จับตานวัตกรรม AI สร้างมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีสู่ระดับใหม่

จับตานวัตกรรม AI สร้างมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีสู่ระดับใหม่

จับตานวัตกรรม AI

สร้างมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีสู่ระดับใหม่

 James Chen ประธานฝ่ายธุรกิจผู้ให้บริการของ Huawei กล่าวได้สุนทรพจน์สำคัญในเรื่อง “สร้างสรรค์นวัตกรรมด้วย AI: ขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าของบริษัทเทคโนโลยีขึ้นสู่ระดับใหม่” (“Innovating with AI: Drive Techco Value Creation to New Heights”) โดย Chen ได้ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดสิ้นสุด แต่เป้าหมายสูงสุดของการเปลี่ยนผ่านนั้นก็คือการสร้างมูลค่าขึ้นมา

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีต่างๆ เช่น 5.5G ระบบคลาวด์ และ AI ได้ส่งผลให้ผู้ให้บริการต้องเปลี่ยนผ่านจากผู้ให้บริการเชื่อมต่อทั่วไปเป็นผู้ให้บริการดิจิทัล โดย Huawei ได้นำเสนอโมเดลขีดความสามารถแบบ “Five Ones” เพื่ออำนวยความสะดวกในการพลิกโฉมผู้ให้บริการให้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Techco) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ การดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถคว้าโอกาสในการเปลี่ยนผ่าน และสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องได้ดียิ่งขึ้น

โมเดลการสร้างรายได้หนึ่งเดียว: การสร้างโมเดลใหม่เพื่อสร้างรายได้จากประสบการณ์ที่แตกต่าง

สถานการณ์การบริการส่วนบุคคลรูปแบบใหม่ เช่น การถ่ายทอดสด การเดินทางเพื่อธุรกิจ และการเล่นเกมกำลังถือกำเนิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีรูปแบบบริการรูปแบบใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีใหม่เพื่อส่งมอบประสบการณ์เครือข่ายที่แตกต่างให้กับผู้ใช้และสถานการณ์บริการที่แตกต่างกัน พร้อมกับสร้างรายได้จากข้อเสนอเหล่านี้

AI ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถแนะนำแพ็คเกจต่างๆ ให้กับผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ปรับประสบการณ์เครือข่ายแบบไดนามิกให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด พร้อมแสดงผลลัพธ์การปรับปรุงประสบการณ์ให้ผู้ใช้เห็นได้แบบเรียลไทม์

ทั้งนี้จวบจนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้ให้บริการมากกว่า 35 รายทั่วโลกที่ได้นำโมเดลการสร้างรายได้จากประสบการณ์มาใช้โดยใช้การเรียกเก็บเงินตามอัตรา และตามประสบการณ์

บริการหนึ่งเดียว: การสร้างบริการ AI ที่บ้านเพื่อรองรับการโต้ตอบแบบมัลติมอดัล

บ้านกำลังกลายเป็นระบบอัจฉริยะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ให้บริการสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวได้ผ่านการสร้างพอร์ทัลบริการบ้านอัจฉริยะแบบรวมศูนย์ และอัปเกรดจากผู้ให้บริการแบนด์วิดท์เป็นผู้ให้บริการ AI

ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการในจีนและเกาหลีใต้ได้เปิดตัวฮับ AI สำหรับที่บ้าน ซึ่งรวมเอเจนท์ AI เอาไว้ โดยฮับเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะต่างๆ ผ่านการโต้ตอบแบบมัลติมอดัล พร้อมกับเรียกใช้แอปพลิเคชันอัจฉริยะบนคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของผู้ใช้

แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ครบวงจร: การดำเนินการแพลตฟอร์มระบบคลาวด์สำหรับบริการ B2B

ผู้ให้บริการจำเป็นต้องจัดเตรียมแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่มาพร้อมบริการหลายอย่างเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานการณ์บริการ B2B มากขึ้น และคว้าโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะของอุตสาหกรรม โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการติดตั้งขีดความสามารถใหม่ๆ อาทิเช่น ตลาดบนคลาวด์ และการสร้างโค้ดแบบอัจฉริยะ ซึ่งขีดความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้งานระบบนิเวศได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม และเปิดตัวแอปพลิเคชันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ผู้ให้บริการรายหนึ่งในแอฟริกาเหนือได้ประสบความสำเร็จในการใช้แพลตฟอร์มมัลติคลาวด์เพื่อช่วยเหลือองค์กรและผู้ใช้นับพันในกว่า 10 อุตสาหกรรมเพื่อใช้งานการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล

โมเดลพื้นฐานโทรคมนาคมเดียว: การเปิดตัวเอเจนท์ AI ทั่วไปและดิจิทัล ทวิน

เทคโนโลยี AI ที่ใช้โมเดลพื้นฐานสามารถช่วยให้ผู้ให้บริการกำหนดนิยามใหม่ให้กับประสิทธิภาพของการดำเนินงาน และการบำรุงรักษาได้ การสร้างดิจิทัล ทวินให้กับเครือข่ายและบริการจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถแปลงข้อมูล และสถานการณ์ให้กลายมาเป็นความรู้และขีดความสามารถได้ จากนั้น ผู้ให้บริการก็จะสามารถฝังเทคโนโลยีโมเดลพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเข้าไปในดิจิทัล ทวิน หรือเอเจนท์ AI พร้อมกับฝึกฝนและปรับแต่งโมเดลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับการดำเนินงาน และการบำรุงรักษาตามกิจวัตรได้

ในกรณีความสำเร็จด้านการดำเนินงานและการบำรุงรักษาอัจฉริยะนั้น เทคโนโลยี AI ได้ถูกนำมาใช้เพื่อวินิจฉัย และแก้ไขข้อบกพร่องของเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว โดยลดเวลาในการแก้ไขปัญหาให้เหลือน้อยกว่า 30 นาที

สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานหนึ่งเดียว: การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทำงานร่วมกันในทุกองค์ประกอบ

ในยุคของ AI นั้น โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารจะมาพร้อมกับทรัพยากรต่างๆ มากมาย อาทิเช่น เครือข่าย ที่จัดเก็บข้อมูล ระบบคลาวด์ และทรัพยากรการประมวลผล ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งที่จะต้องวางแผนสถาปัตยกรรมที่ผสานรวมองค์ประกอบทรัพยากรเหล่านี้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

สถาปัตยกรรมนี้ควรรองรับคุณสมบัติสามประการดังต่อไปนี้: การเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ผู้ให้บริการสามารถให้การรับประกันแบบกำหนดได้ และการเชื่อมต่อที่ไม่สูญเสียข้อมูลแก่ผู้ใช้ ระบบคลาวด์อัจฉริยะ ซึ่งรองรับพลังการประมวลผลที่หลากหลายในการใช้งานแบบกระจาย พร้อมกับให้บริการระบบคลาวด์ และบริการประมวลผลอัจฉริยะได้ตามต้องการ และการทำงานร่วมกันแบบอัจฉริยะ ซึ่งผสานรวมองค์ประกอบทรัพยากรทั้งหมดตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการดำเนินการ

สุดท้ายนี้ James Chen ยังได้กล่าวว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วย AI จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านผู้ให้บริการให้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเทคโนโลยี โดย Huawei กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจ การดำเนินงานและการบำรุงรักษา และโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อสร้างมูลค่าที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องร่วมกัน และคว้าโอกาสมากมายในยุคของ AI ผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชันระดับชั้นนำ

You may also like

AI มาทำงานแทนคนเป็นเรื่องจริง

AI มาทำง