“นางงามล่มแผ่นดิน” หรือ “นางงามกู้แผ่นดิน”
ไซซี ยอดหญิงงามประวัติศาสตร์จีนโบราณ
สุทธิชัย ทักษนันต์
ประวัติศาสตร์จีน เริ่มมีการบันทึกข้อมูลครั้งแรกตั้งแต่ยุคราชวงศ์เซี่ยในปี 2070 ก่อนคริสตกาล หรือนานกว่า 4,000 ปีมาแล้ว มีเรื่องราวตั้งแต่ยุคที่มีนครรัฐหลายแห่งทำสงครามสู้รบแย่งดินแดนระหว่างกัน
นักประวัติศาสตร์กำหนดจุดเริ่มต้นของประเทศจีนอยู่ที่ราชวงศ์ฉินในปี 221 ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคที่สามารถรวมแผ่นดินจีนที่เคยแยกออกเป็นรัฐต่างๆ มากมาย และเป็นที่มาของปฐมกษัตริย์จีน “จิ๋นซีฮ่องเต้”
ก่อนที่โลกจะมีประเทศต่างๆที่ชัดเจนเหมือนอย่างในปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์เรียกดินแดนเขตปกครองไว้หลายอย่าง เช่น จักรวรรดิ นครรัฐ แคว้น อาณาจักร ฯลฯ
อาณาจักรแต่ละแห่งมีผู้ปกครองของตัวเอง และมักจะเรียกผู้ปกครองสูงสุดของแต่ละอาณาจักรว่า “กษัตริย์”
สำหรับเรื่องราวของ “ไซซี” หนึ่งในสี่ยอดหญิงงามยุคจีนโบราณ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออกซึ่งอยู่ในช่วงปี 771 – 476 ก่อนคริสตกาล เรียกว่ายุคชุนชิว หรือ ยุคฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง (ประวัติศาสตร์จีนโบราณ เรียกช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โดยแบ่งออกเป็นฤดูกาล)
อาณาจักร “เย่ว์” และ “อู๋” มีดินแดนอยู่ติดกัน และทำสงครามระหว่างกันมายาวนาน ส่วนไซซีเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดาในอาณาจักร “เย่ว์” แต่เธอมีความงามจนทำให้ชายทุกคนที่เห็นเธอต้องตกตะลึง
ความตึงเครียดเริ่มขึ้นเมื่ออาณาจักร “อู๋” เริ่มปฏิบัติการขยายอาณาเขตเข้าคุกคามอาณาจักร “เย่ว์” ในปี 496 ก่อนคริสตกาล ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของอาณาจักร “อู๋”
หลังจากความพ่ายแพ้ กษัตริย์ เย่ว์ โกวเจี้ยน ถูกจับและถูกบังคับให้เป็นทาสในราชสำนักอู๋ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี โกวเจี้ยนได้รับการปล่อยตัวและได้รับอนุญาตให้กลับไปยังอาณาจักร “เย่ว์” ของเขา
โกวเจี้ยนยังมีความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้น เมื่อได้กลับมาที่ “เย่ว์” เขาเริ่มดำเนินการปฏิรูปหลายครั้งเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และกำลังทหารของอาณาจักร “เย่ว์”
เย่ว์ โกวเจี้ยน ตั้งใจใช้แผนนารีพิฆาตเพื่อล้างแค้นกษัตริย์อาณาจักร “อู๋” และหาทางกอบกู้แผ่นดินของตนคืน
ไซซีเกิดที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในอาณาจักร “เย่ว์” เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ต่ำต้อย พ่อเป็นช่างฝีมือทำรองเท้า แม้จะมีต้นกำเนิดที่เจียมเนื้อเจียมตัว แต่ไซซีเป็นที่รู้จักของคนที่เคยพบเธอจากความสง่างาม และความงามอันน่าทึ่ง
มีการพรรณนาถึงความงามของไซซีว่า “มัจฉาจมวารี” ซึ่งตีความหมายได้ว่า เวลาที่เหล่าฝูงปลาได้ยลโฉมไซซีที่ริมลำธาร ปลาถึงกับตกตะลึงจนลืมหายใจและจมน้ำตาย
วลี “มัจฉาจมวารี” ได้กลายเป็นคำเปรียบเปรยถึงหญิงงามของจีนในยุคต่อมา
เสียงร่ำลือในความงามของไซซี เข้าถึงหู เย่ว์ โกวเจี้ยน
การค้นพบไซซี ทำให้กษัตริย์โกวเจี้ยนตระหนักถึงศักยภาพของเธอที่จะช่วยทำให้บรรลุเป้าหมาย
ไซซีได้รับการฝึกฝนด้านมารยาท ดนตรี การเต้นรำ และศิลปะอื่นๆ เพื่อที่จะนำเธอเสนอเป็นของขวัญแก่กษัตริย์ฟูไซ แห่งอาณาจักร “อู๋” ซึ่งในตอนนั้นอาณาจักร “เย่ว์” ถือเป็นอาณานิคมของอาณาจักร “อู๋”
โกวเจี้ยนหวังว่าความงามของไซซีจะทำให้ฟูไซเบี่ยงเบนความสนใจจากหน้าที่ผู้ปกครองของกษัตริย์ ส่งผลทำให้อาณาจักร “อู๋” อ่อนแอลง และจะเป็นโอกาสดีของอาณาจักร “เย่ว์” ในการโต้กลับ
เมื่อไซซีเสร็จสิ้นการฝึกฝน เธอถูกส่งตัวไปให้กษัตริย์ฟูไซ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามมาก็เป็นไปตามแผนของโกวเจี้ยน
ฟูไซหลงใหลในความงามและเสน่ห์ของไซซี เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเธอและละเลยหน้าที่การเป็นกษัตริย์ ในขณะเดียวกัน อาณาจักร “เย่ว์” ก็เริ่มสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมาใหม่
เมื่อถึงปี 482 ก่อนคริสตกาล เย่ว์ โกวเจี้ยน เปิดฉากโจมตีอาณาจักร “อู๋” ซึ่งขณะนั้นอ่อนแอลงจากความขัดแย้งภายในและแรงกดดันภายนอกจากรัฐอื่น และยังโดนแผนนารีพิฆาตที่มีไซซีเป็นไส้ศึกอยู่ข้างใน
หลังจากการสู้รบหลายครั้ง กษัตริย์ เย่ว์ โกวเจี้ยน ได้รับชัยชนะในปี 473 ก่อนคริสตกาล มีการผนวกอาณาจักร “อู๋” เข้ากับอาณาจักร “เย่ว์” อย่างเบ็ดเสร็จ และถือเป็นการสิ้นสุดการแข่งขันแย่งดินแดนระยะยาวระหว่างสองอาณาจักร
ความซับซ้อนทางการเมือง การผลัดเปลี่ยนของผู้ปกครองที่มีอำนาจในประวัติศาสตร์จีน มีการเปรียบเทียบเหมือนฤดูกาลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะ
ความงามของ ไซซี ถูกประณามจากอาณาจักร “อู๋” ว่า…
“นางงามล่มแผ่นดิน”
แต่ ไซซี กลับได้รับการยกย่องจากอาณาจักร “เย่ว์” ว่า…
“นางงามกู้แผ่นดิน”
…………………………………………….
(ค้นหาข้อมูลจาก: Google, ChatGPT-4 / ภาพประกอบจาก: Generative AI-Text to Image-Midjourney)
Social Links