ยุบ-ไม่ยุบสภา ฯ ก็มี “เลือกตั้ง” for Democracy !!

ยุบ-ไม่ยุบสภา ฯ ก็มี “เลือกตั้ง” for Democracy !!

ยุบ-ไม่ยุบสภา ฯ ก็มี "เลือกตั้ง" for Democracy !!

นายจักรยาน

                นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นต้นมา ประเทศไทยของเราเป็น "ประชาธิปไตย" ที่มีการเลือตั้ง ส.ส. (แต่ ส.ว.ยังต้องแต่งตั้ง )

                หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.คุณสมชาย) เว้นวรรค "ประชาธิปไตย" มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557

                และเมื่อปี่ก่อนเดือนธันวาคม 2563  ประเทศไทยก็ทำอะเมซิ่งไทยแลนด้ด้วยการจัดการเลือกตั้ง นายกองค์บริหารส่วนจังหวัด และสมาชิก อบจ. 76 จังหวัด (ยกเว้น กทม.และเมืองพัทยา)

                จากนั้นเดือนมีนาคม 2564 ก็มีการเลือกตั้งตามระบอบ "ประชาธิปไตย" ด้วยการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี  และสมาชิกเทศบาล 2 พันกว่าแห่งทั่วประเทศ

                วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ประชาชนท้องถิ่นต่าง ๆ มีโอกาสเลือกตั้งกันคึกคัก ด้วยการเลือก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และสมาชิก อบต. ทั่วประเทศ 5 พีนกว่าแห่งพร้อมกัน

                ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.  และสมาชิกสภา กทม.(ส.ก.)ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะให้คนกรุงเลือกตั้งกันในเดือนมีนาคม 2565  ก็ต้องเวทแอนด์ซีว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่

                สำหรับการเลือกต้้งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกเมืองพัทยา ยังมิได้มีกาากำหนดไว้ว่าจะเลือกกันเดือนไหน  ชาวเมืองพัทยาก็ต้องคอยเงี่ยรูหูฟังข่าวจากรัฐบาล "ลุงตู่" ว่าจะโอเคเลือกวันไหนเดือนอะไร

                ด้วยเหตุฉะนี้ ประเทศไทยจึงเป็น "ประชาธิปไตย" ที่มาจากการเลือกตั้งของพ่อแม่พี่น้องประชาชน  ตั้งแต่ระดับชาติ  ระดับท้องถิ่นทุกระดับบนผืนแผ่นดินไทย

                ส่วนกลุ่มบุคคลที่เชิดชู "ประชาธิปไตย" ที่ต้องมาจากเลือกตั้ง  แต่่หาเหตุมาโจมตี "ประชาธิปไตย" ของไทยต่าง ๆ นานา  โดยงัดเอาตำราต้วอย่างของต่างชาติมาอ้างอิง?? 

                ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่ด่า "ประชาธิปไตย" ของไทยเคยไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่??

                ว่ามาว่า "รัฐธรรมนูญ" ปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญเจ้าปัญหาที่สุด ทำให้มีการโจมตีถล่มรัฐธรรมนูญ 60 ตลอดเวลาว่าเป็น "ประชาธิปไตย" ที่ไม่เต็มใบ

                เป็นแค่ "ประชาธิปไตย" ครึ่งใบ ค่อนใบ หรือใบขาดกะรุ่งกะริ่ง??

                ดังนั้น ได้มีพรรคการเมืองคนละขั้วกับ "ลุงตู่" เสนอขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่!!

                ทว่า "ศาลรัฐธรรมนูญ" ได้ตีความว่า ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องถามอำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของปวงชนชาวไทยด้วยการทำ "ประชามติ"

                เนื่องจาก "รัฐธรรมนูญปี 60" ได้ผ่านการ "ประชามติ" ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ก็ต้องทำ "ประชามติ" จากประชาชนอีกครั้งว่าจะเอาหรือไม่่เอา

                แต่ถ้าเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราที่เป็นปัญหากวนใจของนักการเมือและประชาชนกลุ่มหนึ่ง (ไม่รู้ว่ากวนใจประชาชนตัวจริงเสียงจริงหรือไม่) ก็สามารถยื่นญัตติเสนอแก้ไขต่อรัฐสภาได้ตามสะดวกไม่ผิดกติกา

                ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ประชาชนสามารถลงชื่อร่วมกันตั้งแต่ 50,000 ชื่อขึ้นไปยื่นเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูได้

                ล่าสุด บุคคลที่มีชื่อเล่นว่า "ไอติม" ร่วมกับอาจารย์ที่มีฉายาว่า "อาจารย์บูด" ได้รวบรวมรายชื่อประชาชน 1.3 แสนกว่าคน ยื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา

                ปรากฏว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคุณไอติมและคุณบูดโดนสมาชิกรัฐสภาตีตกตีลังกาหงายท้องไปตามความคาดหมายของเกจิการเมืองหลาย ๆ ฝ่าย

                ซึ่งแกนนำผู้ที่เสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็รู้ว่าไม่มีทางผ่านแน่นอน ต้องถูกคว่ำแน่นอน  ผลออกมาก็ไม่ทำความผิดหวังให้แก่ผู้เสนอ

                เพราะผู้เสนอสมหวังที่จะได้หยิบประเด็นนี้มาหาโอกาสเป็นเงื่อนไขโจมตีเสียดสีว่าประเทศไทยังไม่เป็น "ประชาธิปไตย" ที่แท้จริง??

                จะด้วยเหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้  "โจ ไบเดิน" ประธานาธิบดีสหรัฐเอมริกา  ไม่เชิญ "ประเทศไทย" เข้าร่วมประชุม Summit For Dimocrycy  ที่คิดว่าประเเทศตัวเองเป็นเจ้าโลกประชาธิปไตยได้ทำเทียบเชิญเพียง 110 ประเทศ

                ก็ต้องขอขอบคุณสหรัฐอเมริกาที่ทำให้กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มของไทยหาเหตุมาโจมตี "ประชาธิปไตย" ของไทยได้ตามสะดวกปาก

                ไม่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะเชิญหรือไม่เชิญ  ประเทศไทยก็มีการเคลื่อนไหวใน "การเลือกตั้ง"ครั้งหน้าต่อไปในอีกไม่นานเกินรอไม่เกินกลางปี 2566  เพราะครบเทอม 4 ปีของสภาผู้แทนราษฎร  แต่ถ้ามีอุบัติเหตุทางการเมืองก็อาจเลือกตั้งกลางปี 2565!?!

                ทั้้งนี้และทั้้งนั้นที่จะเป็นสาเหตุของอุบ้ติเหตุทางการเมือง  เนื่องจากได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญวิธีการเลือกตั้งจากการใช้บัตรใบเดียวเป็น 2 ใบตามกติกาเดิม  ใบแรกเลือก ส.ส. และอีกใบเลือกพรรคการเมือง และแก้ไขให้มี ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เหมือนเดิมเช่นกัน

                ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 เรื่องใหญ่นั้น พระราชกฤษฎีกาได้ประกาศผ่านเป็นกฎหมายเรียบร้อยสมใจอยากของนักการเมืองทั้่งฝายค้านและฝ่ายรัฐบาล กำลังรอฤกษ์ให้ที่ประชุมสภร ฯ พิจารณาลงมติเห็นชอบตามกฎกติกามารยาทในเดือนธันวาคมนี้

                ท่านรองนายกฯ ฝายเนติบริกร "วิษณุ  เครืองาม" ได้บอกใบ้เป็นนัยว่าการพิจารณา พรป.รัฐธรรมนูญ จะเสร็จสมบูรณ์เป็นกฎหมายออกมาใช้บังคับก็ประมาณเดือนพฤษภาคม 2565!!

                พร้อมกันนี้ "ท่านรอง ฯ วิษณุ" ได้เตือน "ลุงตู่" ว่าหลังจากที่กฎหมายลูก 2 ฉบับมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว  ก็จะมีแรงกดดันสารพัดเรื่องให้ "ยุยสภา" จากนักการเมืองและกลุ่มการเมือง

                แต่ "ลุงตู่่" ได้ย้ำอีกครั้งว่า "ไม่ยุบสภา"  ให้ผู้ที่อยากยุบผิดหวัง และผู้ที่ไม่อยากยุบสมหวัง!!

                ไม่ว่าจะยุบสภา หรือไม่ยุบ  แต่ "ประเทศไทย" ของเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องมี "เลือกตั้ง" ตามระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการกาเบอร์ของคนไทยทั้งประเทศ

                เมื่อประเทศสหรัฐอเมริกาที่สถาปนาตัวเองว่าเป็น ผู้่นำประชาธิปไตยของโลกไม่เข้าใจ "ประชาธิปไตย" แบบไทย ๆ ไม่สนใจเชิญ "ลุงตู่" เข้าร่วมประชุม Summit For Democracy เพื่อให้เป็นลูกน้องประชาธิปไตยของมะกัน

                ก็ไม่เป็นไร โนพร็อบเบลม นะจ๊ะ!!

You may also like

นักลงทุนไทยปรับพฤติกรรมใหม่ “เจพี มอร์แกน”ชี้พร้อมรับมือความผันผวนของตลาด และความไม่แน่นอนด้านภาษีการค้า

นักลงทุน