"ลุงตู่" ยังต้องวิ่งสู้ฟัด "ไวรัสอำมหิต" 24 ชม. แม้ฝ่ายจะฟัดชนาดไหน "ลุงตู่" ก็ไม่มีทางลาออก??
นายจักรยาน
ปัญหา "โควิดไวรัสล้างโลก" ที่่รัฐบาล "ลุงตู่" วิ่งสู้ฟัดอยู่ในขณะนี่้ ก็ต้องรอดูฝีมือของ "ลุงตู่" ที่ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการทำสงครามกับ "ไวรัสอำมหิต" ที่ทำให้มวลมนุษย์ชาติผวาไปกันทั้งโลก
ส่วนจะทำให้ประชาชนคนไทยทั้งปวงรู้สึกสบายใจขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เมย์เดย์ 2564 เป็นต้นไปหรือไม่ต้องรอคำตอบจนถึงสิ้นเดือน เพราะคนไทยทุกวัยยังต้องเผชิญกัยศัตรูไวรัสที่มองไม่เห็นด้วยตาที่อาละวาดมาตลอดปี 2563 และผ่านปี 2564 มาครึงปีก็ยังพ่นพิษระลอกใหม่ไม่หยุดหย่อน
แถมแสดงอิทธิฤทธิ์กลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ ในสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศที่เอาไม่อยู่ โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่ได้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์อินตระเดียที่ทำให้ผู้คนทั้งโลกตื่นตระหนกต๊กกะใจไปตาม ๆ กันว่่าสิ้นปี 2564 จะ "เอาอยู่" หรือไม่
สำหรับที่นี่ประเทศไทย "ลุงตู่" ประกาศว่า คนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน "โควิดมหาประลัย" ครบทุกคนก่อนสิ้นปี 2564 เพื่อให้ชาวไทยมีภูมิคุ้มกันไม่ให้เจ้าโวรัสตัวร้ายแห่งศตวรรษมาข้องแวะกับคนไทยได้อีก
ต้องยอมรับความจริงว่า การประเมินสถานการณ์ผิดพลาดของ "ลุงตู่" ในเรื่องการจัดหาวัคซีนมาช้าเกินควร และไม่ยอม "ล็อกดาวน์" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ปล่อยให้ประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ได้ตามใจปรารถนา
และประชาชนคนกรุงและคนนอกกรุงที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ก็เดินทางไปพ่อแม่ญาติพี่น้องกันได้อย่างสะดวกโยธิน
เมื่อคนเรามีติดต่อกันตามสถานที่ต่าง ๆ เจ้าเชื้อไวรัสนรกแตกสายพันธุ์อังกฤษที่ทะลุทะลวงเข้ามาใหมก็เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ไวได้เร็วแถมดุกว่าเดิมก็เลยติดต่อไปสู่คนสู่คนที่ติดต่อกันอย่างระเบิดเถิดเทิง
ซึ่งจากตัวเลขต้น ๆ ปีมีผู้ที่ติดเชื้อไม่กี่พันคนจนถึงขณะนี้มีผู้ที่โชคร้ายติดเชื้อ ปาเข้าไปแล้ว 6 หมื่นกว่าคน และอาจจะทำสถิติถึงแสนคนก็ได้ถ้าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังประมาทการ์ดตก!!
ส่วนผู้ที่เสียชีวิตแรก ๆ ไม่ถึงร้อยคน ณ ขณะนี้ก็ขยับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยกว่าคนแล้วอย่างน่าตกใจ และสถิติผู้ที่อำลาโลกในแต่ละวันที่อยู่ที่ตัวเลขเดียว ก็พุ่งขยับไปสองตัวเลขอย่างใจหายทีเดียว
เพราะฉะนั้น ความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของ "ลุงตู่" ต้องโชว์ให้ประชาชนได้รู้ได้เห็นว่าสามารถควบคุมได้ไม่ทะยานสู่งขึ้นไปเรื่อย ๆ และมีผู้ที่เสียชีวิตแต่ละวันเหลือศูนย์ให้ได้
โดยเฉพ่าะการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนที่ต้องการฉีดป้องกันตัวได้เร็วที่สุด ครบถ้วนตามเป้าหมายได้เร็วที่สุด ก็จะเป็นผลงานโบว์แดงที่ "ลุงตู่" ไม่ต้องโดนด่าถล่มในการแก้ปัญหาที่กลายเป็นโบว์ดำ!!
