ปัญหาสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่/ครั้งใหม่โลก
อาจมาจากดาวเทียมที่เผาไหม้ในอวกาศ
สุทธิชัย ทักษนันต์
มลพิษจากอวกาศ อาจเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่กำลังจะมีตามมา
จากดาวเทียม 1,000 ดวงเมื่อ 15 ปีก่อน วันนี้มีมากถึง 10,000 ดวง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าภายในสิ้นทศวรรษนี้!
เพื่อลดขยะอวกาศ บริษัทผู้ผลิตดาวเทียมจึงส่งยานกลับมาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลก แต่นักวิทยาศาสตร์เริ่มกังวลถึงผลกระทบระยะยาว:
- เถ้าจากดาวเทียมมีสารที่ทำลายโอโซน
- อะลูมินาที่เกิดจากการเผาไหม้อะลูมิเนียมสะท้อนแสงอาทิตย์ ส่งผลต่ออุณหภูมิชั้นบรรยากาศ
- คลื่นช็อกจากความเร็วสูงทำให้ไนโตรเจนทำปฏิกิริยากับออกซิเจน สร้างไนโตรเจนออกไซด์ที่ทำลายโอโซน
ปี 2019 มีดาวเทียม 115 ดวงเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ แต่ปี 2024 ตัวเลขพุ่งสูงถึง 950 ดวง! คาดว่าภายในปี 2033 จะมีขยะอวกาศเผาไหม้ถึง 4,000 ตันต่อปี
ปัจจุบันผลกระทบต่อการทำลายชั้นโอโซนอยู่ที่ 0.1% แต่นักวิจัยเตือนว่าอาจเกิดผลกระทบระยะยาวเหมือนกรณี CFC ที่ใช้เวลา 40 ปีกว่าจะพบว่าทำลายชั้นโอโซน
“กิจกรรมมนุษย์ในอวกาศใหญ่พอที่จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมแล้ว เหมือนที่เราทำกับมหาสมุทร ปัญหาคือเรากำลังเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ โดยไม่เข้าใจจริงๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงจะน่ากังวลเมื่อไหร่” – Jonathan McDowell นักดาราศาสตร์จาก Harvard-Smithsonian
แนวทางการจัดการกับปัญหาจากผู้ทำการวิจัย คือ
-การตัดสินใจเชิงนโยบาย: Connor Barker นักวิจัยได้กล่าวว่า สังคมต้องตัดสินใจว่าจะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่าระหว่าง “การลดการจราจรในอวกาศ” และ “การลดการปล่อยมลพิษ”
-การศึกษาวิจัยเพิ่มเติม: มีการทำแคมเปญสังเกตการณ์การกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวเทียม Cluster Salsa เพื่อเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
นักวิจัยกำลังพยายามทำความเข้าใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยมลพิษเหล่านี้ เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับวัตถุในอวกาศ
ขยะอวกาศที่เคยได้เห็นในหนังวิทยาศาสตร์โลกอนาคตหลายเรื่อง วันนี้เป็นเรื่องจริงแล้ว และเป็นความท้าทายใหม่ที่ยังต้องการการศึกษา และหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป…
Social Links