รัฐธรรมนูญไทยในอดีตมักมี "อาถรรพณ์" ขอภาวนาอย่าให้ "รัฐธรรมนูญ" ฉบับใหม่ในอนาคตมีปัญหา??
นายจักรยาน
ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2564 ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ไปจนถึงสุดสัปดาห์ มีเรื่องราวการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ ที่สำคัญต่อบ้านเมืองไทยที่ท่านผู้ชมผู้ฟังผู้อ่านควรติดตามกันอย่าได่้กระพริบตา
ก็คงหนีไปพ้นเรื่อง "รัฐธรรมนูญ" ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยตีความว่า "รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติ "เสียก่อน" ว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่
และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงมติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง!!
ด้วยเหตุฉะนี้จึงตีความได้ว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 สามารถแก้ไขได้ไม่ว่าจะเป็นรายมาตรา หรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ไม่มีปัญหาใด ๆ ว่าจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ??
เมื่้อ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ตีความออกมาเรียบร้อยย่อมผูกพันไปถึงทุกองค์กรที่่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าก็มีนักการเมืองทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เจ้าประจำที่เป็นบุคคลเจ้าปัญหาก็ออกมาพูด "ตีความ" จากคำ "ตีความ" ของศาลรีฐธรรมนูญให้เรา ๆ ท่าน ๆ สับสนให้มันยุ่งกันเข้าไว้
โดยให้ความเห็นว่า การที่รัฐสภาในลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผ่านวาระ 1 และ 2 ไปแล้วนั้นค้อง "โมฆะ" ไป ไม่สามารถมาโหวตวาระ 3 ในวันที่ 17-18 มีนาคม 2564
ทางด้าน "นายชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา ได้บอกกล่าวให้รู้ว่า วันที่ 17-18 มีนาคม 2564 ยังดำเนินการประชุมพิจารณาลงมติวาระ 3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 1 และ 2 ไปแล้ว
ณ วันนี้ยังไม่รู้ว่าท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติทั้ง 2 สภาจะถกเถียงกันเรื่องสามารถโหวตวาระ 3 ได้หรือไม่ แต่เชื่อแน่ ๆ ว่าจะมีการอภิปรายกันจนเสียน้ำลายกันมากมายแน่นอน
เนื่องจากขณะนี้ มีเสียง 2 มุมมองที่ออกมาจากปากนักการเมืองว่า วาระ 1 และ 2 ที่ผ่านความเห็นขอบรัฐสภาไปแล้วยังไม่ตกไป และสามารถโหวตผ่านวาระ 3 ได้ เมื่อผ่านวารถ 3 แล้วก็ให้รัฐบาลทำ "ประชามติ" ถามประชาชนว่าเห็นควรด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ถ้าประชาชนลงมติว่าเห็นด้วย ขั้นตอนต่อไปก็ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ของแต่ละจังหวัดมาช่วยกันยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทว่ามีความเห็นแย้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่าต้องถามประชาชนที่มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ก็ควรรอให้ผ่านประชามติเรียบร้อยโรงเรียนรัฐธรรมนูญก่อน แล้วค่อยมายื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญกันใหม่
มีความที่น่าสนใจของ "ดร.วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี นิติบริกร เสนอแนะทางออกมว่า ให้ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายงดออกเสียงในการโหวตวาระ 3 กันเยอะ ๆ จะดีกว่า เพราะถ้าจำนวนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ของการผ่านวาระ 3 ญํตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องตกไปตามกฎกติกามารยาท
ซึงเป็นความเห็นของผู้รอบรู้ความมหัศจรรย์ของกฎหมายก็เข้าทีดีเหมือนกัน จะไม่ต้องมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ "ตีความ" อีกให้เสียเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นักการเมืองอยากจะเดินหน้าโดยเร็ววัน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าทุกฝ่ายทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ชี้ทางสว่างออกมา!!
เพราะฉะนั้นการทำ "ประชามติ" ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหลังการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เรียบร้อย ทุกพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งในและนอกสภา ฯ ไม่น่าจะหาเรื่องให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกให้เยิ่นเย้อเสียเวลาไปอีก
นักการเมืองในระบบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็มักจะอ้าง "ประชาชน" เสมอ ๆ ดังนั้นการให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ลงประชามติ คงไม่มีนักการเมืองหน้าไหนออกมาตีรวนการทำประชามติ
แม้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเลือกตั้ง ส.ส.ร. 200 คนมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องยืดเวลาออกไปอีก ทั้งประชาชนและนักการเมืองรวมทั้ง "ม็อบ" จะต้องช่วยกันผลักดันให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับอย่างเร่งด่วน
ทุกฝ่ายควรต้องช่วยกันเร่งเครื่องให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากอำนาจสถาปนาของประชาชนให้เสร็จทันวาระของสภาผู้แทนราษฎรยุคที่มี "ลุงตู่" เป็นกัปตันเรือเหล็กที่จะสิ้นสุดลงในอีก 2 ปี!!
การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศครั้งหน้า โดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็ย่อมทำให้สถานการณ์การเมืองผ่อนคลายปัญหายุ่ง ๆ อีรุงตุงนังลงไปได้
ไม่รู้ว่า "รัฐธรรมนูญ"ฉบับใหม่ที่ยกร่างโดย ส.ส.ร. 200 คนจากการเลือกตั้งของประชาชนจะมีเรื่องราวให้เกิด "ปัญหา" ต่อบ้านเมืองหรือไม่??
เพราะ "รัฐธรรมนูญ" ของที่นี่ประเทศไทยที่ผ่าน ๆ มามักจะเกิด "อาถรรพณ์" อย่างนึกไม่ถึง!?!
ก็ขอภาวนาให้ "รัฐธรรมนูญ"ฉบับใหม่ จงโชคดีมีชัย (ฤชุพันธุ๋) !!
THAI
Social Links