รัฐบาล”ลุงตู่” สอบตกเรื่อง “วัคซีน” ทำให้ประชาชนสับสนมึนงง??

รัฐบาล"ลุงตู่" สอบตกเรื่อง "วัคซีน" ทำให้ประชาชนสับสนมึนงง??

นายจักรยาน

                 เป็นไปอย่างที่ศูนย์บริหารราชการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.)ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นผู้ที่ติดเชื้อ "ไวรัศนรก" ในประเทศพุ่งทะลุหมื่นคนขึ้นไป และจะเป็นสังเวยชีวิตเกิน 100

                ซี่งการคาดการณ์ดังกล่าวได้ปรากฏเป็นจริงขึ้นมา  เพราะรายงานจาก ศบค. เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กรกฏาคม 2564 ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อไวรัสนักฆ๋าแห่งโลกจำนวน 10,082 คน เพิ่มขึ้นจากวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 จำนวน 127 คน

                ดู ๆ แล้วเหมือนกับ "เอาไม่อยู่" กับการอาละวาดอย่างหนักของ "โควิด-19" สายพันธุ์เดลต้า(อินตระเดีย) ที่แพร่พิษไปทั่วแผ่นดินไทย

                ที่สำคัญสุด ๆ ก็คือ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าอีกไม่นานเกินรอ  "โควิดสายพันธุ์เดลต้า" จะระบาดระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก

                ด้วยเหตุฉะนี้  ผู้นำของรัฐบาลทั่วโลกได้เปิดตำราต่าง ๆ วิ่งสู้ฟัดกับ "ไวรัสยมทูต" พันธุ์อินเดีย อย่างเต็มที่เพื่อสกัดยับยั้งไม่ให้แพร่ระบาดตามใจเจ้าฆาตกร "โควิดโคบ้า"!!

                ผู้เชี่ยวชาญหลายประเทศต่างมีความเห็นตรงกันว่า "ไวรัสพันธุ์อำมหิต" จะไม่สามารถกำจัดง่าย ๆ ให้คลี่คลายไปในปลายปี 2564  และจะระบาดต่อไปจนถึงกลางปี 2565 ให้มนุษย์โลกได้ผวาวิตกจริต

                ถ้ากลางปี 2565 ไม่จบ คนทั่วโลกก็ต้องเจ็บต่อไปตลอดปี 2565 แต่สิ้นปี 2565 ไม่จบอีก  ทุกประเทศก็ต้องสู้ปล้ำไล่ฟัดกับ "โควิดมหาประลัย" ต่อไปเรื่อย ๆ

            ส่วนจะ "จบ" ในปีไหน  ณ เวลานี้ไม่มีใครตอบได้??

                มาตรการ "ล็อกดาวน์" พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัดผ่านไป 1 อาทิตย์  จำนวนผู้ติดเชื้อกลับไม่ลดลง  แต่กลับเพิ่มทะยานเป็นหมื่นคน

                ซึ่งรัฐบาล "ลุงตู่" เตรียมงัดมาตรการเข้มขึ้นมาอีกในการ "ล็อกดาวน์" เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำลงมากว่าหมื่นคน  เด็ดสะมอเร่ไม่เกินร้อย

                หรือจะ "ล็อกดาวน์" ทั้งประเทศตามกระแสข่าวที่ออกหรือไม่ วันนี้คงได้รู้กันเรียบร้อยโรงเรียนตู่แล้ว

                ความหวังที่จะลดจำนวนผู้โชคร้ายโดนโควิดบ้าพุ่งเข้าใส่  เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องติดตามดูว่าเป็นความฝันที่เป็นจริงหรือไม่

                อา..คนท้่วโลกค่างก็รู้ว่า "วัคซีน" เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประชาชนไม่ติดเชื้อหรือเสียชีวิตอย่างง่าย ๆ

                ทว่า "วัคซีน" ที่ป้องกัน "โควิดเพชฌฆาต" ที่ทั่วโลกผลิตขึ้นมามีหลายยี่ห้อ จนไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีที่สุด

                ที่นี่ประเทศไทยก็มีการปั่นกระแสเรื่อง "วัคซีน" โดยด้อยค่าวัคซีนยี่ห้อนั้น ยกยกปอปั้นอีกยี่ห้อหนึ่งว่าดีเลิศประเสริฐศรีกว่า

                หรือสร้างกระแสว่าฉีดวัคซีนเสียเงินดีกว่าของฟรีของรัฐบาล "ลุงตู่" ที่จัดให้!!