ณ วินาทีนี้ "ลุงตู่" ก็ต้องทำใจให้โดนด่าสารพัดเรื่องทุกวัน เปรียบเสมือนเป็นแรงกระตุ้นให้จัดการกับ "โควิด-19" ได้ตามแผนที่กำหนดไว้
แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายการเมืองที่อยู่คนละข้างที่ไม่ขอบหน้า "ลุงตู่" ก็คงตั้งหน้าตั้งตาหาเหตุมา "ด่า" ได้ทุกวันตามประเพณีวัฒนธรรมของการเมืองแบบไทย ๆ ที่เห็น "ลุงตู่" ทำอะไรขึ้นมาก็ผิดไปหมด
สำหรับคำขู่่ของ พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมหน้าพร้อมตากันให้ "ลุงตู่" ลาออกไปให้พ้น ๆ ได้แล้ว เนื่องจากล้มเหลวในการจัดการกับ "ไวรัสเพชฌฆาต" ทำให้เกิดการระบาดรอบที่ 3 ที่แพร่กระจายไปทุกจังหวัดทั่้วประเทศ ไม่มีจังหวัดไหนรอดพ้นเจ้าโควิดที่เข้ามาขวิดชาวบ้านในแต่ละจังหวัดได้
เพื่อให้บุคคลอื่นมาเป็น "ผู้นำ" ของประเทศแทน เพื่อที่จะปราบไวรัสวายร้ายได้ดีกว่า พร้อมทั้งให้มีการตั้ง "รัฐบาลชั่วคราว" มาบริหารประเทศชาติแทนรัฐบาล"เรือเหล็ก"!!
การแถลงข่าวของ "ฝ่ายค้าน" ดูเหมือนกับว่า "ฝ่ายค้าน" ใช้รัฐธรรมนูญคนละฉบับกับรัฐธรรมนูญปี 60 ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศขาติ ณ ขณะนี้
ถ้ารัฐธรรมนูญของ "ฝ่ายค้าน"ในความฝัน อาจทำให้มี "รัฐบาลชั่วคราว" ได้รวดเร็วภายใน 2-3 วัน และมี "นายกรัฐมนตรี"คนใหม่ถูกใจ "ฝ่ายค้าน" !?!
ทว่ารัฐธรรมนูญปี 60 มีขั้นตอนในการเลือก "นายกรัฐมนตรี" หลายขั้นตอนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการก็ใช้เวลาเร็วสุดหนึ่งเดือน ฟอร์มรัฐบาบใหม่อีกเดือน และผู้ทื่จะมาเป็น "นายกรัฐมนตรี" ต้องเป็นรายชื่อของพรรคการเมืองแต่ลพรรคที่เสนอให้ประชาชนได้รับรู้ก่อนการ "เลือกตั้ง"
ที่สำคัญสุด ๆ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย และพรรค ปชป. ที่เป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของพรรคร่วมรัฐบาลที่มี พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำ จะต้องหัไปจับมือกับ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้านอื่น ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล
และที่สำคัญอีกประการก็คือ ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็น "นายกรัฐมนตรี" จะต้องมีเสียงของ ส.ว.สนับสนุนให้เป็นกันจำนวนมาก เพื่อให้มีคะแนนเสียงเกินครึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภา
การเลือก "นายกรัฐมนตรี" ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก็ไม่มีทางที่ "ฝ่ายค้าน" จะได้เป็นรัฐบาล เชื่อเหอะ!!
"ลุงตู่"ของแฟนคลับก็สามารถกระโดดเข้ามาเป็น "นายกรัฐมนตรี" ได้อีกตามกติกาของรัฐธรรมนูญปี 60 ให้ "ฝ่ายค้าน" ซ้ำใจเล่น!!
แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามกระซิบมาว่า พรรค ปชป. ที่เคยพูดย้ำตลอดเวลาว่าจะไม่มีทางไปจับขั้วกับพรรคเพื่อไทยเด็ดขาด ก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปอยู่ใต้อาณัติของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน
ส่วนพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ได้กล่าวย้ำไม่ร่วมสังฆกรรมกับ พรรคเพื่อไทย ทว่าแหล่งข่าวเชื่อเต็มร้่อยว่า ก็จะไมเปลี่ยนข้่างให้โง่ทำไม??
แม้ว่า "ลุงตู่" จะปล่อยของพูดในที่ประชุม ครม. ว่า ได้มีสายสืบของตนเองไปแอบรู้ว่ามีรัฐบาลคนไทยชอบไปแอบนินทากาเลเหมือนเทน้ำถากถาง "ลุงตู่" ในวงสนทนาบางวง พร้อมทั้งขู่่ว่าอาจะได้ริบโควต้าของรัฐมนตรีที่ไม้่ชอบนินทามาเป็นโควต้าของตนเอง
คำขู่แบบทีเล่นทีจริง แต่รัฐมนตรีที่อยู่ในที่ประชุมเข้าใจตรงกันว่า "ลุงตู่" พูดจริง ทำจริงแน่ ถ้ามีรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลปากไม่ดีแอบเมาท์ให้เสียหาย
ส่วนจะเป็นรัฐมนตรีคนไหน อยู่พรรคใด แต่ทุกคนจะพุ่งเป้าไปที่ พรรคภูมิใจไทย มากกว่าพรรคอื่น ก็มีการเดากันไปมาว่าคนนั้นคนนี้ แต่รัฐมนตรีตัวจริงที่ชอบนินทาก็ไม่ได้ออกมาเปิดเผยตัวเอง??
ก็แสดงว่า "รัฐมนตรี" ที่แอบเมาท์ถึง "ลุงตู่" ไม่แน่จริง??
แต่ที่เป็นเรื่องจริงของแหล่งข่าวลึกลับแพลมมาว่า ทั้งพรรคภูมิใจไทย และ พรรค ปชป. ไม่มีทางที่จะไปจับขั้วกับขั้วฝ่ายค้านที่มี "พรรคเพื่อไทย" เป็นแกนตาม "พรรคก้าวไกล"!!
ด้วยเหตุฉะนี้ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ก็ได้เพียงแต่แถลงข่าวดิสเครดิตตอกย้ำผลงานในการปราบโควิด -19 ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องยอมรับว่า "ลุงตู่" ประเมินสถานการณ์เรื่อง "เอาอยู่" เกิดข้อผิดพลาดในบางอย่างจริง!!
นอกจากนี้ กระแสทางการเมืองที่ "ฝ่ายค้าน" พูดขึงขังให้ "ลุงตู่" ลาออกไปซะ ก็ไม่มีเสียงสะท้อนกลับมาแบบถล่มทลายให้ "ลุงตู่" เสียศูนย์ เพียงแต่ "อมยิ้ม" กับการเมืองที่ "ฝ่ายค้าน" นำมาเล่นให้ดัง แต่ก็ไม่ปัง!!
สถานการณ์การบ้านการเมืองของไทย ณ เวลานี้ "ลุงตู่" ยังเป็นนายกรัฐมนนตรีต่อไปเหมือนเดิม พรรคร่วมฝ่ายค้านก็เป็น "ฝ่ายค้าน" ต่อไปเช่นกัน และก็ไม่มีทางที่เปลี่ยนเป็นแกนนำรัฐาลได้??
ทางด้าน "ฝ่ายค้าน" ยังมีสิทธิเสรีภาพในการด่า "ลุงตู่" ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
โดยไม่ได้มีการออกกฎห้ามนักการเมืองพูดช่วงเวลา 23.00 -04.00 น. ตามที่จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่คุมเข้มขอร้องประชาชนอย่าออกนอกบ้าน!!
ทราบแล้วเปลี่ยนนะจ๊ะ!!
Social Links