จับตา “สี จิ้นผิง” เยือนตะวันออกกลาง

จับตา “สี จิ้นผิง” เยือนตะวันออกกลาง

            นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-รัฐอาหรับ ครั้งแรก และการประชุมสุดยอดจีน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม ตามคำเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อัล ซาอุด

ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนธันวาคม กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่าการประชุมสุดยอดนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญ โดยผู้นำของทั้งสองประเทศจะใช้โอกาสนี้ในการวางแผนความร่วมมือในอนาคต พร้อมผลักดันการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนรวบรวมฉันทามติเกี่ยวกับธรรมาภิบาลโลก การพัฒนาโลก ความมั่นคงโลก และประเด็นสำคัญอื่น ๆ

รายงานดังกล่าวมีชื่อว่า “ความร่วมมือจีน-อาหรับในยุคใหม่” โดยเน้นย้ำความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ตลอดจนการสนับสนุนซึ่งกันและกันและความมุ่งมั่นร่วมกันในประเด็นหลักต่าง ๆ

จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศอาหรับ โดยในปี 2564 มูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ราว 3.30 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปี

จีนยินดีจับมือกับรัฐอาหรับเพื่อส่งเสริมความร่วมมือคุณภาพสูงภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุในจดหมายแสดงความยินดีกับมหกรรมแสดงสินค้าจีน-รัฐอาหรับ ครั้งที่ 5 เมื่อปีที่แล้ว

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างประชาชนจีนและรัฐอาหรับแข็งแกร่งขึ้นตามกาลเวลา ขณะเดียวกัน จีนและรัฐอาหรับยังคงเสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์และความร่วมมือในการดำเนินงานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การร่วมกันสร้างโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การประชุมความร่วมมือสื่อจีน-อาหรับ ประจำปี 2565 ซึ่งร่วมกันจัดโดยไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group หรือ CMG) และกระทรวงสื่อของซาอุดีอาระเบีย ณ กรุงริยาด ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

แขกผู้มีเกียรติกว่า 150 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐ ตัวแทนจากองค์กรสื่อ รวมถึงนักวิชาการจากจีนและ 22 ประเทศอาหรับ ต่างเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนได้ขยายความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาหรับในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ โดยร่วมกันจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพลังงานสะอาดจีน-อาหรับ ห้องปฏิบัติการ พลังงานหมุนเวียนจีน-อียิปต์ และดำเนินโครงการความร่วมมือต่าง ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อัลคาร์ซาห์ (Al Kharsaah Solar Power Plant) ขนาด 800 เมกะวัตต์ในกาตาร์ และสถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 186 เมกะวัตต์ ณ อุทยานพลังงานแสงอาทิตย์เบนบาน (Benban Solar Energy Park) ในอียิปต์

จนถึงปัจจุบัน จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับ 20 รัฐอาหรับและสันนิบาตอาหรับ โดยทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินโครงการความร่วมมือขนาดใหญ่มากกว่า 200 โครงการในด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และอื่น ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเกือบ 2 พันล้านคน

“ทุกคนบอกว่าความร่วมมือจีน-อาหรับในยุคใหม่เป็นวิสัยทัศน์อันทรงพลังที่นำพาประชาคมทั้งหมดไปสู่อนาคตของความก้าวหน้าหลายด้าน” ฮันนัน ฮุสเซน อดีตผู้ช่วยนักวิจัยของสถาบันวิจัยนโยบายอิสลามาบัด (Islamabad Policy Research Institute) ระบุในบทความที่เขียนให้กับสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN)