"ดร.พิสิฐ”ติงรายได้กัญชาเข้า อย.
แทนที่จะเข้าคลังและส่ง สสส.
พร้อมชี้โครงสร้าง คกก. ผิดฝาผิดตัว หวั่นไม่เอื้อประโยชน์เกษตรกรจริง
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. และร่าง พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ว่า แนวคิดในเรื่องของการนำเสนอกฎหมายฉบับนี้ กับสิ่งที่เราพยายามอธิบายนั้น ทำให้ตนยังมีความรู้สึกไม่สบายใจและเห็นว่ามีความย้อนแย้งกัน เนื่องจากมีหลายท่านพูดถึงประโยชน์ที่จะตกกับเกษตรกรผู้เพาะปลูกว่าชาวบ้านจะได้ประโยชน์ ขณะที่หลายท่านเป็นห่วงเรื่องของผลต่อเยาวชน ผลต่อการเกิดการเสพติด และที่น่าแปลกว่ากฎหมายฉบับนี้โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเลขานุการ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ซึ่งตามหลักแล้ว ในประเทศต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นฝ่ายที่เป็นห่วงในเรื่องของสาธารณสุขในเรื่องของประชาชน แต่กลายเป็นว่าสาธารณสุขผลักดันในเรื่องนี้ โดยอ้างถึงประโยชน์ที่จะตกกับเกษตรกร
จากการที่ตนได้เคยศึกษาอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ และอยู่ในเหตุการณ์ช่วงที่เขาเปิดเสรีในเรื่องนี้ ช่วงปี 1970 ซึ่งสิ่งที่ฮอลแลนด์ทำนั้นไม่ใช่เป็นเพราะเห็นดีเห็นงาม แต่เป็นเพราะต้องการเปิดกว้างขึ้นโดยที่เห็นว่าเป็นโทษ ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากฎหมายปัจจุบันยังมีการห้ามอยู่ เพียงแต่เปิดช่องให้เฉพาะในบางพื้นที่ เช่นเมืองอัมสเตอร์ดัม ในพื้นที่ที่มีการค้าประเวณีเป็นต้น โดยสาเหตุที่เปิดนั้นเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะห้ามอย่างไร จึงเปิดช่องให้เท่านั้น แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเห็นประโยชน์ว่าคนฮอลแลนด์จะได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือทางการแพทย์จะได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้
ส่วนประเด็นที่มีหลายท่านอภิปรายว่า ชาวบ้านและเกษตรกรจะได้ประโยชน์นั้น แต่ในร่างกฎหมายฉบับนี้ก็เปิดช่องให้มีการนำเข้าด้วย ดังนั้นหากมีประเทศที่สามารถผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเรา และมีผู้นำเข้ามาขายอย่างโจ่งแจ้ง ก็จะทำให้เกิดเป็นคำถามใหญ่ว่าเกษตรกรจะสู้ได้หรือไม่ เนื่องจากมีการให้ใบอนุญาตเพื่อการนำเข้าด้วย ขณะที่ผู้เพาะปลูก หรือดำเนินการในเรื่องนี้จะต้องเสียค่าใบอนุญาตถึง 50,000 บาท ในเวลาเพียง 3 ปี ดังนั้นจะมีเกษตรกรกี่รายที่เป็นรายย่อยที่จะมีเงิน 50,000 บาทมาจ่ายล่วงหน้าก่อน
ดังนั้น ดร.พิสิฐ จึงเห็นว่า หาก กมธ. วิสามัญ จะได้พิจารณาเรื่องนี้ ก็คงต้องมีการปกป้องรายย่อยที่จะปลูกเพียงไม่กี่ต้นให้เกิดขึ้นได้ และยังมีประเด็นที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม ที่นอกเหนือจากการเก็บค่าธรรมเนียมที่แพงมาก จนคิดว่าเกษตรกรไม่น่าจะมีสามารถจ่ายได้แล้ว ก็ยังมีประเด็นในเรื่องของการนำรายได้ส่วนนี้เก็บไว้ที่ อย. ทำให้เป็นห่วงและสงสัยว่าเงินนอกงบประมาณในส่วนนี้ อย. จะนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องใด ซึ่งความจริงแล้วควรจะเป็นรายได้แผ่นดิน เพื่อให้ระบบการคลังเข้มแข็ง หากทุกองค์กรคิดอ่านแต่จะเอารายได้ ค่าธรรมเนียมเข้ากระเป๋าตัวเอง ระบบงบประมาณที่พิจารณาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็คงจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และตัวแทนของกระทรวงการคลังในคณะกรรมการชุดนี้ก็น่าแปลก แทนที่จะมีผู้ใหญ่ของกระทรวง แต่กลับเป็นกรมศุลกากร เมื่อถามว่ากรมศุลกากรจะมีประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งก็คงจะเอื้อประโยชน์ในเรื่องการนำเข้า ดังนั้นถ้าจะให้มีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ตนก็ขอเสนอให้มีตัวแทนจากกรมสรรพสามิตมากกว่า เพราะเงินที่เก็บได้ส่วนหนึ่งคงต้องคำนึงถึงเรื่องภาษีสรรพสามิต และมีการนำส่ง สสส. ด้วย เพราะเป็นหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพคนไทย ซึ่งกัญชง กัญชานี้ก็ถือว่าเป็นสารเสพติด เช่นเดียวกับสุราและบุหรี่ นอกจากนี้ในส่วนของเลขาธิการหน่วยงานแทนที่จะเป็น อย. ซึ่งอยู่ในเขตเมือง และอาจจะไม่ได้สัมผัสกับชนบท ก็น่าจะเป็นการยาสูบแห่งประเทศไทยมากกว่า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว
Social Links