ผลศึกษาดีเอชแอลพบจังๆ เยาวชนอาเซียนวิตกกังวลการหางานมากขึ้น

ผลศึกษาดีเอชแอลพบจังๆ เยาวชนอาเซียนวิตกกังวลการหางานมากขึ้น

ผลศึกษาดีเอชแอลพบจังๆ

เยาวชนอาเซียนวิตกกังวลการหางานมากขึ้น

                                                            ……………………………………………….

•             88% ของเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าตนเองมีทักษะจำเป็นที่เพียงพอสำหรับตลาดแรงงาน ขณะที่มากกว่า 90% รู้สึก “วิตกกังวล” เกี่ยวกับความสามารถในการหางานหลังจากสำเร็จการศึกษา

•             เยาวชนส่วนใหญ่เห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการหางาน แต่ยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อการหางาน

•             ดีเอชแอลขับเคลื่อนโครงการ GoTeach เพื่อพัฒนาความสามารถในการทำงาน การสมัครงาน รวมถึงโอกาสในอนาคตของคนรุ่นใหม่

                                                                ………………………………………………

                ผลการศึกษาของดีเอชแอลพบระดับความเครียดและภาวะวิตกกังวลสูงในการหางานในกลุ่มเยาวชนเอเชีย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล ผู้นำระดับโลกด้านบริการลอจิสติกส์ ได้เผยแพร่รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการหางานของเยาวชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยบริษัทฯ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นทางออนไลน์เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และได้รวบรวมคำตอบจากเยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไปกว่า 950 คนจาก 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา และเวียดนาม การศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GoTeach ของกลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล โดยได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกเช่น มูลนิธิเด็กโสสะ (SOS Children’s Villages) และ Teach For All

                โดยผลการศึกษาพบว่า กว่า 90% ของเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามรู้สึก “วิตกกังวล” หรือ “วิตกกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับความสามารถของตนเองในการหางาน โดยเกือบ 95% ยอมรับว่าการแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อกระบวนการหางาน อย่างไรก็ตาม เยาวชนเหล่านี้ยังคงมีความรู้สึกเชื่อมั่น และมองโลกในแง่ดี โดย 88% เชื่อว่าตนเองมีความพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน และกว่า 70% คาดว่าจะสามารถหางานได้ในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือนหลังจากที่จบการศึกษา

                เมื่อได้การตอบรับในการเข้าทำงาน “โอกาสในการเรียนรู้ และความท้าทาย” เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการพิจารณาตกลงการเข้าทำงาน ตามด้วย “ความมั่นคงของงาน" โดยผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 20% ระบุว่าปัจจัยนี้มีความสำคัญอย่างมาก และที่ไม่น่าแปลกใจคือ ราว 38% ของเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามมองว่าวิธีการแบบเดิมๆ เช่น การฝึกงาน เป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงาน รวมถึงคำแนะนำจากผู้สอนงานและอาจารย์ก็นับเป็นตัวช่วยที่สำคัญเช่นกัน ถึงแม้ว่าแหล่งรวมตำแหน่งงานทางออนไลน์จะเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ถูกมองว่าเป็นช่องทางที่มีประโยชน์น้อยที่สุด เพราะไม่มีการสร้างความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเหมือนกับการเป็นพนักงานฝึกหัด หรือการที่มีคนช่วยแนะนำในการเข้าทำงาน

                เฮอร์เบิต วงษ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “แม้ว่าชีวิตการทำงาน และชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด แรงงานดิจิทัลก็ยังเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) เผยว่ามีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 870,000 คนในไตรมาสที่สามของปี 2564 และผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงสุด (3.63%) ตามด้วยผู้จบการศึกษาระดับปวส. (3.16%)  ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจของดีเอชแอล โดยที่ดีเอชแอล เราได้จัดตั้งโครงการ GoTeach ซึ่งเป็นแนวทางในการการสนับสนุนเยาวชนด้วยการช่วยให้พวกเขาค้นพบความสามารถ และสร้างความมั่นใจในตัวเอง เพื่อโอกาสในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น พนักงานของเราไม่เพียงอุทิศเวลาให้กับโครงการ GoTeach แต่รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ให้กับเยาวชนในโครงการด้วย เราเชื่อเสมอว่าความยั่งยืนและเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าของประเทศนั้นขึ้นอยู่กับระบบการศึกษาที่แข็งแกร่ง และความรู้ความสามารถของคนรุ่นใหม่”

อาชีพและสายงานที่ครองใจเยาวชน

                เยาวชนกว่า 360 คน รู้สึกว่าการทำงานในสายด้านสาธารณสุขและการแพทย์ เช่น แพทย์ หรือพยาบาล เป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุดในภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าบุคลากรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่ตำแหน่งงานในภาคการศึกษาหรือภาครัฐตามมาเป็นอันดับที่สอง และประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เมื่อถามว่างานแรกที่อยากทำมากที่สุดคืออะไร มากกว่า 20% ตอบว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัว เปรียบเทียบกับ 14% ที่เลือกสายงานด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ซึ่งที่จริงแล้ว ตำแหน่งงานในภาคการศึกษา และธุรกิจโรงแรม/ท่องเที่ยว ครองอันดับที่สองและสาม ส่วนการแพทย์อยู่ในอันดับที่สี่

