ประชาธิปไตย“ไทยนิยม”ไม่ต้องงง เพราะ “บิ๊กตู่” ไม่งง??

ประชาธิปไตย“ไทยนิยม”ไม่ต้องงง เพราะ “บิ๊กตู่” ไม่งง??

           ความเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 ได้เดินหน้าสู่โรดแมปเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนตามสัญญากับประชาชนคนไทยทั้งประเทศและประชาคมโลก

       “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอกชา นายกรัฐมนตรี ได้บอกกับเด็กและเยาวชนในวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมาว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง พร้อมทั้งได้ยืนยันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ว่า ประเทศเราต้องมีประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยนิยม หรือประชาธิปไตยแบบไทยๆ

            เมื่อ “ลุงตู่” ได้เน้นย้ำถึงเรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ หรือไทยนิยม และปีจอนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น “ลุงตู่” คงไม่ผิดคำพูดกับเด็กๆ เยาวชนแน่ แต่ถ้า “ลุงตู่” เบี้ยวไม่ทำตามสัญญาก็เสียผู้ใหญ่ที่ทำให้เด็กเยาวชนหมดความศรัทธาเชื่อถือได้!?!

            แม้ว่าอีก 10 เดือนเศษจะถึงโหมดวันเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งไม่รู้จะเป็นอย่างไร พรรคการเมืองไหนได้ ส.ส.มากหรือน้อย ที่รู้แน่ๆ ก็คือ นายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งต้องเป็น “คนนอก” ที่มีนามตามแผนของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ก็คือ “บิ๊กตู่” นั่นเอง!!

            เนื่องจากการออกแบบของคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ และร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ได้คิดร่างอย่างซ่อนเงื่อนหมกเม็ด รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกันกำหนดกติกาการเมืองไทยยุค 4.0 โดยมีเป้าหมายไม่ให้มีพรรคการเมืองไหน ไม่ว่าพรรคใหม่ พรรคเก่า จะได้จำนวน ส.ส.เกินครึ่งที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวได้

           ก็นับว่าเป็นแผนสำคัญอันล้ำลึกที่ต้องเป็นรัฐบาลผสม ที่ไม่สามารถผสมกันง่ายๆ ลงท้ายจึงต้องเสนอชื่อ “คนนอก” เป็นนายกรัฐมนตรีให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จสมประสงค์ตามแผนประชาธิปไตยแบบไทยๆ !!

            ประเด็นสำคัญของประชาธิปไตยไทยนิยมแบบไทยๆ ตามที่ “บิ๊กตู่” ตั้งใจบอกไปถึงพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศ พอสรุปความหมายได้ว่า คือ “นายกฯ คนนอก” ป้องกันปฏิวัติได้ เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยๆ เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ยั่งยืนตลอดไปไม่ต้องผวาวงจรอุบาทว์ที่จะมาหลอนอีก!!

ความจริงแล้ว พรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้อ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกฎหมายลูกต่างๆ ที่ออกมาแล้วย่อมเข้าใจดีอยู่แล้วว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” คืออะไร แต่ทว่าพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ทำเป็นงงไม่เข้าใจว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” คืออะไร 

ซึ่งหัวหน้าพรรค ปชป. และเลขาธิการพรรค พท. ได้โอกาสประสานเป็นเสียงเดียวกันถล่ม “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ไม่ไว้หน้า “บิ๊กตู่” แต่ประการใด

พร้อมทั้งสอนสั่งอธิบายให้ “บิ๊กตู่” ได้รู้ว่า ประชาธิปไตยต้องมีพื้นฐานเป็นหลักสากล ซึ่งความเป็นประชาธิปไตย ก็คือยอมรับอำนาจของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ โดยจะเป็นผู้ที่เลือกพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายที่เห็นว่าดีจริง มีวิธีการนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของทุกๆ คนอย่างไร

และที่สำคัญต้องเคารพความคิดเห็นของประชาชนที่แตกต่างกัน เพราะทุกคนในสังคมจะมีความคิดและเห็นเหมือนกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ เคารพความเห็นต่างที่หาหนทางออกที่ดีที่จะนำไปพัฒนาสู่สิ่งให้ให้เกิดขึ้นในสังคม

ความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่คือความขัดแย้ง อันเป็นหลักสากลที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ความเห็นต่างที่ขัดแย้งกันไม่ใช่ประชาธิปไตย!!

ไม่รู้ว่า “บิ๊กตู่” ของเรา หรือ “ลุงตู่” ของเด็กๆ จะฟังข้อกังขาของพรรคการเมืองแล้วปิ๊งเข้าใจประชาธิปไตยสากลนิยมหรือไม่??

ปรากฏเสียงสะท้อนรุมอัดประชดประชันเหน็บแนม “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ของพรรคการเมือง 2 ใหญ่ ไม่ส่งถึงความรู้สึกของ “บิ๊กตู่” ให้อารมณ์เสีย หรือหงุดหงิด ตามที่ได้ลั่นปากไว้ว่าปี 2561 จะอารมณ์ดีตลอด!!

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวได้ซุบซิบมาว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” เป็นความประสงค์ของ “บิ๊กตู่” และบรรดาหัว เสธ.ทั้งหลายใน คสช. ที่ให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบไทยแลนด์โอนลี่   ตามแผนที่ได้วางไว้ทีละขั้นตอนมานาน 3 ปีเศษแล้ว??

เชื่อได้เลยว่า ใกล้ๆ ถึงวันเลือกตั้งตามโรดแมป จะมีความเคลื่อนไหวจากพรรคการเมืองใหญ่ๆ เก่าๆ คิดกลยุทธ์ในการสกัดกั้น “นายกฯ คนนอก” ไม่มีสิทธิ์เสนอหน้าเข้ามา

สำหรับพรรคการเมืองกำเนิดใหม่หลายพรรค ก็ย่อมเคลื่อนไหวหนุนส่งให้มี “นายกฯ คนนอก” ตามหลักประชาธิปไตยไทยนิยมของ “บิ๊กตู่”!!

ดังนั้น การต่อสู้ของสองฝ่าย ทั้งผู้หนุน “บิ๊กตู่” และผู้เมิน “บิ๊กตู่” ในวันข้างหน้าจะมีรสชาติทางการเมืองที่สนุกตื่นเต้นระทึกใจ โดยประชาชนทั้งประเทศจะโดนอ้างให้เป็นพวกตนแน่นอน!?!

ในที่สุดของที่สุด “บิ๊กตู่” ที่ได้ประกาศตัวเป็นนักการเมืองเต็มตัวตอนต้นปี 2561 มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้ “นายกฯคนนอก” ตามเส้นทางกติกาของรัฐธรรมนูญที่จงใจร่างอย่างแยบยล!!

เพราะฉะนั้น  โปรดทำใจกัน ใครจะดีใจหรือเสียใจ แล้วแต่สะดวกใจเถิด!!

 นายจักรยาน