“มนพร”สุดปลื้ม!สบพ. ขึ้นแท่นเบอร์ 2 มหาวิทยาลัยรัฐยอดนิยม

“มนพร”สุดปลื้ม!สบพ. ขึ้นแท่นเบอร์ 2 มหาวิทยาลัยรัฐยอดนิยม

“มนพร”สุดปลื้ม!สบพ.

ขึ้นแท่นเบอร์ 2 มหาวิทยาลัยรัฐยอดนิยม

 “รชค.มนพร” ชื่นชม สบพ.ขยับเป็นอันดับ 2 มหาวิทยาลัยรัฐ (ยอดนิยม) ด้านการบิน-ธุรกิจการบิน ที่นักเรียนอยากเรียนมากที่สุด ปี 2023 จัดอันดับโดย Thailand Education Ranking (TER)

ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สถาบันการบินพลเรือนหรือ สบพ.หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม เป็นสถาบันเฉพาะทางในการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบินของประเทศและภูมิภาค มายาวนานกว่า 63 ปี ได้รับการจัดอันดับThe Most Popular Universities in Thailand 2023ด้านการบิน/ธุรกิจการบิน/เทคโนโลยีการบิน ในหมวดมหาวิทยาลัยรัฐ (ยอดนิยม) ที่นักเรียนอยากเรียนมากที่สุด ซึ่งจัดอันดับโดยเว็บไซต์สถาบันจัดอันดับด้านการศึกษา หรือ Thailand Education Ranking (TER) โดยปี 2023ได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากเดิมปี 2021 อยู่ที่ลำดับ 3 และปี 2022 อยู่ที่ลำดับที่ 5 แสดงให้เห็นว่า สบพ. ยังคงรักษามาตรฐานการศึกษาและการบริการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา สบพ.ก็สามารถป้อนบุคลากรด้านการบินให้เพียงพอและสอดรับกับความต้องการของประเทศได้    

นอกจากนี้ ยังให้บริการช่างอากาศ บริการอากาศยาน และกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน ภายใต้มาตรฐานสากลได้อย่างดีเยี่ยม

ถือเป็นความภาคภูมิใจของกระทรวงคมนาคมเชื่อมั่นว่า สบพ. สามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ โดยพร้อมสนับสนุนการพัฒนาของสบพ. อย่างเต็มที่ ด้วย สบพ. มีจุดแข็งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในฐานะสมาชิกโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ระดับ Platinum ซึ่งเป็นสถานะสมาชิกระดับสูงสุดของโครงการ นับเป็น 1 ใน 4 สถาบันฝึกอบรมในภูมิภาคเอเชีย และเป็น 1 ใน 9 สถาบันฝึกอบรมจากสมาชิกทั่วโลก รวมทั้งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย ภายใต้การรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) และยังคงเพิ่มศักยภาพในการผลิตบุคลากรด้านการบิน เพื่อช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) ในภูมิภาค

ด้านนางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน กล่าวว่า สบพ. ได้เปิดสอนและฝึกอบรมให้แก่นักศึกษา และบุคลากรด้านการบิน ทั้งหลักสูตรวิชาภาคพื้นและภาคอากาศ ตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส. อนุปริญญาหรือเทียบเท่า ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานการฝึกอบรมด้านการบินระดับโลก ภายใต้โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบินหัวหิน และสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ งบลงทุน 414.40 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2569 โครงการเฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียวสำหรับฝึกบิน (Robinson R44) งบลงทุนปี 2566-2567 จำนวน37.90 ล้านบาท 1 ลำ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงขอจดทะเบียนและขอเอกสารประจำเครื่อง เพื่อตรวจตรวจรับรองจาก กพท. คาดว่าจะปฏิบัติการบินได้ในเดือนธันวาคม 2567 และโครงการเฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียวสำหรับฝึกบิน (Robinson R44) งบลงทุนปี 2567-2568 จำนวน 75.80 ล้านบาท อีกจำนวน 2 ลำ ซึ่งโครงการสำคัญที่ สบพ.กำลังเดินหน้า จะสามารถรองรับการฝึกอบรมหลักสูตรภาคอากาศ ให้เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ และต่อยอดไปถึงระดับภูมิภาคได้มากยิ่งขึ้น โดยแนวโน้มธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว อันมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง

สำหรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเข้าศึกษาในหลักสูตรต่าง ๆ ปัจจุบัน สบพ. กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปี 2568 ในหลักสูตรวิชาภาคพื้น อาทิ เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต เทคโนโลยีบัณฑิต หลักสูตรนายช่างภาคพื้นดิน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาเตรียมวิศวกรรมการบิน หลักสูตรประกาศนียบัตรทักษะช่างอากาศยาน และหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิตโดยเปิดรับสมัครแล้วผ่านทางเว็บไซต์ https://admission.catc.or.th โดยไม่ผ่านระบบ TCAS รวมทั้งในปี 2568 มีแผนจะเปิดหลักสูตรการจัดการดุษฎีบัณฑิต เดือนตุลาคม 2568 อีกด้วย

โดยสถาบันจัดอันดับด้านการศึกษา หรือ Thailand Education Ranking (TER) นั้น เป็นเว็บไซต์จัดอันดับด้านการศึกษาและแนะนำโรงเรียนดี มหาวิทยาลัยเด่น เน้นหลักสูตรน่าเรียน พร้อมรีวิวแนะนำที่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งรัฐและเอกชน ส่วนการจัดโครงการจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยยอดนิยม The Most Popular Universities in Thailand  โดยมีเกณฑ์การจัดอันดับ ดังนี้

  1. วัดความนิยมจากคะแนนโหวตของนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ทั่วประเทศ
  2. เก็บข้อมูลแบ่งตามหมวดคำถามความสนใจของผู้เรียน เช่น มหาวิทยาลัยยอดนิยมด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านบริหาร-บัญชี ด้านนิเทศศาสตร์
  3. เก็บข้อมูลแบ่งตามกลุ่มมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ
  4. เก็บข้อมูลและประกาศผลปีละ 1 ครั้ง *เก็บข้อมูลระหว่างเดือน มี.ค. – ธ.ค. และประกาศผลการโหวต ในเดือน ม.ค. – ก.พ. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลให้นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วประเทศ ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

You may also like

เงินเฟ้อ ต.ค.67 เร่งขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 0.83% คาดไตรมาสสุดท้ายโต 1.2% 

 อัตราเง