ประชาธิปไตยต้องมีการ “เล่นกล”ทางการเมือง ให้เป็นอภินิหาร!?!

ประชาธิปไตยต้องมีการ "เล่นกล"ทางการเมือง ให้เป็นอภินิหาร!?!

นายจักรยาน

                การเมืองที่่นี่ประเทศไทย อลเวงไปมาตัวเลขสูตรเลข 500 กับเลข 100 และเลข 8 ให้ท่านผู้่ชมได้สนุกสนานหรรษาเบิกบานใจ

                ประเด็นฮ็อตเลข 100 กับ 500 ว่ามาว่า "ลุงตู่" กระซิบบอกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่าตัวเองขอบเลข 500 มากกว่า 100 ในการคิดคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง

                ดังนั้นที่ประชุมในการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐบาลว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในนวาระ 2 จึงได้มีการปรับแก้จากเลข 100 เป็น 500

                เพราะต้องการสกัดกั้น "พรรคเพื่อไทย" ได้เปรียบในเรื่องแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

                ส่วนพรรคเล็กที่ร่วมรีฐบาลอย่าง พรรคพลังธรรมใหม่ทีมี นพ.ระวี  มาศฉมาดล หัวหน้าพรรค ยืนยันเสียงหนักแน่นว่าชอบเลข 500 เพราะจะไม่ทำให้พรรคเล็ก ๆ เสียบเปรียบในการเลือกตั้งปาร์ตี้ลิสต์

                แม้ว่า รัฐมนตรีบางท่านของ "ลุงตู่" ชอบเลข 100 มากกว่า 500 เพราะเลข 500 จะทำให้เกิดปัญหาติดตามมามายมาย แต่ไม่ได้โวยวายเอะอะอะไร เพียงแสดงความคิดเห็นให้ "ลุงตู่" รับรู้เท่านั้น

                นอกจากนี้ ส.ส.พรรค พปชร.และพรรคร่วมรัฐบาลส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบตัวเลข 500 เช่นกัน  ไม่โวยวายเพียงแต่นิ่งเงียง ทว่าใช้สมองคิดวางแผนล้มไอ้ 500 แล้วเอาคุณ 100 กลับมาแทนเหมือนเดิม

                ในที่สุด ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านพร้อมใจกันเล่น "ปาหี่" การหายตัวในที่ประชุมสภา ฯ ที่ก่ำลังถกกฎหมายฉบับหนึ่งให้หยุดชะงักลงไม่สามารถพิจารณาต่อไปไม่ได้  และจะทำให้ พระราชบัญยํติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเบลือกตั้ง ส.ส.ที่เข้าคิวเข้าสู่้การพิจารณาต้องค้างเติ่งออกไปอีก

                โดยหวังผลทำให้พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พิจารณาไม่ท้นตามกรอบระยะวลา 180 วันที่จะทำให้ พ.ร.ป.กระดอนนตกไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อนำเลข 100 จากร่างกฎหมายเดิมกลับมาใช้ได้ตามกติกาของรัฐธรรมนูญ

                ซึ่งในการพิจารณาวาระ 3 ที่ประชุมรัฐสภาไม่สามารถปรับแก้ไขอะไรได้แฃ้ว นอกจากลงมติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นด้วยที่จะผ่านเป็นกฎหมายหรือไม่!!

                ด้วยเหตุฉะนี้คุณกระแสจึงสร้างกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการล้มโต๊ะ พ.ร.ป.เจ้าปัญหาสูตรตัวเลขให้เลข 500 ตกกระเด็นหายไป ตัวเลข 100 ก็สามารถผงาดเข้ามาได้เหมือนเดิม

                เป็นธรรมดาทางการเมืองที่ต้องปฏิเสธไว้ก่อนว่าไม่เกี่ยวข้อง ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็รู้ ๆ อยู่่ว่าอะเไรเป็นอะไร  ดังนั้น ประธานวิปรัฐบาล ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจับมือกับพรรคเพื่อไทย  เราเป็นรัฐบาล เขาเป็นฝ่ายค้าน  ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ลือกันไปมา ความจริงแล้วเราต้องการเลื่อนพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ขึ้นมาพิจารณาก่อนกฎหมายอื่น ๆ แต่ก็โดนกีดกันตลอด

