หรือ “คู่แฝดดิจิทัล” เป็นเทคโนโลยีที่สร้างแบบจำลองเสมือนจริงของวัตถุ ระบบ หรือกระบวนการต่างๆ โดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อจำลองการทำงานและพฤติกรรมในโลกจริง
ตัวอย่าง Digital Twins ที่มีการใช้กันจริง เช่น อุตสาหกรรมการผลิต การบิน การออกแบบและทดสอบผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการเครือข่ายพลังงาน การจัดการฟาร์มอัจฉริยะ การออกแบบและการวางแผนโครงการก่อสร้าง การบริหารจัดการอาคาร เมืองอัจฉริยะ ฯลฯ
ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนา Digital Twins of Human Organs หมายถึงฝาแฝดดิจิทัลของมนุษย์แต่ละคน ซึ่งมีการจำลองโครงสร้างและอวัยวะมนุษย์แต่ละคนออกมาเป็นรูปแบบดิจิทัลข้อมูลที่สามารถใช้สร้าง คู่แฝดดิจิทัล ของแต่ละคน เช่น
- ใช้ MRI และ CT scan เพื่อสร้างภาพ 3 มิติของอวัยวะ
- ใช้อัลตราซาวด์พิเศษที่สามารถวัดการไหลเวียนของเลือด
- ใช้การสแกนเพื่อระบุพื้นที่ที่มีความเสียหายของเนื้อเยื่อ
- ใช้ ECG เพื่อวัดสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจ
- วิเคราะห์การส่งผ่านสัญญาณไฟฟ้าในเนื้อเยื่อ
- ใช้สมการทางคณิตศาสตร์ในการคำนวณคุณสมบัติของเนื้อเยื่อ
- อ้างอิงจากผลการศึกษาที่มีอยู่เดิมเกี่ยวกับหัวใจมนุษย์
- ใช้ข้อมูลจากการวิจัยโรคที่ผู้ป่วยเป็น
โครงสร้างและอวัยวะของผู้ป่วยแต่ละคน จะถูกจำลองออกมาเป็นข้อมูลดิจิทัลที่เห็นภาพและมีข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนแบบองค์รวม ประโยชน์ที่ได้รับ เช่น
-แพทย์มีข้อมูลทุกด้านรวบรวมอยู่ในที่เดียวกัน วิเคราะห์และหาแนวทางรักษาได้ดีขึ้น
-มีแบบจำลองดิจิทัลของผู้ป่วยที่สามารถอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจขั้นตอนการรักษาต่างๆได้ดีขึ้น ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการรักษามากขึ้น
-จำลองแนวทางการรักษาแบบต่างๆกับฝาแฝดดิจิทัลได้ สามารถประเมินผลการทบได้ล่วงหน้า
-ข้อมูลที่ครบถ้วน ทำให้เห็นแนวทางการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
-ในกรณีที่ต้องผ่าตัด แพทย์สามารถฝึกฝนการผ่าตัดแบบดิจิทัลกับฝาแฝดดิจิทัลของผู้ป่วยรายนั้นล่วงหน้า ลองผิดลองถูกก่อนผ่าตัดจริง ทำให้มีความชำนาญมากขึ้น คาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า เพิ่มเติมความแม่นยำในการผ่าตัด ลดความเสี่ยงเวลาผ่าตัดจริง
คาดว่าภายใน 5-10 ปีข้างหน้า Digital Twins จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาพยาบาล และจะพัฒนาไปสู่การสร้างแบบจำลองร่างกายทั้งหมดที่สมบูรณ์ ซึ่งจะปฏิวัติวงการแพทย์และการรักษาแบบเฉพาะบุคคล
การรักษาผู้ป่วยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การผ่าตัดหัวใจ หรือการรักษาโรคที่ซับซ้อน
Social Links