จบศึกซักฟอกนโยบาย เดอะโชว์ "ลุงตู่" มัสโกออนยังมีเสียวลุ้นระทึก??
นายจักรยาน
การแสดงซักฟอกนโยบายรัฐบาล "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภาค 2 ในเวทีที่ประชุมรัฐสภาก็จบเสร็จสิ้นลงไปแล้วตามกติกาของรัฐธรรมนูญ
ต่อจากนี้ไป "ลุงตู่" ที่เป็นกัปตัน "เรือเหล็ก" ต้องพิสูจน์แสดงฝีไม้ลายมือในการบริหารประเทศชาติให้ประชาชนได้รับรู้่ว่าเป็นไปตามนโยบายหลัก 12 เรื่อง และนโยบาย 12 เร่งด่วนหรือไม่
ในการแสดงรุมถล่มนโยบายรัฐบาลของบรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เป็นไปตามบรรยากาศเดิม ๆ ของเวทีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้้ง มีทั้งบทดุเดือดเลือดพล่าน ด่ากราดไปทั่ว บทโมโหอารมณ์เสีย บทท้าตีท้าต่อย บทประท้วงกันไปมา บทคนละเรื่องเดียวกัน และบทมุกที่ทำให้มีเสียงหัวเราะครื้นเครง
การแสดงของรัฐบาลและฝ่ายค้านในเรื่องนโยบายรัฐบาลที่ใช้เวลา 33 ชั่วโมงกว่าระหว่างวันที่ 25 – 26 กรกฎาคม 2562 เลยเที่ยงคืนไปสู่วันที่ 27 กรกฏาคม 2562 ในเวลาตีสามกว่า ๆ ซึ่งมีหลายวาทะที่ที่เอ่ยออกมาจากปากท่านผู้ทรงเกียรติให้จดจำกันไว้จากการแสดงในเวทีรัฐสภาครั้งนี้
ยกตัวอย่างเช่น คำว่า "คนตลก " และ "คนสวย" กลายเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม จึงต้องให้มีการ "ถอนคำพูด" ดังนั้นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดต่อ ๆ ไปคำว่า "คนตลก" และ "คนสวย" อาจเป็นคำต้องห้าม!!
แต่คำพูดที่ไม่เหมาะสมที่ได้ยินได้ฟังทั้งประเทศ ก็คือ "ส.ส.ขี้ข้าโจร" และ "เลียร้องเท้าทหาร" เพียงทำให้คนละขั้วการเมืองก็สะใจไปเท่านั้น แต่ก็หาประโยชน์อันใดไม่ได้จากคำพูดดังกล่า
และเรื่องที่ต้องจดจำเอาไว้ ก็คือการปะทะวาจากันดุเดือดจนต้องตัดพี่ต้ดน้องระหว่าง "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ "พี่ตู่" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเตรียมทหารด้่วย ซึ่ง "พี่ตู่" อยู่รุ่น 8 ส่วน "ลุงตู่" อยู่รุ่น 12!!
นอกจากนี้การลุกขึ้นประท้วงของ ส.ส.ซีกรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก็มีแปลกกว่าที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะอดีตพระเอกคนดัง "กรุง ศรีวิไล" ส.ส.พรรคพลังประชารัฐมีอารมณ์ขันในการประท้วงว่า "ใครไม่หล่อกว่าผม อย่าประท้วง"
ดีนะ ที่ไม่มีใครลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูดคำว่า "ไม่หล่อ" ซึ่งตีความได้ว่าท่านผู้ทรงเกียรติชายทุกคน "หล่อ" กันทั้งนั้น??
แม้ว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาล "ลุงตู่" จะไม่ใช่เป็นเรื่องอันตรายต่อรัฐบาลที่จะทำให้ "เรือเหล็ก" ปริ่มน้ำอัปปางลงไป เพราะไม่ต้องเสียวลุ้นระทึกการไม่ไว้วางใจของที่ประชุมรัฐสภา
ทว่า "ลุงตู่" ยังต้องผจญกับภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง เรื่องการที่ ส.ส.ฝ่ายค้านได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความว่า "ลุงตู่" เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ เนื่องจากเป็นสิ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ยังไม่มีใครคาดได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยตัดสินอย่างไร ซึ่งมีทั้งรอดและไม่รอด??
อีกเรื่องที่อาจทำให้สั่นสะทือนในวงการเมืองได้ก็คือ ทุกฝ่ายกำลังรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีถือครองหุ้นสื่อของ "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะรอดหรือไม่รอดเช่นกัน
รวมทั้งบรรดา ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านกว่า 50 ท่านผู้ทรงเกียรติ ก็โดนแต่ละฝ่ายยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูยตีความตัดในปมถือหุ้นสื่อให้หนาว ๆ ร้อน ๆ กันทุกคน
ก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าจะตกเก้าอี้ ส.ส.กันทุกคน หรือหล่นเพียงครึ่งเดียว??
การเมืองที่เป็นอันตรายในเรื่องปมหุ้นสื่อดังกล่าว ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้า ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน จำนวนหนึ่ง!!
ไม่ว่าปม "เจ้าหน้าที่ของรัฐ" ของ "ลุงตู่" จะผ่านไปได้ด้วยดี หรือตกสวรรค๋ "พรรคพลังประชารัฐ" ก็ยังคงเป็นแกนนำรัฐบาล ไม่เปลี่ยนแปลง!!
ด้วยเหตุฉะนี้ อย่าได้ประมาทอันตรายทางการเมืองเป็นอันขาด เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้นอย่างไม่คาดฝัน??
ทราบแล้วเปลี่ยน!!
Social Links