                ก็ต้องขอบอกย้ำเตือนให้รู้อีกครั่้งว่า วัคซีนยี่ห้อต่าง ๆ ที่ผลิตออกมาฉีดให้ชาวโลกนี้เป้นวัคซีนกรณีฉุกเฉินที่รีบผลิตออกมาเพื่อสกัด "โควิดนรก" เอาไว้ก่อน

                ไม่มียี่ห้อไหนมีประสิทธิผล 100 %  แต่ละยี่ห้องมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตั้งแต่ 60-90 %

                เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูต่อไปว่าข้างหน้าวันใดที่มีการค้นคิดผลิตวัคซีนเข็มเดียวป้องกันได้ 100 %

                ส่วนจะป้องกันได้เพียงแค่ปีเดียว และต้องฉีดกันทุกปี หรือว่าเข็มเดียวคุ้มกันได้ตลอดชีวิต ก็ต้องคอยติดตามข่าวจริงที่เกิดขึ้น

            ดังนั้น "วัคซีน" ที่ยังไม่มีฤทธิ์เดชป้องกันได้เต็มร้อยก็ตาม  แต่ก็ต้องระดมฉีดให้ประชาชนกันทุกประเทศ เพื่อให้เกิดภูมิกันหมู่ของประชาชน

            สำหรับประเทศไทยมีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ว่า"วัคซีน" ที่รัฐบาล "ลุงตู่" จัดหามาฉีดฟรีให้ประชาชนไม่เพียงพอ หรือมาไม่ทันจำนวนเป็าหมาย 70 % ของจำนวนประชากรภายในสิ้นปีนี้

                เนื่องจากวัคซีนที่มีโรงงานผลิตในไทย แต่บริษัทของประเทศอังกฤษเป็นผู้จัดสรรส่งมอบให้กลับเบี้ยวเอาดื้อ ๆ ไม่ส่งมอบให้เดือนละ 10 ล้านโดสตามสัญญา ตัดยอดเหลือเพียง 5 หรือ 6 ล้านโดสต่อเดือน  ที่เหลือส่งไปให้ประเทศอื่น

                ด้วยเหตุฉะนี้ ประชาชนก็หวั่น ๆ ว่าจะได้ฉีดวัคซีนตามการนัดหมายในเข็มที่ 1 หรือเข็มที่ 2 หรือไม่

                ดีไม่ดี อาจจะต้องฉีดให้ประชาชนเป็นเข็มที่ 3 อีก??

                ความสับสนจำนวนวัคซีนมีเพียงพอต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศหรือไม่ รัฐบาล "ลุงตู่" กลับไม่รีบชี้แจงให้เคลียร์ทันทีทันใด??

                มีอะไรก็บอกปัญหาให้ประชาชนทราบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา ให้ประชาชนเสียเวลาคิด อย่างอึมครึม!!

                ถ้าไม่เคลียร์ให้เกิดความแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ก็จะทำให้ประชาชนชาดความเชื่อมั่น "รัฐบาลลุงตู่" อย่างแน่นอน

            ปัญหาการแก้ไขวิกฤติ "โควิดยมทูต" ของรัฐบาล "ลุงตู่" ที่ "สอบตก" ก็คือการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่างทันท่วงที

                ตามปฏิทินการเมืองเรื่องเลือกตั้ง  เหลือเวลาเพียงปีเศษ ๆ รัฐบาล "ลุงตู่" ก็หมดวาระ 4 ปี  พี่น้องประชาชนก็ได้เลือกตั้งหารัฐบาลใหม่กันแล้ว

                ผลงานการ "สอบตก" เรื่องการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล อาจ่ส่งผลให้พลพรรคที่วางแผนจะแบกอุ้ม "ลุงตู่" มาเป็น "นายกรัฐมนตรี" สืบทอดอำนาจต่ออีกในการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจต้องผิดหวัง??

            เพราะฉะนั้น  กลุ่มฝ่ายค้าน  ฝ่ายแค้น และกลุ่มการเมืองที่ออกปากไล่ "ลุงตู่" ทุกวันสามเวลาหลังอาหารและก่อนนอน  ขอให้อดใจทนรอหน่อยนะจ๊ะ

            จบข่าว  สวัสดี!!