ปรับเก้าอี้ รมต. ลุงตู่ ใครว่าไม่ยุ่ง ความจริง “ยุ่งตายห่ะ” จะบอกให้!!

ปรับเก้าอี้ รมต. ลุงตู่ ใครว่าไม่ยุ่ง

ความจริง "ยุ่งตายห่ะ" จะบอกให้!!

นายจักรยาน

            แรงกระเพื่อมจากการซักฟอกขยี้ขยำรัฐมนตรีของ "ฝ่ายค้าน" ในบางยุคบางสมัย มีผลทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับปรุงรัฐมนตรี เพื่อให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดูดีขึ้น

            แต่บางยุคบางสมัยเช่นกันที่หลังการไม่ไววางใจรัฐมนตรีของ "ฝ่ายค้าน" ไม่ส่งผลกระเทือนให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี  ตามแผนของ "ฝ่ายค้าน" ที่หวังจะได้เป็นเครดิตของตนเอง

                ทว่าการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ของ "ลุงตู่" ไม่ใข่มาจากฝีปากของ "ฝ่ายค้าน"  แต่มาจากเหตุที่คาดกันไม่ถึงล่วงหนัา??

                อย่างที่รับทราบกันไปแล้วทั่วราชอาณาจักรไทยมาจากเหตุที  8 แกนนำกปปส. ซึ่งมี หัวหน้านกหวีด "ท่านเทพเทือน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก ซึ่งโทษจำคุกไม่เท่ากันตามความผิดของแต่ละคน

                แต่ กปปส.อีก 31 คนที่โดนสั่้งฟ้องพร้อมกันนั้น มีทั้งถูกตัดสินให้จำคุกและปรับ แต่โทษให้รอลงอาญา  บางคนก็ยกฟ้อง!!

                สำหรับแกนนำ กปปส. ที่ถูกตัดสินให้ไปอยู่ในคุกที่ได้มาเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ และได้เป็นรัฐมนตรีของคณะ "ลุงตู" 2 คนคือ  "นายณัฎฐพล  ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ และ "นายพุฒิพงษ์  ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหรือตัวย่อเรียกสั้น ๆ ว่า ดีอี

                นอกจากนี้ก็มีแกนนำ กปปส.เป็นรัฐมนตรีของพรรค ปชป.โดนพิพากษาให้จำคุกก็คือ "นายถาวร  เสนเนียน" รมช.คมนาคม

                รัฐมนตรีผู้โชคดีได้รับโทษติดคุกทั้ง 3 คนก็ต้องหลุดกระเด็นกระดอนจากเก้าอี้รัฐมนตรีตามกฎของรัฐธรรมนูญปัจจุบันนี้  ไม่มีสิทธิอุุทธรณ์ยื่นให็ศาลรัฐธรรมนูญตีความประการใด

                ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น  "ลุงตู่" ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปรับรัฐมนตรีได้ในเร็ววันนี้??

                แปลกแต่จริง  ข่าวคราวที่ศาลอาญาตัดสินจำคุกบรรดาแกนนำ กปปส. และไม่ให้ประกันตัวระดับเบิ้มที่เป็นรัฐมนตรีที่กระจายออกมาชวงเย็น  ในตอนค่ำก็มีข่าวแพล็มปล่อยออกมาทันทีทันใดว่ามีการแย่งชิงกันเป็นรัฐมนตรีแทน 2 รัฐมนตรีของพรรค พปชร.

                จึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ส.ส.ของพรรค พปชร.รอจังหวะเวลาในการแย่งชิงกันเป็นรัฐมนตรีทุกวินาที!!

ส่วนเก้าอี้ รมช.คมนาคม ที่เป็นโควต้าของ พรรค ปชป.  นั้น  ส.ส.พรรค พปชร.น่าจะไปยุ่มย่ามไม่ได้แน่  ซึ่งทางพรรค ปชป.ยืนย้นว่าเก้าอี้ตัวนี้ต้องอยู่กับสายใต้เหมือนผู้ที่ต้องหลุดจากตำแหน่งไป

                เรา ๆ ท่าน ๆ ต้องจับตาดูและเงี่ยรูหูฟังอย่างตั้งใจว่า สายใต้ของพรรค ปชป.คนใดจะได้น้่งเก้าอี้ รมช.คมนาคมแทน!!

ณ ขณะนี้ข่าวลือช่าวปลอมจริงบ้างเท็จบ้างถูกปล่อยออกมาให้ผู้คนในสังคมการเมืองสับสนเพื่อให้เดากันผิด ๆ ถูก ๆ อย่างมีรสชาติยุ่ง ๆ ??

                สำหรับขาวปล่อยเรืองการสลับกระทรวงกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกัน  ก็ไม่รู้ว่าจะมีทางเป็นไปได้หรือไม่  โดยเฉพาะพรรค ปชป. และพรรคภูมิใจไทย พึงพอใจในกระทรวงที่ได้เรียกร้องตอนจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่ม

                ไม่มีทีท่าว่าจะถอนสมอออกจากกระทรวงที่ได้ดูแลบริหารงานอยู่ในเวลานี้   กระแสข่าวปล่อยอย่างจงใจดังกล่าวก็เพียงหยั่งกระแสดูเท่านั้น   เชื่อว่าไม่มีการสลับกระทรวงค่อนข่างแน่นอน  ถ้ามีการสลับกระทรวงกันก็ต้องใช้เวลาเจรจายุ่งเป็นฝอยขัดหม้อกว่าจะขัดให้หม้อเรียบร้อย!!

                เรื่องราวชีวิตของนักการเมืองที่ได้เป็น  ส.ส.ผู้แทนราษฎร กับการอยากเป็น "รัฐมนตรี" เป็นเรื่องความอยากตามธรรมชาติของที่่ผู้กระโดดเข้ามาเล่นการเมือง!!

                เพราะฉะนั้นเมื่อมีเก้าอี้รัฐมนตรีว่างลง 3 เก้าอี้ จากพรรค พปชร. 2 ที่น้่ง พรรค ปชป. 1 ที่นั้่ง  ก็เป็นธรรมดาที่ ส.ส.ต้องรวมตัวกันยื่นข้อเรียกร้องไปถึงหัวหน้าพรรคตนเอง

                ที่น่าจับตาดูก็คือ  ส.ส. พรรค พปชร. ได้ร่วมกันลงชื่อกว่า 90 ชีวิตเสนอถึง "บิ๊กป้อม " พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ห้ามนำคนนอกที่ไม่ได้เป็น ส.ส.เข้ามาเป็น "รัฐมนตรี" ในการปรับ ครม.ครั้งนี้

                เพราะมีโผบางโผปล่อยออกมาว่า "นายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส.ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค พปชร.  จะได้ไปนั่งเก้าอี้  รมว.ศึกษาธิการ แทน "นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ" ที่ต้องกระเด็นจากตำแหน่งไปตามแรงกรรมที่ได้กระทำทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา

                นอกจากนี้มีข่าวปูดมาว่า "เสี่ยสันติ  พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง ซึ่งเป็น ผอ.พรรค พปชร. จะได้ขยับขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการไปนั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ!!

                และ นางนฤมล  ภิญโญสินวัฒน์  รมช.แรงงาน จะได้โยกไปเป็น รมช.คลังแทน

                ทางด้่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีคะแนนไว้วางใจมากกว่า "ลุงตู่" อย่างน่าอัศจรรย๋์ใจ จะได้รับความดีความชอบความสามารถดังกล่าวไปนั่งเก้าอี้ รมว.ดีอี แทน "นายพุฒิพงษ์  ปุณณกันต์" ที่จำใจต้องบ๋ายบายไปกฎเหล็กของรัฐธรรมนูญปี 60

                อีกกระแสข่าวปล่อยก็ลือว่า ร.อ.ธรรมนัศ พรหมเผ่า จะได้ขยับไปเป็น รมว.แรงงาน!!

                แต่ช้าแต่..ก็มีการปูดข่าวมาอีกว่า "นายอนุชา นาคาสัย" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  อาจได้ขยับเขยื้อนก้นของตัวเองไปเป็น รมว.ดีอี เช่นกัน??

                ส่วน "นายสุชาติ  ชมกลิ่น" ที่เพิ่งได้เป็น รมว.แรงงานมาไม่นานนัก  ข่าวไม่ได้ลือว่าจะถูกโยกไปนั่้งเก้าอี้ใด  แต่ก็น่าจะไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน "นายอนุชา นาคาสัย" ก็ได้!?!

                ถ้าสมมุติว่า ทั้ง รมว.แรงงาน และ รมช.แรงงาน โดนโยกเยกไปนั่งกระทรวงอื่น  ย่อมทำให้กระทรวงแรงงานมีรัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน!!

                ดังนั้นเก้าอี้ รมช.ที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง จะเป็น ส.ส.ของพรรค พปชร.ครอบครองแทนหรือไม่  ก็ไม่แน่ว่าจะไม่ได้เสียแล้ว   เพราะพรรคเล็ก 18 พรรคที่ร่วมรัฐบาลในชณะนี้ได้แตกเป็น 2 ขั้ว กลุ่มแรกมี 10 เสียง  อีกก๊วนมี 11 เสียง ได้ยื่นข้อเรียกร้องเก้าอี้ รมช.มายังพวกตนคนละตัวตามสิทธิที่ควรจะได้!!

                โลกมายาทางการเมืองเรื่องการ ปรับ ครม.ทุกครั้ง   แต่ละกลุ่มก้อนในพรรคการเมืองมีการกดดันยื่นโนติ๊สให้คนของพวกตนได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอย่างไม่เปิดเผยและก็ไม่มีอะไรลึกลับ??

            ทุกครั้งเช่นกัน ที่มีการปรับ ครม.เกิดขึ้น  "นายกรัฐมนตรี" มักจะเอ่ยปากว่าไม่มีใครมากดดันตนได้  และตนจะเป็นผู้ตัดสินใจเท่านั้น!!

            อ๊ะ อ๊ะ  แต่ความจริงที่เป็นจริงนั้น  ยุ่งตายห่ะ!!