“ดีดีพร็อพเพอร์ตี้”เผยสุดยอดทำเลทอง ครองใจคนหาบ้านปี 65
ปี 2565 เป็นปีแห่งความหวังของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่กลายเป็นว่าต้องเผชิญมรสุมความท้าทายทั้งจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ผนวกกับภาวะเงินเฟ้อที่ผลักดันให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ล้วนส่งผลให้ทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ปีนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิดไว้ อย่างไรก็ดีมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ ของภาครัฐอย่างต่อเนื่องและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ดึงดูดให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้มากขึ้น ข้อมูลจากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 46.1 เป็น 47.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา ถือเป็นสัญญาณบวกสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้กลับมาแล้ว
ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด พบว่า ปัจจัยภายนอกที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ เมื่อเลือกซื้อที่อยู่อาศัยนั้น มากกว่าครึ่งต้องการโครงการที่เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (53%) ตามมาด้วยเลือกจากทำเลที่ตั้งของโครงการ (50%) สะท้อนให้เห็นว่าคนหาบ้านปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมรองรับการเดินทางไปทำงานและไลฟ์สไตล์ทุกด้านด้วยนั่นเอง
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.ddproperty.com และแอปพลิเคชัน DDproperty ในรอบปี 2565 (เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565) สะท้อนเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ
“กรุงเทพฯ” ครองใจคนซื้อบ้าน จังหวัดปริมณฑลมาแรงแซงเมืองท่องเที่ยว
กรุงเทพฯ ยังครองความนิยมเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจซื้ออสังหาฯ มากที่สุดในรอบปี 2565 ตามมาด้วย อันดับ 2 นนทบุรี, อันดับ 3 สมุทรปราการ, อันดับ 4 ปทุมธานี, อันดับ 5 ชลบุรี, อันดับ 6 เชียงใหม่, อันดับ 7 ประจวบคีรีขันธ์, อันดับ 8 ภูเก็ต, อันดับ 9 พัทยา และอันดับ 10 นครปฐม
โดย 4 อันดับแรกอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งสิ้น นอกจากนี้เองผลจากการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมขนส่ง และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ครอบคลุม และเชื่อมต่อการเดินทางทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยไม่ได้กระจุกตัวแค่ในเมืองหลวงอีกต่อไป ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่นอกเมืองหลวงกลายเป็นทำเลที่น่าจับตามองและเติบโตตามไปด้วย
โดย “คอนโดฯ” กลายเป็นประเภทอสังหาฯ ที่มีการค้นหามากที่สุดทั่วประเทศในรอบปีที่ผ่านมา ด้วยสัดส่วน 42% ตามมาด้วยบ้านเดี่ยวในสัดส่วนที่ไล่เลี่ยกัน (40%) และทาวน์เฮ้าส์ (18%) สะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ที่อยู่อาศัยแนวดิ่งยังคงเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ แม้จะไม่มีการเติบโตอย่างหวือหวา แต่การแข่งขันเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ออกไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ถือเป็นการขยายโอกาสไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ยังคงมีดีมานด์อีกด้วย
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองดัน “สวนหลวง” ทำเลยอดนิยมในหมู่ผู้ซื้อ
สำหรับตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะในทำเลที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ยิ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมบนทำเลที่ตอบโจทย์ เมื่อพิจารณาจากจำนวนการเข้าชมประกาศอสังหาฯ สำหรับขายบนเว็บไซต์ DDproperty พบว่า “สวนหลวง” เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 ด้วยความที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบให้เลือก และมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่รองรับการเดินทางที่หลากหลาย เมื่อรวมกับอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่จะเปิดให้บริการในปี 2566 ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าได้หลายเส้นทาง จึงทำให้ “สวนหลวง” กลายเป็นสุดยอดทำเลยอดนิยมในฝั่งผู้ซื้อประจำปีนี้
โดย 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 ได้แก่
อันดับ 1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
อันดับ 2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
อันดับ 3 แขวงบางนา เขตบางนา
อันดับ 4 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
อันดับ 5 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
อันดับ 6 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
อันดับ 7 แขวงจอมพล เขตจตุจักร
อันดับ 8 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
อันดับ 9 แขวงดินแดง เขตดินแดง
อันดับ 10 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุด เมื่อแบ่งตามประเภทของอสังหาฯ แล้วพบว่า ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อคอนโดฯ สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อบ้านเดี่ยวสูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงประเวศ เขตประเวศ
ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อทาวน์เฮ้าส์สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
“บางจาก” ทำเลศักยภาพมาแรง ผู้เช่าค้นหามากที่สุดแห่งปี
ท่ามกลางความท้าทายทางการเงินจากสภาพเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกเช่าแทนการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสะดวกในการโยกย้ายถิ่นฐานมากกว่า ข้อมูลจากจำนวนการเข้าชมประกาศอสังหาฯ ให้เช่า บนเว็บไซต์ DDproperty พบว่า ในปี 2565 นี้ “บางจาก” เป็นทำเลที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุด ด้วยความโดดเด่นจากการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของวัยทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ อยู่ใกล้ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีรถไฟฟ้าผ่าน ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีคอนโดฯ ที่มีราคาเอื้อมถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
โดย 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุดในรอบปี 2565 ได้แก่
อันดับ 1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
อันดับ 2 แขวงบางนา เขตบางนา
อันดับ 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
อันดับ 4 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
อันดับ 5 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย
อันดับ 6 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
อันดับ 7 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
อันดับ 8 แขวงดินแดง เขตดินแดง
อันดับ 9 แขวงจอมพล เขตจตุจักร
อันดับ 10 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
ขณะที่ทำเลที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุดในรอบปี เมื่อแบ่งตามประเภทของอสังหาฯ พบว่า “สวนหลวง” ครอง อันดับ 1 ของการค้นหาที่อยู่อาศัยแนวราบเพื่อเช่า เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงระดับบนทีสามารถเดินทางได้สะดวก
ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าคอนโดฯ สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าบ้านเดี่ยวสูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าทาวน์เฮ้าส์สูงสุดในรอบปี 2565 ได้แก่ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
คอนโดฯ – ทาวน์เฮ้าส์ราคาจับต้องได้ตอบโจทย์ผู้ซื้อ ด้านกลุ่มรายได้สูงมองหาบ้านเดี่ยว
ขณะที่ประเภทอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 พบว่า ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (55%) ค้นหาคอนโดฯ มาเป็นอันดับ 1 สะท้อนให้เห็นว่า คอนโดฯ ยังคงมีดีมานด์ทั้งจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือนักลงทุน เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายในการอยู่อาศัยชัดเจน และมีจุดเด่นที่อำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตในเมืองหลวงได้คล่องตัวกว่า ตามมาด้วยบ้านเดี่ยว (28%) และทาวน์เฮ้าส์ (17%)
โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวกรุงสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2565 เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ระดับราคาคอนโดฯ ที่มีการค้นหามากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ระดับราคา 1-3 ล้านบาท มีการค้นหามากถึง 42% สะท้อนให้เห็นดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-ล่างที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ (Affordable price) หรือซื้อที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรก จึงเลือกที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ และคุ้มค่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยบวกที่ได้จากมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์-ค่าจดจำนอง เหลือเพียง 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้สามารถกู้ได้เต็ม 100% ภายในสิ้นปี 2565 นี้ ตามมาด้วยระดับราคา 5-10 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท (ในสัดส่วน 18% และ 16% ตามลำดับ)
สวนทางกับระดับราคาบ้านเดี่ยวที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี ได้แก่ ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยสัดส่วน 36% ตามมาด้วยระดับราคา 5-10 ล้านบาท (30%) และระดับราคา 3-5 ล้านบาท (20%) สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ในกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีเงินเก็บเพียงพอ ที่สนใจเป็นเจ้าของบ้านหรู (Luxury) โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ และผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่รองรับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว จำเป็นต้องเลือกพิจารณาบ้านเดี่ยวที่ราคาสูงขึ้น เพื่อแลกกับพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์
ส่วนระดับราคาของทาวน์เฮ้าส์ที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี พบว่า ผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) ค้นหาทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 1-3 ล้านบาทมากที่สุด ตามมาด้วยระดับราคา 3-5 ล้านบาท ( 27%) และ 5-10 ล้านบาท (15%) จะเห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคาที่จับต้องได้ เช่นเดียวกับในกลุ่มคอนโดฯ
คอนโดฯ – ทาวน์เฮ้าส์ต่ำ 2 หมื่น ครองใจผู้เช่า
ในฝั่งตลาดเช่าที่อยู่อาศัยพบว่า “คอนโดฯ” ยังคงครองความนิยมและเป็นประเภทอสังหาฯ สำหรับเช่าที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี 2565 ด้วยสัดส่วนถึง 86% เนื่องด้วยเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมเมือง ซึ่งมีทั้งวัยทำงานและวัยเรียนเข้ามากระจุกตัวเป็นจำนวนมาก ด้านที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์นั้นมีความสนใจเช่าในสัดส่วนเท่ากันที่ 7%
เมื่อพิจารณาระดับค่าเช่าต่อเดือนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบปี แบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ระดับค่าเช่าคอนโดฯ ที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี เกือบ 4 ใน 5 ของผู้เช่า (74%) สนใจค้นหาที่ระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการเช่าคอนโดฯ บนทำเลที่เดินทางสะดวก มีระบบความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้ และระบบบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน
อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 38%
อันดับ 2 ระดับค่าเช่า ไม่เกิน 10,000 บาท สัดส่วน 36%
อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 15%
ระดับค่าเช่าบ้านเดี่ยวที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี ผู้เช่ามากกว่าครึ่ง (59%) สนใจเช่าที่ระดับราคา 30,000 บาทขึ้นไป โดยให้ความสำคัญไปที่การเช่าบ้านเดี่ยวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งอยู่ในทำเลทองที่หาซื้อบ้านใหม่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาก มีพื้นที่เพียงพอรองรับการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากเทียบกับการมีภาระหนี้ก้อนโตในระยะยาวจากการซื้อบ้านในเวลานี้
อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 59%
อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 19%
อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 20,000-30,000 บาท สัดส่วน 16%
ระดับค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์ที่มีคนค้นหามากที่สุดในรอบปี ผู้เช่าส่วนใหญ่ (38%) ต้องการเช่าที่ระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท โดยมองว่าเป็นราคาที่สอดคล้องและสมเหตุสมผลในการเช่าทาวน์เฮ้าส์ ที่ได้พื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการเช่าห้องพักหรือคอนโดฯ ซึ่งสามารถต่อยอดในการทำธุรกิจได้ด้วย
อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท สัดส่วน 38%
อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 30,000 บาทขึ้นไป สัดส่วน 27%
อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 20,000-30,000 บาท สัดส่วน 20%
Social Links