                ทางด้านระดับรองแกนนำพรรคเพื่อไทยก็ออกมาปฏิเสธเช่นกันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีความจำเป็นต้องฮั้วกับพรรคพลังประชารัฐ  เพราะพรรคเพื่อไทยแตกต่างกันทั้งในมิติอุดมการณ์ จุดยืนและมุมมองระบอบประชาธอปไตย ขอให้พี่น้องที่สนับสนุนพรรคสบายใจได้ว่าไม่กระทำใดๆ ที่สวนทางต่อเจตนารมณ์ของพ่อแม่พน้องที่รักพรรคเพื่อไทย

                และพรรคเพื่อไทยจะลงแข่งขันสู้ศึกเลือกตั้งได้ทุกกติกาไม่ว่าจะเลข 500 หรือ 100   แต่ต้องเป็นไปตามกติกาที่ถูกต้อง ไม่ควรใช้อภินิหารทางกฎหมายมาชิงความได้เปรียบพรรคฝ่ายตรงกันข้าม

                ประชาชนที่เป็นแฟนคลับฝั่่งขั้วใดจะเชื่อคำชี้แจงหรือไม่ก็ตามสะดวกใจ  แต่เชื่อว่ายังประชาชนที่ไม่ยืนอยู่ข้างไหนก็ยัง "ข้องจิต" อยู่ไม่วาย  เนื่องจากการเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร

                มิตรแท้ก็คือเลข 100  ศัตรูก็คือเลข 500 !?!

            อีกประเด็นกลเกมการเมืองที่เริ่มจะมีอุณหภูมิร้อนเพิ่มขึ้นก็คือ วาระในการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ "ลุงตู่"

                ซึ่งคนทั้งประเทศรู้ว่า "ลุงตู่" นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีคาบเกี่ยวกันมาตั้งแต่สมัย คสช. จนมาถึงได้่รับเลือกจากที่ประชุมรัฐสภาภายหลังจากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562

                ที่เป็นปัญหาให้กลายเป็นเกมก็คือ ฝ่ายการเมืองไม่ว่าจะนักการเมืองและนักวิชาการทางการเมืองรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ รวมทั้งกูรูผู้รู้ไปหมดต่างตีความ 8 ปีคนละมุมมองกันว่าระยะเวลา 8 ปีครบเมื่อไหร่กันแน่??

                ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น "พี่ศรึ" ไม่รีรอยื่นเรื่องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กกต. เพื่อชงเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความให้แจ่มแจ้งแดงแจ๋

                ส่วน "พรรคเพื่อไทย" แกนนำฝ่ายค้านรอฤกษ์วันที่ 16 หรือ 17 สิงหาคม นี้ถึงจะยื่นให้ตีความกันชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ

                สำหรับ "ลุงตู่" ไม่สงสัยเรื่อง 8 ปี่และไม่ทุกข์ร้อนยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปด้วยความสุขที่อดเที่ยวมา 8 ปี  เมื่อถูกบรรดากระจอกข่าวและกระจิบข่าวซักไซร้เรื่อง 8 ปี "ลุงตู่" ก็บอกชัด ๆ ว่าให้ไปถามศาลรัฐธรรมนูญ

                คำตอบของ "ลุงตู่" ถูกต้องที่สุด  เพราะปัญหานี้จะจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญ!!

                แต่ปัญหาไม่จบง่าย ๆ คงมีการลากปัญหาให้เป็น "กลเกม" ทางการเมือง เปรียบเสมือนการเล่นวิทยากลประชาธิปไตยให้เหลือเชื่อเหมือนกับมีอภินิหารเกิดขึ้น??

                ดังนั้นการ "เล่นกล" ทางการเมืองของนักการเมือง ยังอยู่คู่ประชาธิปไตยอมตะนิรันดร์กาล!!