จับตาดูการกำเนิด "รัฐบาลใหม่"จะผจญ "กรงกรรม" จากอิทธิฤทธ์ของรัฐธรรมนูญปี 60 หรือไม่??
ในที่สุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการเลือกต้้ง (กกต.) ได้ประกาศรายชื่อ ส.ส.เขต ครบทุกจังหวัดจำนวน 349 ท่านผู้ทรงเกียรติ
ซึ่งการรับรอง ส.ส.เขตของ กกต.ก็เกือบ 100 % เหลือเพียง 1 พระคุณท่านของเขต 8 จังหวัดเชียงใหมที่ต้องเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม นี้
แต่ช้าแต่…มิใช่ว่า ส.ส.เขตทุกคนจะยิ้มได้สบายใจที่ได้เป็น ส.ส.สมใจปรารถนา เพราะยังมี ส.ส.จำนวนหนึ่งที่ถูกร้องเรียนในเรื่องความโปร่งใสอาจโดนสอยตกเก้าอี้ได้ในภายหลังภายใน 1 ปีตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ
ส่วนวิธีคิดคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์เมื่อช่วงสายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ว่า กฎหมายว่าด้วยการเลือกตี้ง ส.ส. มาตรา 128 ไม่ได้ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ในหลักเกณฑ์คิดคำนวณให้ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
จากนั้นในตอนเย็น กกต. ก็ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ทันทีจำนวน 149 คน จาก 26 พรรคการเมือง โดยมีพรรคเล็กได้รับการแจกเก้าอี้คนละ 1 ที่จำนวน 11 จากเกณฑ์เฉลี่ยต่ำกว่า 7 หมื่นกว่าคะแนน
ซึ่ง กกต.ยืนยันการคิดคำนวณสูตรปาร์ตี้ลิสต์เป็นไปตามสูตรของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
ทว่าผู้ที่ถูกรับรองเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคการเมืองที่มีเรื่องร้องเรียนการถือครองหุ้นสื่อกันหลายคน อาจใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพราะมีสิทธิถูกสอยตกเก้าอี้ได้ในภายหลัง ถ้ามีหลีกฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญเจ้าปัญหาฉบับใหม่
การที่ กกต.ใจดีคิดสูตรคำนวณที่แจกเก้าอี้ให้ 11 พรรคเล็กคนละ 1 เก้าอี้นี้น มี 2 พรรคการเมืองที่ออกมาโวยวายคัดค้านทันควัน คือ "พรรคเพื่อไทย" ได้มีแถลงการณ์ในนามพรรคว่า การแจกที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้แก่พรรคเล็กอีก 11 พรรคนั้น ขัดรัฐธรรมนูญ
เช่นเดียวกับ "พรรคอนาคตใหม่" ที่ห้วหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ได้ร่วมกันคัดค้านว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็เหมือนกับค้านในนามองพรรค
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีเพียงสมาชิกพรรค อดีต กกต. ส.ส.สอบตก จ.สมุทรสาคร และสมาชิกพรรคที่รักษาการกรรมการบริหารพรรค ได้ออกมาค้านสูตรคำนวณที่เอื้ออาทรไปถึงพรรคเล็กว่า ขัดรัฐธรรมนูญ
ถ้าจะว่าพรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรคคัดค้านก็ไม่น่าจะใช่ เพราะผิดกติกามารยาทระเบียบของพรรค??
อ๊ะ อ๊ะ อาจมีหลาย ๆ คนตั้งข้อสงสัยปุจฉาว่า "พรรคเพื่อไทย" ไม่มีปาร์ตี้ลิสต์ส้กคนเดึยว ออกแถลงการณ์โจมตีการคิดสูตรปาร์ตี้ลิสต์ทำไม
ก็มีคำวิสัชนามาจากผู้สอดรู้สอดเห็นว่า เป็นเพรา "พรรคเพื่อไทย" ไม่อยากให้พรรคเล็กได้ ส.ส.ปาร์ตี้้ลิสต์ เพราะจำนวน 11 พรรคเล็กที่ได้ก็ต้องไปร่วมกับขั้ว "พรรคพลังประชารัฐ" จนมีคะแนนเสียงเกินครึ่งของ 500 ส.ส.ในการจัดตั้งรัฐบาล
เพราะยังไง ๆ พรรคเล็ก 11 พรรคคงไม่ไปร่วมกับ "พรรคเพื่อไทย" ให้เสียเจตนารมณ์ของคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่!?!
