“ทีมพัฒนาประกันสังคม” พบสภาองค์การนายจ้างฯ แจงนโยบาย 11 ข้อ เน้นทำงานสอดคล้อง นายจ้าง-ลูกจ้าง เป็นธรรมและเท่าเทียม

“ทีมพัฒนาประกันสังคม” พบสภาองค์การนายจ้างฯ

แจงนโยบาย 11 ข้อ เน้นทำงานสอดคล้อง

นายจ้าง-ลูกจ้าง เป็นธรรมและเท่าเทียม

     ดร. เนาวรัตน์    ทรงสวัสดิ์ชัย   ประธานสถาองค์การนายจ้าง ผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย  ได้เชิญทีมพัฒนาประกันสังคม ซึ่งนำทีมโดย  ดร. ทวีเกียรติ  รองสวัสดิ์    ผู้สมัครคณะกรรมการนายจ้างหรือบอร์ดนายจ้าง  เบอร์  3  พร้อมด้วยคณะทีมพัฒนาประกันสังคม  ประกอบเบอร์  4  นายทรงกรด  ชูศรี   เบอร์ 5 นางสาวเบญจพร  บุษมงคล  เบอร์ 6  นายชัชพงศ์ โชติศิริ เบอร์ 7  นางสาวฟารีดา  บุรณนัฎ  เบอร์ 8 นายสมพงษ์ นครศรี   และเบอร์  62  นางสาวณัฐหทัย  พรชัยศิริมงคล  เพื่อมาชี้แจงนโยบายของทีม “ พัฒนาประกันสังคม “ ของผู้สมัครทั้ง  7  คน  ณ สภาองค์การนายจ้าง ผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย  ณ ห้องประชุมอาคารบางกอกเคเบิ้ล 2   ชั้น 2   กรุงเทพมหานคร    

ดร.ทวีเกรียติ รองสวัสดิ์ หัวหน้าทีมพัฒนาประกันสังคม  กล่าวว่า  การมาชี้แจงนโยบายครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความเข้าใจและแนวคิดในการนำเสนอของนโยบายทั้ง  11  ข้อ  ที่ทีมพัฒนาประกันสังคมให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาพยาบาลว่า

1.นายจ้างไม่ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลที่เกินวงเงินจากเดิมที่ให้วงเงินเพียง  50,000  บาทเท่านั้น

2. ให้นายจ้างสามารถกู้ยืมเงินได้ ที่ว่าเช่นนี้เพราะว่าต้องการช่วยนายจ้างคนรุ่นใหม่ที่ประกอบธุรกิจเพื่อสร้างสภาพคล่องให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ

3.อยากให้มีโรงพยาบาล สถานพยาบาล  ของประกันสังคม  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันเองที่สามารถรักษาพยาบาลได้สะดวกรวดเร็ว

4.ให้มีการรักษาบาลแบบ E-INSURANCE   คือให้บริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดตามแบบฉบับของประเทศอังกฤษ   รวมทั้งการรักษาบาลแบบเชิงรุกทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

5.ให้ความรู้อบรมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกันตน  ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง  ทั้งนี้เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากมายที่นายจ้าง  ลูกจ้างไม่ทราบและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ  ของประกันสังคม

6.อยากให้นายจ้างและลูกจ้างสามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ทั่วประเทศ  ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ที่ใครลงการรักษาไว้กับโรงพยาบาลไหนก็เข้าได้เฉพาะโรงพยาบาลที่ตนเองแจ้งความประสงค์ไว้เท่านั้น เพราะเชื่อว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ไม่เลือกสถานที่

7.เรื่องเงินชราภาพหรือเงินอื่น ๆ  ของลูกจ้างและนายจ้างจะต้องได้รับอย่างเป็นธรรม

8.จะเข้าไปดูกฎหมาย  กฎระเบียนต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสม เป็นธรรมและทันสมัยให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ดร.  ทวีเกรียติฯ   ยังย้ำถึง    “  ในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของคณะกรรมการประกันสังคม  ทั้งของนายจ้างและลูกจ้าง  โดยในส่วนของนายจ้างนั้นมีผู้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเพียง 4,000  กว่าราย  จากจำนวนบริษัทกว่า  200, 000  ราย   จึงอยากให้นายจ้างที่สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งครั้งนี้ในวันอาทิตย์ที่ 24  ธันวาคม  2566  ตั้งเวลา 08.00- 16.00  น.  ให้นายจ้างมาเลือกตั้งให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์  “  นายทวีเกียติ  กล่าว