สคบ. ลุยตรวจ!!
ธุรกิจรับจ้างก่อสร้างและรับเหมาต่อเติมอาคาร
เดินหน้าคุ้มครองผู้บริโภคเต็มกำลัง
ปัจจุบันการให้บริการก่อสร้างอาคารหรือต่อเติมอาคารเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยถือเป็นธุรกิจ ที่ผู้บริโภคใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งในปี 2568 มีผู้ร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับการว่าจ้างก่อสร้างอาคาร จำนวน 186 เรื่อง และต่อเติมอาคารเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 111 เรื่อง รวม 297 เรื่อง ซึ่งผู้บริโภคประสบปัญหาในการใช้บริการ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจไม่ได้ดำเนินการตามรูปแบบที่ได้ตกลงกันไว้ ก่อสร้างอาคารไม่แล้วเสร็จแล้วละทิ้งงาน ไม่ก่อสร้างอาคารตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ ไม่มีการส่งมอบสัญญาว่าจ้างหรือหลักฐานการรับเงินให้แก่ผู้บริโภค หรือไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ ส่งผลทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือนร้อนและเสียหายจากการใช้บริการดังกล่าว
สคบ. เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงมอบหมายให้นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 3 ซึ่งรับผิดชอบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ลงพื้นที่พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 20 และ 26 มิถุนายน 2568 ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายเพื่อทำการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและต่อเติมอาคารเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
จากการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ พบว่า มีการให้บริการรับจ้างก่อสร้างอาคารและต่อเติมอาคารเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจมีลักษณะเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด พนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการยึด อายัด เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบธุรกิจ มีการดำเนินการประกอบธุรกิจถูกต้องตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 กำหนดไว้หรือไม่และมีหนังสือเชิญ ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวให้ไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมทั้ง ชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งนำส่งเอกสารเพิ่มเติม อาทิ สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง หลักฐานการชำระเงิน หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่า ผู้ประกอบธุรกิจรายใด มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่จัดทำหรือไม่ส่งมอบสัญญาว่าจ้างฯ ไม่มีรายละเอียดราคาค่าก่อสร้าง ไม่แสดงปริมาณวัสดุ หรือใช้ข้อความในสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สคบ. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ให้คำแนะนำ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงในการว่าจ้างก่อสร้างอาคารหรือการต่อเติมอาคารเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยว่า “ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจใช้บริการ อย่าหลงเชื่อเพียงคำพูด หรือโฆษณาชวนเชื่อโดยขาดหลักฐาน เอกสารสำคัญต้องมี เช่น สัญญาว่าจ้างที่ชัดเจน ครอบคลุมถึงเงื่อนไข การชำระเงิน รายละเอียดวัสดุก่อสร้าง ระยะเวลาก่อสร้าง และเงื่อนไขการรับประกัน ควรขอใบเสร็จรับเงินทุกครั้งและไม่ควรจ่ายเงินล่วงหน้าทั้งหมด เพราะหากเกิดปัญหา เอกสารเหล่านี้คือ หลักฐานสำคัญในการปกป้องสิทธิของผู้บริโภค” และจะเดินหน้าตรวจสอบพฤติกรรมผู้ประกอบธุรกิจที่อาจเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง หากผู้บริโภคพบพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมในการรับจ้างก่อสร้างอาคารหรือต่อเติมอาคาร ผู้บริโภคสามารถแจ้งเบาะแส หรือขอคำปรึกษาได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 หรือผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect และเว็บไซต์ www.ocpb.go.th
Social Links