บล.เอเซีย พลัส
จัดพอร์ตการลงทุน 4-8 ตค.64
การลดระดับนโยบายการเงินผ่อนคลาย จะมีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวในรูปแบบ K-Shape ทำให้โดยภาพรวมความกังวล QE Tapering ยังคงอยู่และสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นจนกว่า Fed จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น
ฝ่ายวิจัยจึงคงน้ำหนักหุ้นต่างประเทศไว้ที่ 30% (เท่าตลาดฯ) ส่วนตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในประเทศ นำไปสู่มาตรการเปิดเมืองที่มีแบบเผนชัดเจน อย่างไรก็ตามมีปัจจัยกดดันจากวิกฤตน้ำท่วม ฝ่ายวิจัยฯ จึงคงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 30% (เท่าตลาดฯ) โดยเน้นการลงทุนในหุ้นเปิดเมืองหรือสินค้าจาเป็น ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารลงทุนอื่นๆ เน้นลงทุนใน Product ที่ลงทุนในหุ้นไทยอย่าง ELN เป็นหลักโดยให้น้ำหนัก 15% (มากกว่าตลาดฯ) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสภาวะตลาดหุ้นผันผวน และขาดปัจจัยหนุนได้เป็นอย่างดี พร้อมกับคงน้ำหนักตราสารหนี้ไว้ที่ 20% (เท่าตลาดฯ) ส่วนสุดท้าย คือ ตลาดเงินมีน้ำหนักเพียง 5% รอจังหวะลงทุนเพิ่มเติมในเดือนต่อไป
Social Links