จับมุมคิด”เศรษฐกิจไทย” จาก “กรณ์ จาติกวณิชย์”

จับมุมคิด”เศรษฐกิจไทย” จาก “กรณ์ จาติกวณิชย์”

จับมุมคิด”เศรษฐกิจไทย”

จาก “กรณ์ จาติกวณิชย์”

งานสัมมนาลูกค้าประจำปี 2025 ของ โรเบิร์ต วอลเทอร์ส

โรเบิร์ต วอลเทอร์ส คือบริษัทที่องค์กรทั่วโลกไว้วางใจในด้านโซลูชันการสรรหาและพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรระดับสูง เรามีบริการครอบคลุมทั้งการสรรหาบุคลากร การจัดการกระบวนการสรรหา (RPO) และการให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลแก่ธุรกิจทุกขนาด เรามุ่งมั่นที่จะช่วยองค์กรค้นหาบุคลากรที่มีทักษะและศักยภาพตรงตามความต้องการ เพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ ขณะเดียวกัน เรายังสนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีความสามารถได้พัฒนาศักยภาพเฉพาะตัวอย่างเต็มที่ และก้าวสู่ความสำเร็จในเส้นทางอาชีพของตนเอง

โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประเทศไทย ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบเอ็กซ์คลูซีฟในหัวข้อ “Unlocking Thailand’s Potential – Navigating Challenges and Seizing Opportunities” โดยงานนี้ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงและซีอีโอจากบริษัทชั้นนำของไทยกว่า 40 บริษัทมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากคุณกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและนักลงทุนผู้มากประสบการณ์ เข้าร่วมงานในครั้งนี้

งานสัมมนาลูกค้าประจำปี 2025 ของ โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประจำปีนี้ ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้นำธุรกิจในการหารือเกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ ขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และสร้างแนวคิดที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ผ่านการเชื่อมโยงและความร่วมมือร่วมกัน

ในปีนี้ โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ได้ร่วมจัดงานกับพันธมิตรทั้ง 2 ได้แก่ Kuvera Capital Company Limited และ Ultimate Destiny โดย Kuvera Capital เป็นบริษัทไพรเวทอิควิตี้และการลงทุนทางเลือก โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าในระยะยาวผ่านโอกาสในการพลิกฟื้นธุรกิจ การลงทุนด้านโลจิสติกส์ และสถานการณ์พิเศษต่าง ๆ บริษัทให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยง การบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างมีวินัย และความโปร่งใส ซึ่งช่วยสร้างตำแหน่งของบริษัทในฐานะพันธมิตรที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่าสำหรับนักลงทุน ส่วน Ultimate Destiny เป็นบริษัทที่ปรึกษาและฝึกอบรมระดับพรีเมียม ที่ผสานภูมิปัญญาตะวันออกเข้ากับศาสตร์การพัฒนาองค์กรสมัยใหม่ โดยมีพันธกิจในการช่วยให้องค์กรและบุคคลเปลี่ยนพลังจากภายในให้กลายเป็นผลลัพธ์ภายนอก เชื่อมโยง “คน – เป้าหมาย – ผลงาน” ให้เดินไปด้วยกันอย่างสมดุล

ภายในงาน คุณกรณ์ได้สะท้อนภาพรวมของสถานการณ์ปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งอธิบายถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองและภาวะชะลอตัวทางโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยตัวเขาเองต้องถอนการลงทุนจากตลาดทุนไทยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คุณกรณ์ก็ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก จากการที่ผู้คนตื่นรู้ทางการเมืองมากขึ้น การเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ และการที่สังคมตระหนักมากขึ้นว่าการประท้วงบนท้องถนนอย่างเดียวไม่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สามาถสร้างจุดยืนใหม่ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในภูมิภาคได้

คุณกรณ์เน้นว่า การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง จำเป็นต้องเกิดควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เขาเสนอให้ปฏิรูป พลังงานโดยการแยกส่วนการผลิตและการส่งไฟฟ้าออกจากกัน การเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพลังงานอิสระสามารถขายไฟฟ้าโดยตรงให้แก่ผู้ใช้รายใหญ่ได้โดยตรง จะช่วยลดค่าไฟฟ้า ดึงดูดการลงทุนในพลังงานทดแทน และยังช่วยสร้างความโปร่งใสในการแข่งขันทางธุรกิจอีกด้วย

ในภาคเกษตรกรรม คุณกรณ์เสนอให้รวมกลุ่มเกษตรกรรายย่อยเข้าด้วยกันเป็นองค์กรขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง เข้าถึงแหล่งทุน และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม โดยยกตัวอย่างโมเดลสหกรณ์ผลิตภัณฑ์นมของประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ในด้านสุขภาพและเทคโนโลยีทางการแพทย์ เขาได้เน้นถึงข้อได้เปรียบของประเทศไทยในการให้บริการผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายล้านคนต่อปี พร้อมเสนอให้สร้างความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและบริษัทเทคโนโลยี เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์

คุณกรณ์ยังกล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เนื่องจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่เคยเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจกำลังลดลง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างประชากรที่เคยหนุ่มสาว หรือพลังงานราคาถูก ขณะที่ประเทศยังต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ภาวะเงินฝืดและสังคมผู้สูงอายุ เขาจึงเน้นย้ำว่าประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์ระยะยาว มากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระยะสั้น

ในด้านการเงิน คุณกรณ์ได้ชี้ให้เห็นถึงต้นทุนการทำธุรกรรมที่สูงซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปล่อยสินเชื่อแก่ SME และเสนอให้มีการนำกระบวนการทางการเงินและระบบราชการเข้าสู่ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดปัญหาคอร์รัปชัน

ในประเด็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คุณกรณ์เน้นย้ำถึงทุนวัฒนธรรมของไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ดนตรี งานฝีมือ หรือกีฬา ที่มีศักยภาพในการก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลก โดยเริ่มจากการสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนจากภาคเอกชน พร้อมทั้งสนับสนุนด้วยนโยบายที่มุ่งคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เขายกตัวอย่างกระแส K-pop ของเกาหลีใต้ ซึ่งเกิดจากการขับเคลื่อนของภาคเอกชนก่อนที่รัฐจะเข้ามาสนับสนุน

ในการปิดงาน คุณกรณ์เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้นำที่มองการณ์ไกลและมีวิสัยทัศน์ ในการกำหนดอนาคตของประเทศไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ภาคธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย และประชาชนร่วมกันผลักดันโครงการที่แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างลึกซึ้งเพื่อความก้าวหน้าในระยะยาว สุดท้าย เขาแสดงความมั่นใจในความสามารถของประเทศไทยที่จะปรับตัวและพัฒนาระบบการปกครองให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและเศรษฐกิจ

คุณปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประจำประเทศไทย เน้นย้ำว่า โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ไม่ใช่แค่บริษัทที่องค์กรทั่วโลกไว้วางใจในด้านโซลูชันการสรรหาและพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรที่มุ่งมั่นในการพัฒนาระบบนิเวศด้านบุคลากรของประเทศไทยอีกด้วย “เป้าหมายของเราคือการเชื่อมโยงผู้นำทางความคิด ส่งเสริมความร่วมมือ และผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทย ทั้งหมดนี้โดยยึดมั่นในจุดมุ่งหมายของเราในการเสริมพลังให้ผู้คนและองค์กรในการเติมเต็มศักยภาพอันเป็นเอกลักษณ์ (powering people and organisations to fulfil their unique potential)” เธอกล่าว

โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อ Kuvera Capital และ Ultimate Destiny สำหรับการสนับสนุนอันทรงคุณค่า ที่ช่วยให้งานนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในขณะที่เรามองไปข้างหน้า เราขอเชิญชวนให้แวดวงธุรกิจเดินหน้าส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำรวจโอกาสในการร่วมมือกัน และทำงานร่วมกันเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน      

You may also like

แถลงนโยบายรัฐบาล”อนุทิน” มาตรการ Quick Win ช่วยประคองเศรษฐกิจท้ายปี

แถลงนโยบ