“ผู้บริโภคเฮ! คคบ. เอาจริง!
รุกแก้ฉ้อโกง สั่งฟ้องผู้ประกอบธุรกิจ 38 ราย
มูลค่าเสียหายกว่า 9 ล้านบาท”
นายชาตรี สุวรรณิน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 5/2568 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจจำนวน 38 ราย ฐานละเมิดสิทธิผู้บริโภคในคดีสำคัญ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวม 9,099,834.23 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สินค้า และบริการทั่วไป ดังนี้

การดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 13 ราย
1.กรณีผิดข้อตกลงคืนเงินดาวน์จากการยกเลิกสัญญาซื้อขายห้องชุด ผู้บริโภคทำสัญญาซื้อขายห้องชุด โดยได้ชำระเงินจองและเงินดาวน์ไปแล้วรวม 132,500 บาท แต่ภายหลังไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารจึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนทั้งหมด แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เสนอคืนเงินดาวน์ให้เพียง 30% โดยไม่มีเอกสารชี้แจง และไม่คืนเงินจองให้เลย ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินดาวน์จำนวน 92,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
2.กรณีผิดข้อตกลงคืนเงินดาวน์จากการยกเลิกสัญญาซื้อขายห้องชุด ผู้บริโภคทำสัญญา ซื้อขายห้องชุดและชำระเงินไปแล้วรวม 182,000 บาท แต่ไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินจึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนทั้งหมด แต่บริษัทกลับเสนอคืนเงินดาวน์ให้เพียง 30% โดยไม่มีเอกสารประกอบ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินดาวน์จำนวน 142,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย เนื่องจากเงินดาวน์ไม่สามารถริบได้ทั้งหมด และการคืนเงินเพียงบางส่วนโดยไม่มีหลักฐานถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
3.กรณีผิดข้อตกลงคืนเงินจากการยกเลิกสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและได้ชำระเงินไปแล้วรวม 600,000 บาท แต่เมื่อไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัทเพื่อยกเลิกสัญญา โดยบริษัทตกลงจะคืนเงินเป็นงวด ๆ แต่บริษัทกลับไม่ดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินจำนวน 600,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
4.กรณีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ไม่ส่งมอบของสมนาคุณตามที่ตกลง ผู้บริโภคทำสัญญาจ้างบริษัทให้ก่อสร้างปรับปรุงอาคาร มูลค่า 900,000 บาท โดยมีข้อตกลงว่าบริษัทจะมอบโทรศัพท์ Apple รุ่น iPhone 16 Pro Max เป็นของสมนาคุณภายใน 14 วันหลังส่งมอบงาน แม้งานจะเสร็จสิ้นและผู้บริโภคได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว แต่บริษัทก็ไม่ส่งมอบโทรศัพท์ตามที่ตกลง ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทส่งมอบโทรศัพท์ หรือชดใช้เงินเป็นจำนวน 48,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
5.กรณีเงินประกันหาย ผู้เช่าร้องคืนสิทธิ ผู้บริโภคทำสัญญาเช่าห้องพักและชำระเงินประกันจำนวน 14,000 บาท เมื่อย้ายออก ผู้ให้เช่ากลับเรียกเก็บค่าเสียหายเกินจำนวนเงินประกันโดยไม่มีหลักฐานประกอบ และไม่ยอมคืนเงินตามที่ควรจะเป็น มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ให้เช่าคืนเงินประกันจำนวน 14,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
6.กรณีผู้บริโภคถูกทิ้งงานก่อสร้างและเรียกร้องค่าเสียหาย ผู้บริโภคว่าจ้างบริษัทก่อสร้างบ้านมูลค่า 1,280,000 บาท โดยชำระเงินไปแล้ว 1,067,000 บาท แต่บริษัทกลับทิ้งงาน ไม่สร้างให้เสร็จตามสัญญา และไม่ตอบสนองต่อการทวงถาม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินส่วนที่ชำระเกินจากงานที่ทำจริงจำนวน 548,200 บาท และชดใช้ค่าเสียหายสำหรับงานที่ต้องแก้ไขอีก 445,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 993,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
7.กรณีผู้บริโภคถูกทิ้งงานก่อสร้างและเรียกร้องค่าเสียหาย ผู้บริโภคว่าจ้างสร้างบ้านมูลค่า 1,287,000 บาท และชำระเงินไปแล้ว 396,000 บาท แต่ผู้รับเหมาสร้างผิดแบบแปลนและไม่ยอมแก้ไข จึงถูกบอกเลิกสัญญา มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 396,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 10% ตามสัญญา และให้ศาลพิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
8.กรณีผิดข้อตกลงชำระเงิน ผู้บริโภคว่าจ้างต่อเติมอาคารมูลค่า 330,000 บาท แต่หลังงานเสร็จพบปัญหาน้ำรั่วและประตูไม่สนิท ผู้รับเหมาตกลงจะจ่ายค่าเสียหาย 80,000 บาทเป็นงวด ๆ แต่กลับไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ชดเชยค่าเสียหาย 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปีตามข้อตกลง
9.กรณีอาคารชุดทรัพย์สินส่วนกลางชำรุดและการโฆษณาไม่ตรงตามจริง ประธานนิติบุคคลอาคารชุดร้องเรียนว่าทรัพย์สินส่วนกลางมีหลายรายการชำรุด บริษัทไม่ส่งมอบงบการเงิน และที่สำคัญคือไม่ได้ก่อสร้างหลังคาดาดฟ้าตามที่โฆษณาไว้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ก่อสร้างหลังคาดาดฟ้าตามที่โฆษณา หรือหากไม่ดำเนินการ ให้ชดใช้เป็นเงิน 1,018,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
10.กรณีสร้างบ้านไม่เสร็จ ผู้บริโภคเรียกร้องค่าเสียหาย ผู้บริโภคว่าจ้างบริษัทสร้างบ้านมูลค่า 10.6 ล้านบาท แต่บริษัททำงานล่าช้าจนไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคจึงต้องยกเลิกสัญญาและเรียกร้องค่าเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทและกรรมการร่วมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายรวม 4,564,699.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายเชิงลงโทษ
11.กรณีปฏิเสธโอนสิทธิห้องชุดให้ชาวต่างชาติ ผู้บริโภคเรียกร้องคืนเงิน ผู้บริโภควางเงินรวม 376,400 บาท เพื่อซื้อห้องชุด และได้รับแจ้งว่าสามารถโอนสิทธิให้ผู้อื่นได้ แต่เมื่อมีผู้สนใจรับโอนสิทธิ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ บริษัทกลับปฏิเสธการโอนสิทธิ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหายและขอยกเลิกสัญญา เพื่อขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงิน 376,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย เนื่องจากข้อสัญญาของบริษัทขัดต่อกฎหมายอาคารชุดและไม่เป็นคุณต่อผู้บริโภค
12.กรณีปัญหาหลังคารั่วซึมในบ้านจัดสรร ผู้บริโภคซื้อบ้านจัดสรรในปี 2562 และพบปัญหาหลังคารั่วหลายจุด ทำให้ฝ้าและโครงสร้างภายในบ้านเสียหาย แม้จะแจ้งให้บริษัทเข้ามาแก้ไขหลายครั้งแล้ว แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่ และบริษัทอ้างว่าหมดระยะเวลารับประกันแล้ว มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทผู้พัฒนาโครงการ เพื่อบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
13.กรณีโครงการล่ม คืนเงินไม่ตามสัญญา ผู้บริโภคชำระเงินรวม 326,000 บาท เพื่อซื้อห้องชุด แต่เมื่อถึงกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ โครงการกลับไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งสองฝ่ายจึงทำบันทึกข้อตกลงยกเลิกสัญญาและตกลงคืนเงินภายใน 60 วัน แต่บริษัทไม่ยอมคืนเงินตามที่ตกลงไว้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินจำนวน 326,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย

การดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป จำนวน 25 ราย
1.กรณีสินค้ามีตำหนิและไม่เปลี่ยนตามที่สั่งซื้อ ผู้บริโภคซื้อโซฟาราคา 17,900 บาท แต่ได้รับสินค้าที่มีรอยขาดและสีไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้ขายไม่ยอมเปลี่ยนสินค้าตามที่ตกลงไว้ ผู้บริโภคจึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 17,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย และให้รับสินค้าที่พิพาทคืนไป
2.กรณีเฟอร์นิเจอร์ชำรุด ผู้บริโภคขอยกเลิกสัญญา ผู้บริโภคซื้อเฟอร์นิเจอร์ราคา 48,900 บาท พบว่าเตียงมีรอยแตกและไม่สามารถแก้ไขได้ จึงขอยกเลิกสัญญาและเรียกร้องค่าขนย้ายและค่าเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 48,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย และชดใช้ค่าขนย้ายอีก 18,900 บาท
3.กรณีใช้บริการติดตั้งไฟรถยนต์มีปัญหาและเกิดความเสียหายต่อรถ ผู้บริโภคจ้างติดตั้งไฟเดย์ไลท์รถยนต์ราคา 3,000 บาท แต่หลังติดตั้งพบว่าไฟเลี้ยวหลุด ไฟเดย์ไลท์ใช้งานไม่ได้ และโคมไฟหน้ารถเสียหายเนื่องจากร้านใช้อะไหล่ปลอมและติดตั้งไม่เรียบร้อย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ร้านชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 22,663.55 บาท พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งรวมค่าติดตั้ง ค่าไฟเลี้ยว และค่าโคมไฟหน้าใหม่
4.กรณีใช้บริการทำความสะอาดระบบปรับอากาศรถยนต์ไม่เรียบร้อย ผู้บริโภคนำรถยนต์ไปล้างตู้แอร์เพื่อแก้ปัญหากลิ่นอับในราคา 1,926 บาท แต่หลังรับบริการกลิ่นอับยังไม่หาย และศูนย์บริการ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามที่ตกลงไว้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ศูนย์บริการคืนเงิน 1,926 บาท พร้อมดอกเบี้ย
5.กรณีซื้อสินค้าออนไลน์ ได้รับสินค้าไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคสั่งซื้อรองเท้า 2 คู่ ราคา 550 บาท ทางออนไลน์ แต่ได้รับสินค้าขนาดใหญ่เกินไปและไม่สามารถสวมใส่ได้ เมื่อขอคืนเงิน ผู้ขายกลับ บ่ายเบี่ยงและเสนอคืนเงินเพียงบางส่วนโดยหักค่าขนส่ง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 550 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณากำหนดค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
6.กรณีสั่งซื้อพัดลมเทอร์โบเจ็ทออนไลน์ – สินค้าใช้งานไม่ได้ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภคสั่งซื้อพัดลม 2 ตัว ราคา 1,190 บาท ทางออนไลน์ เมื่อได้รับสินค้าพบว่าลมเบา ไม่ตรงตามโฆษณา เมื่อขอคืนเงิน ผู้ขายคืนเงินเพียงบางส่วนและผู้ขนส่งไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลผู้ขายที่แท้จริง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,190 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
7.กรณีการซื้อหูฟังออนไลน์ ได้รับสินค้าลอกเลียนแบบ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภคซื้อหูฟังมือสองราคา 2,300 บาท ทางออนไลน์ แต่ได้รับสินค้าที่ใช้งานไม่ได้ และเมื่อนำไปตรวจสอบพบว่าเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ ผู้ขายไม่ยอมคืนเงินและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 2,300 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม

8.กรณีการซื้อสินค้าออนไลน์ ได้รับสินค้าผิดจากที่สั่งและไม่คืนเงิน ผู้บริโภคสั่งซื้อกระเป๋าสะพายสีขาวราคา 249 บาท ทางออนไลน์ แต่ได้รับกระเป๋าสีน้ำตาล ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่ง เมื่อติดต่อขอคืนสินค้าและเงิน ผู้ขายกลับเพิกเฉย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 249 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
9.กรณีการสั่งซื้อกางเกง 5 ส่วน – ขนาดและเนื้อผ้าไม่ตรงตามโฆษณา ผู้บริโภคสั่งซื้อกางเกง 3 ตัว ราคา 440 บาท ทางเฟซบุ๊ก เมื่อได้รับสินค้าพบว่าขนาดใหญ่เกินไปและเนื้อผ้าไม่ตรงตามโฆษณา เมื่อขอคืนเงิน ผู้ขายไม่ดำเนินการ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 440 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
10.กรณีสั่งซื้อเครื่องเล่นเกม PS4 มือสอง – ขาดอุปกรณ์ไม่ครบตามโฆษณาผู้บริโภคซื้อเครื่องเล่นเกม PS4 มือสองราคา 4,000 บาท แต่ได้รับสินค้าที่มีอุปกรณ์ไม่ครบตามที่โฆษณาไว้ (ขาดจอยเกม สายชาร์จ และแฟลชไดร์ฟ) เมื่อขอให้อุปกรณ์ที่ขาดหรือชดใช้ค่าเสียหาย ผู้ขายกลับปฏิเสธ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงินหรือชดใช้ค่าเสียหาย 1,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
11.กรณีสั่งซื้อไฟเลี้ยวรถจักรยานยนต์มือสอง – สภาพสินค้าไม่ตรงตามโฆษณา ผู้บริโภคซื้อไฟเลี้ยวรถจักรยานยนต์มือสองราคา 2,800 บาท โดยผู้ขายแจ้งว่า “สภาพใช้งาน ไม่แตกไม่หัก” แต่เมื่อได้รับสินค้าจริงกลับพบว่ามีรอยแตกและตำหนิจำนวนมาก ผู้ขายไม่ยอมคืนเงินและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 2,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
12.กรณีสั่งซื้อพวงกุญแจและตุ๊กตา – สินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้บริโภคสั่งซื้อพวงกุญแจและตุ๊กตารวมมูลค่า 3,760 บาท ทางเฟซบุ๊ก แต่ผู้ขายส่งสินค้าไม่ตรงตามรายการที่สั่งทั้งหมด เมื่อเรียกร้องให้คืนเงิน ผู้ขายก็ไม่ยอมคืนและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 3,760 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
13.กรณีไม่ส่งมอบเอกสารรถยนต์ ผู้บริโภคซื้อรถยนต์มือสองราคา 770,000 บาท และชำระเงินครบถ้วน แต่ผู้ขายไม่ยอมส่งมอบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ตามที่ตกลงไว้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายส่งมอบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ และชำระค่าปรับวันละ 500 บาท นับจากวันผิดนัดจนกว่าจะส่งมอบเอกสารครบถ้วน
14.กรณีสั่งซื้อทุเรียน – สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา ผู้บริโภคซื้อทุเรียนราคา 270 บาท ทาง TikTok แต่ได้รับทุเรียนที่เน่าเสียและเปลือกหนา ไม่ตรงตามที่โฆษณา เมื่อขอคืนเงินทั้งหมด ผู้ขายคืนให้เพียง 50 บาท และไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 220 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
15.กรณีสั่งซื้อแว่นกันแดด – สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา ผู้บริโภคซื้อแว่นกันแดดมือสองราคา 13,600 บาท ทางอินสตาแกรม เมื่อได้รับสินค้าพบว่ามีตำหนิจำนวนมาก ผู้ขายคืนเงินให้เพียงบางส่วนและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 13,600 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
16.กรณีสั่งซื้อโซฟาผ้าขนแกะ – สินค้าไม่ส่งมอบและคืนเงินไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อโซฟาราคา 18,000 บาท ทางอินสตาแกรม และชำระเงินครบถ้วน แต่ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าและคืนเงินให้เพียง 4,500 บาท เมื่อขอเงินส่วนที่เหลือคืน ผู้ขายก็ไม่ยอมคืนและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงินส่วนที่เหลือ 13,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
17.กรณีสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อและใช้งานไม่ได้ ผู้บริโภคสั่งซื้อแปรงขัดเอนกประสงค์ แบบไร้สายราคา 890 บาท ทางเฟซบุ๊ก แต่เมื่อได้รับสินค้าพบว่าอุปกรณ์ชาร์จใช้งานไม่ได้ ผู้ขายบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมรับผิดชอบ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 890 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
18.กรณีสั่งซื้อนมผง – สินค้าเสียหาย/ไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคสั่งซื้อนมผง 7 กระป๋อง ราคา 3,229 บาท แต่ได้รับนมผงที่มีกระป๋องบุบ 6 กระป๋อง เมื่อขอเปลี่ยนสินค้า ผู้ขายบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 3,229 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
19.กรณีสั่งซื้อกางเกง – สินค้าไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคสั่งซื้อกางเกง 2 ตัว ราคา 428 บาท แต่ได้รับกางเกงที่ผิดไซส์และไม่ตรงตามที่สั่ง เมื่อขอคืนสินค้าและเงิน ผู้ขายบ่ายเบี่ยงและไม่เข้าชี้แจง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 428 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
20.กรณีสั่งซื้อทุเรียนหมอนทอง – สินค้าเสียหาย/ไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคสั่งซื้อทุเรียนหมอนทองแบบเซ็ต แต่เมื่อได้รับสินค้าพบว่าทุเรียนลูกใหญ่มีเชื้อราและเน่าเสีย ไม่สามารถกินได้ ผู้ขายเสนอชดเชยเงินเพียงบางส่วน และไม่ยอมคืนเงินเต็มจำนวนตามที่ควรจะเป็น มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายชดใช้ค่าเสียหาย 350 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
21.กรณีสั่งซื้อหูฟัง – สินค้าเสียหาย/ไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคซื้อหูฟังมือสอง Apple AirPods Max ราคา 8,700 บาท แต่ได้รับสินค้าเป็นของลอกเลียนแบบ เมื่อขอคืนสินค้าและเงิน ผู้ขายเพิกเฉย ไม่ยอมคืนเงินเต็มจำนวนและไม่มาพบเจ้าหน้าที่ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 8,700 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
22.กรณีสั่งซื้อกล้องวงจรปิด – สินค้าเสียหาย/ไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคซื้อกล้องวงจรปิดมือสอง 2 ตัว ราคา 660 บาท แต่ได้รับเฉพาะตัวเครื่อง ไม่มีสายไฟและอะแดปเตอร์ ทำให้ใช้งานไม่ได้ เมื่อขอคืนเงินผู้ขายอ้างว่าขายเฉพาะตัวเครื่องและไม่รับคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 660 บาท พร้อมดอกเบี้ย และให้รวมถึงผู้บริโภครายอื่นที่มีกรณีในทำนองเดียวกัน
23.กรณีสั่งซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ – สินค้าไม่ตรงตามสัญญา ผู้บริโภคสั่งซื้อโทรศัพท์ iPhone 15 ราคา 659 บาท ทาง TikTok แต่เมื่อได้รับสินค้ากลับเป็นลำโพงขนาดเล็ก เมื่อขอเงินคืน ผู้ขายไม่ยอมคืนและไม่มาพบเจ้าหน้าที่ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน 659 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
24.กรณีสั่งซื้อเสื้อมือสองเสื้อมีตำหนิ ผู้บริโภคซื้อเสื้อมือสองออนไลน์ โดยผู้ขายแจ้งว่ามีตำหนิ แต่เมื่อได้รับสินค้าพบว่าสกรีนบนเสื้อเปื่อย เมื่อขอคืนสินค้าและเงิน ผู้ขายไม่ปฏิบัติตาม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายคืนเงิน จำนวน 230 บาท พร้อมดอกเบี้ย และให้รวมถึงผู้บริโภครายอื่นที่มีกรณีในทำนองเดียวกัน
25.กรณีสั่งซื้อลำโพงออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้าตามสเปก ผู้บริโภคสั่งซื้อลำโพง Marshall ผ่านช่องทางออนไลน์ราคา 990 บาท โดยผู้ขายโฆษณาว่าเป็นรุ่นที่มีกำลังขับสูง แต่เมื่อได้รับสินค้ากลับพบว่ากำลังวัตต์ไม่ตรงตามที่ระบุไว้ เมื่อเรียกร้องให้ส่งสินค้าตามสั่งหรือคืนเงิน ผู้ขายกลับไม่ให้ความร่วมมือและไม่มาพบเจ้าหน้าที่ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายส่งมอบสินค้าตามสเปก หรือคืนเงิน 990 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเสนอศาลให้พิจารณาค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มเติม
จากการประชุมได้มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ 13 ราย และดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป 25 ราย โดยได้มีการดำเนินคดีแพ่งแก่ผู้ประกอบธุรกิจ ที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค รวมจำนวน 38 ราย เพื่อให้คืนเงินแก่ผู้บริโภค เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 9,099,834.23 บาท (เก้าล้านเก้าหมื่นเก้าพันแปดร้อยสามสิบสี่บาทยี่สิบสามสตางค์) พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายและเสนอเรื่องต่อศาลเพื่อสั่งให้บริษัทดังกล่าว รวมถึงผู้มีอำนาจลงนามจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นจากจำนวนค่าเสียหายที่แท้จริงที่ศาลกำหนดตามที่เห็นสมควร
THAI
Social Links