ส่วน "พรรคอนาคตใหม่" ที่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 50 คน ก็ยังไม่เพียงพอ อ้างเหตุผลว่าการคิดสูตรดังกล่าวทำให้พรรคตนเองตกน้ำเสียเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ไป 7 คน
ด้วยเหตุฉะนี้ ทั้ง 2 พรรคที่ยกยอตัวเองเป็นฝั่งประชาธิปไตยก็ประสานเสียงเป็นทิศทางเดียวกันว่า ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญว่า การคิดสูตรของ กกต.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
เพราะฉะนั้น สูตรปาร์ตี้ลิสต์เจ้าปัญหา ก็คงต้องไปจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญ!!
เมื่อทราบผลอย่างเป็นทางการทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสตเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน กกต.แล้ว ทุกฝ่ายก็จับตาดูว่า พรรคแกนนำไหนจะรวบรวมคะแนนเท่าไหร่
มีกระแสวิเคราะห์กันแซ่ดว่า "พรรคพลังประชารัฐ" ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชัวร์ เพราะมีพรรคมาร่วมสนับสนุนรวมล้วมากสุด 256 เสียง ต่ำสุด 254 เสียงเกินเลข 500 ไปนิด ๆ
สำหรับ "พรรคเพื่อไทย" หาผู้มาร่่วมด้วยข่วยกันเพียง 245 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนเลข 500 จึงต้องโวยแหลกแบบกัดไม่ปล่อย
อีกข้อกังขาหนึ่งที่สงสัยกันว่า ทำไม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสตจึงประกาศเพียง 149 คนไม่ครบ 150 คน!!
เหตุผลของ กกต.ได้ชี้แจงว่า เป็นเพราะ ส.ส.เขตของ "พรรคเพื่อไทย" มีจำนวนเสียงเกิน ส.ส.ที่พึงมีจากการคำนวณคะแนนเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยทั่วประเทศ
ทำให้การคิดคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสตไม่ลงตัว มาลงองค์ที่ 149 คน!?!
ดังนั้นเหตุฉะนี้ ทุกกระแสก็พุ่งเป้าตรงไปที่ "คนหน้าเดิม" จากการเสนอชื่อแคนดิเดทของ "พรรคพลังประชารัฐ" ได้รีเทิร์นกลับมานั่งนายกรัฐมนตรี 99.99 %!!
ส่วนจะมีพลิกล็อก เป็น"นายกรัฐมนตรี" คนหน้าใหม่หรือไม่ ภายในเดือนมิถุนายน 2562 รู้่แน่ ๆ
สำหรับการฟอร์ม ครม.ชุดใหม่ก็คงไม่เสียเวลาอะไรมากนัก เพราะมีการประสานงานต่อรองเงื่อนไขกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าพรรคไหนได้กี่เก้าอี้รัฐมนตรี??
แต่ ณ เวลานี้ก็มีข่าวปล่อยข่าวลวงข่าวลือในการขิงเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ เพื่อให้มีการต่อรองเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมาอีกให้อรรถรสของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีรสแซ่บจี๊ด
ซึ่งในที่สุดก็ตกลงแบ่งปันเก้าอี้กันลงตัว เพราะทุกพรรคที่มาเข้าร่วมอยากเป็น "รัฐบาล" ทั้งสิ้น??
อย่างไรกระบวนการของ "รัฐบาลใหม่" ที่เริ่มบริหารชาติบ้านเมืองได้ตามรัฐธรรมนุญ ก็คงเป็นเดือนกรกฎาคม 2562 เพราะต้องแถลงนโยบายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรภายใน 15 วัน หลังจากที่ "นายกรัฐมนตรี" นำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันแซ่ดว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีคะแนนเสียงปริ่มน้ำเกิน 250 เสียงไปนิด ๆ จากกึ่งหนึ่งของจำนวน 500 ส.ส. ย่อมมีเหตุของฤกษ์งามยามดีวันใดวันหนึ่งอาจลื่นตกน้ำป๋อมแป๋มได้
สอดคล้องกับผลสำรวจประชาชนของโพลสำนักหนึ่งที่ระบุว่า มีความวิตกจริตต่อสถานการณ์ปริ่มน้ำของรัฐบาลใหม่จะอยู่รอดแค่เดือนธันวาคม 2562 ต้องยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ในต้นปี 2563
อา..รัฐบาลชุดใหม่จะผจญ "กรงกรรม" จากอุบัติการณ์ใหม่ด้วยฤทธิ์เดชของรัฐธรรมนูญปี 2560 อย่างหนักหนาสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน ก็ต้องเวทแอนด์ซี
ก็ขออวยให้รัฐบาลชุดใหม่ฝ่าฟันความวุ่นด้วยความสวัสดีมีชัย!!
นายจักรยาน
Social Links