“มนพร”รุกผลิตบุคลากร “บำรุงรักษาอากาศยาน”
หนุนไทยก้าวสู่ Aviation Hub ของภูมิภาค
“รชค.มนพร” เดินหน้าผลิตบุคลากรการบิน ด้าน “การบำรุงรักษาอากาศยาน” รองรับความต้องการอุตสาหกรรมการบิน หนุนไทยก้าวสู่ Aviation Hub ของภูมิภาค สั่ง สบพ. ลุยขอรับการรับรองให้เป็น “สถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน” ตามมาตรฐาน EASA ยันหลักสูตรได้ปฏิบัติงานจริง หวังปั้นนักศึกษาให้เข้าทำงานได้ทั่วโลก คาดตรวจขอรับรองในช่วงต้นปี 68
ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบหมายให้สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ในฐานะสถาบันเฉพาะทางในการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบินของประเทศ เดินหน้าสร้างบุคลากรด้านการบิน โดยเฉพาะด้านการบำรุงรักษาอากาศยาน เพื่อให้สอดรับต่อความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมการซ่อมบำรุงอากาศยาน ทั้งในประเทศและภูมิภาค รวมถึงรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน สบพ. ได้รับการรับรองสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน (Aircraft Maintenance Engineer Training Organization) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และอยู่ระหว่างการขอรับการรับรองให้เป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดินตามมาตรฐานองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) (Foreign EASA Part-147 Maintenance Training Organization) ซึ่งคาดว่า จะมีการตรวจประเมิน
ณ สถานที่ตั้ง (Onsite Audit) เพื่อรับการรับรองในช่วงต้นปี 2568 โดยหาก สบพ. ได้รับการรับรองเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดินตามมาตรฐาน EASA แล้วนั้น จะทำให้นักศึกษาที่จบหลักสูตรนายช่างภาคพื้นดินจาก สบพ. มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ EASA ทำให้มีสิทธิ์ที่จะทำงานในสายการบินต่าง ๆ ที่ใช้ข้อกำหนดของ EASA ได้ รวมทั้ง สบพ. ยังสามารถเปิดหลักสูตรรองรับลูกค้าต่างชาติที่ต้องการการฝึกอบรมตามมาตรฐาน EASA ได้มากขึ้นด้วย
ด้านนางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงอากาศยานที่มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ EASA ตามมาตรฐานยุโรป โดยเพื่อให้มีความสอดประสานของข้อกำหนด และเกิดการยอมรับระหว่างประเทศนั้น สบพ. จึงได้ดำเนินการตามทุกมาตรฐาน ทั้ง EASA, องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO), สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) สำหรับหลักสูตรนายช่างภาคพื้นดินของ สบพ. มีความครบถ้วนในทุกด้าน โดยนักศึกษาจะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติกับอาจารย์ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ ฝึกอบรมกับอากาศยานจริง อุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรมเป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ สบพ. ยังมีเครือข่ายความร่วมมือกับสถานประกอบการด้านการบำรุงรักษาอากาศยานชั้นนำของประเทศ เพื่อร่วมกันฝึกอบรมภาคปฏิบัติภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานจริงให้กับนักศึกษาให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมจริง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการบินจาก สบพ. ภายใต้การรับรองสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดินจาก กพท. และการกำกับดูแลของ ICAO โดยมีคุณวุฒิเทียบเท่าระดับอนุปริญญา จึงมีโอกาสสูงในการได้งานทำตรงสายในอุตสาหกรรมด้านการบำรุงรักษาอากาศยาน
นางสาวภัคณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า สบพ. ได้เปิดสอนหลักสูตรนายช่างภาคพื้นดิน มาแล้วกว่า 63 ปี หรือตั้งแต่ ปี 2504 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกองทุนพิเศษแห่งสหประชาชาติ (United Nations Special Fund: UNSF) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization :ICAO) และรัฐบาลไทย และ สบพ. ได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัจจุบัน สบพ. เปิดดำเนินการหลักสูตรนายช่างภาคพื้นดิน (Aircraft Maintenance Engineer License : AMEL) มี 2 สาขาวิชา ประกอบด้วย สาขาวิชาช่างเครื่องบิน วิชาเอกเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ (B1.1, B1.2) และสาขาวิชาช่างเอวิโอนิกส์ (B2) ภายใต้การรับรองสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดินจาก กพท. โดยหลักสูตรนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 2562 จากหลักสูตรอนุปริญญา สาขาวิชานายช่างบำรุงรักษาอากาศยาน เพื่อเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการยกระดับมาตรฐานการฝึกอบรมช่างอากาศยานให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
สำหรับ สบพ. ได้รับการรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ให้เป็นสมาชิกโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ระดับ PLATINUM ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของโครงการ นับเป็น 1 ใน 4 สถาบันฝึกอบรมในภูมิภาคเอเชีย และเป็น 1 ใน 9 สถาบันฝึกอบรมจากสมาชิกทั่วโลก รวมทั้งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีคุณภาพอีกด้วย
Social Links