                เกียรติชัย พิตรปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ โซลูชั่นส์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดนำมาซึ่งความท้าทาย และโอกาสให้กับอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ เราจำเป็นต้องเพิ่มทักษะที่จำเป็นให้แก่พนักงาน เช่น การสื่อสาร ความเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นสามทักษะหลักที่เป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรมปัจจุบัน  นอกเหนือจากโครงการฝึกอบรมพนักงานของเราแล้ว ดีเอชแอลยังมีคอร์สอบรมเชิงปฏิบัติที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถสำหรับเยาวชนผ่านโครงการ GoTeach เราไม่เพียงแต่มอบองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ยังมอบโอกาสในการทำงานร่วมกับพวกเรา โดยหนึ่งในทีมงานแผนกลูกค้าสัมพันธ์เป็นเยาวชนจากมูลนิธิเด็กโสสะฯ ซึ่งภายหลังการฝึกงาน เราได้เห็นศักยภาพของพวกเขาและรับเข้าทำงานที่ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ โซลูชั่นส์ เรายังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างกำลังใจให้กับเยาวชนไทย ด้วยการพัฒนาทักษะต่าง ๆ รวมถึงสร้างความมั่นใจเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน”

ทักษะที่จำเป็นในโลกการทำงาน

                นอกเหนือจากทักษะด้านเทคนิคและความถนัดเฉพาะทางแล้ว 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลก็มีความสำคัญเช่นกัน ขณะที่ 30% คิดว่าทักษะด้านภาษาจะช่วยในการหางานได้ง่ายขึ้น

                สตีฟ วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ GoTeach ที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ช่วยเพิ่มองค์ความรู้และทักษะที่หลากหลายให้แก่เยาวชน ขณะเดียวกันก็เพิ่มโอกาสในการทำงานให้กับกลุ่มเยาวชนที่ไม่มีโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากความยากจน การสูญเสียครอบครัว และการลี้ภัย ในช่วงการแพร่ระบาด เราไม่เคยหยุดที่จะเสริมสร้างกำลังใจให้แก่เยาวชนในอนาคตของเรา และแม้ว่าจะเผชิญความท้าทายเรื่องสถานที่เรียนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนในโลกการทำงาน เราก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมเป็นออนไลน์ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเยาวชนทั่วประเทศในการเข้าร่วมกิจกรรมด้วยกัน เรารู้สึกดีใจที่พบว่าเยาวชนของเรายังมีทัศนคติที่ดีต่อความสามารถของตนเองในการหางานเมื่อจบการศึกษา”

                โทมัส ทีเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “คนรุ่นใหม่ในตลาดแรงงานอาจรู้สึกวิตกกังวลกับความไม่แน่นอนของอาชีพการงาน ราว 66% ของคนไทยเผยว่าภาวะการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นสาเหตุของความเครียด ขณะที่อีก 62% มองว่าเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยติดต่อกันเป็นเวลานาน  โครงการ GoTeach ของเราจึงให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษา ทักษะการแก้ปัญหา และการบริหารจัดการความเครียดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชน และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในอนาคตการทำงานของเยาวชน ดีเอชแอลจึงได้เชิญผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากแบรนด์ Chaksarn และ ZeroMoment Refillery มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการสร้างธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น เราหวังว่าจะสามารถเป็นสปริงบอร์ดให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาอนาคตการทำงานจากประสบการณ์และการสนับสนุนของทีมงานอาสาสมัครดีเอชแอล”

                กลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล ได้ส่งเสริมกิจกรรมอาสาสมัครทั่วโลกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยได้ลงทุน 1% ของกำไรสุทธิทุกปีในการดำเนินโครงการช่วยเหลือสังคม ปีที่ผ่านมาพนักงานกว่า 104,000 คนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการมากกว่า 2,000 โครงการ โดยมีพนักงานจากทุกฝ่ายตั้งแต่ผู้ฝึกงานจนถึงคณะกรรมการบริหาร โครงการ GoTeach มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความสามารถของเยาวชนในการหางาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชนที่ขาดโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากความยากจน การสูญเสียครอบครัว และการลี้ภัย สำหรับในประเทศไทย อาสาสมัครดีเอชแอลจากทั้ง 4 หน่วยงานธุรกิจกว่า 300 คน ได้ร่วมกันริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา การเสริมสร้างทักษะในการทำงาน การเขียนเรซูเม่สมัครงาน การพัฒนาทักษะการสื่อสาร ให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 655 คน นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2557

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด