สงครามไวรัสล้างโลก  “โควิด-19” ยิ้มเยาะ  แต่มนุษยฺ์ยิ้มแหย ๆ นะจ๊ะ??

สงครามไวรัสล้างโลก  “โควิด-19” ยิ้มเยาะ  แต่มนุษยฺ์ยิ้มแหย ๆ นะจ๊ะ??

สงครามไวรัสล้างโลก  "โควิด-19" ยิ้มเยาะ  แต่มนุษยฺ์ยิ้มแหย ๆ นะจ๊ะ??

นายจักรยาน

                  สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นเรื่องของมนุะษย์ห้ำหั่นกันเองเพื่อหวังครองเป็นเจ้าโลก

                ซึ่งสงครามโลกแต่ละครั้งที่ผ่านมาไม่ว่าผู้มีชัยและผู้พ่ายแพ้  ประชาชนโลกก็ต้องสูญเสียไปเป็นล้าน ๆ คน ใครอยู่รอดก็รอดไป  แต่ใครไม่รอดก็หายไปจากโลกนี้!!

                สำหรับสถานการณ์ของโลกมนุษย์ ณ ขณะนี้เป็นสงครามระหว่างมนุษยฺ์ทุกประเทศที่ต่อสู้กับ "ไวรัสโควิด-19" โรคอุงบัติใหม่มหาประลัยที่ร้ายกาจในยุค 5 จีที่ทุกประเทศได้ร่วมใจกันโรมรันพันตูมาตั้งแต่ปลายปี 2562 มาจนถึงกลางปี 2564

                ว่าไปแล้วสงครามของโลกครั้งนี้อาจถือได้ว่าเป็นสงครามโลกครั้ง 3 ที่สู้ฟัดกับ "ไวรัสนรก" ศัตรูที่มองไม่เห็น ดังนั้นสงครามครั้งที่ 3 ครั้งนี้  เป็นการสงครามที่มนุษย์ได้แต่ตั้งรับป้องกันอย่างเดียว

                ส่วน "โวรัสยมทูต" แห่งศตวรรษมีแต่ทะลุทะลวงล้างโลกด้วยความเปรมปรีที่ได้เข่นฆ่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์มาจนถึงวันนี้ก็เป้นเกือบ 4  ล้านคน  โดยมีมนุษย์โลกที่ติดเขื้อโควิดวายร้าน 180 ล้านกว่าคน 

                เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะมีผู้ติดเชื้อทะลุไปถึง 200 ล้านคนขึ้นไป และผู้ที่ต้องสังเวยชีวิตพุ่งทะยานเป็น 4 ล้านคน 5 ล้านคนต่อไปที่หยุดยั้งไม่ได้??

                เนื่องจาก "ไวรัสเพชฌฆาต" แสดงอิทธิฤทธิ์ให้มนุษยได้เห็นว่าสามารถแปลงร่างกลายพันธุ์ได้ดุร้ายกว่าเดิม  แพร่เขื้อตัวเองได้ง่ายกว่าเดิม  และจะทำให้มนุษย์โลกติดเชื้อมากกว่าเดิม

                ฤทธิเดชชองเจ้าไวรัสนรกแตกตัวนี้แสดงความโหดได้เห็นมาตั้งแต่แรกเริ่ม  วัคซีนที่มนุษย์คิดค้นวิจัยพัฒนามาฉีดป้องกันให้แก่มวลมนุษยชาติว่าต้องฉีด 2 เข็มที่จะเอาอยู่

                แต่ทว่า "ไวรัสโควิด-19" ที่ได้กลายพันธุ์อย่างหฤโหดมากยิ่งขึ้นที่มนุษย์ทั่วโลกได้รับรู้กันว่ามหาวายร้ายกาจจริง ๆ ที่ไม่มีใครกล้าบิดเบือน

                ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น   ขณะนี้ก็ได้มีการพูดถึงว่าต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ถึงจะเอาอยู่เจ้าไวรัสล้างโลก ก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีเข็มที่ 4 และ 5 ที่ต้องฉีดอีกหรือไม่ หรือต้องฉีดทุุกปี ปีละ 2-3 เข็มขึ้นไป  ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีคณะแพทย์หรือนักวิมยาศาสตร์ชาติไหนตอบได้??

                เจ้่าวายร้ายโควิดที่ไล่ล่ามนุษย์โลกไม่หยุดหย่อนมาเกือบ 2 ปีที่ฆ่ามนุษย์แบบไม่ออมมือและยิ้มด้วยความสะใจเพราะ "ไวรัสล้างโลก" รู้ว่่าบนโลกเบี้ยว ๆ บูด ๆ ใบนี้มนุษย์พันธุ์งี่เง่าอยู่จำนวนไม่น้อยที่ไม่มีจิตใจของความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ  และไม่มีจิตรับผิดชอบต่อสังคมโลกได้เกิดความสุข

                โดยเฉพาะมนุษย์การเมืองไมว่าที่ไหนในโลกก็ได้ลากโยงให้เป็นเรื่องการเมืองที่ต้องทำให้ยุ่งกันไว้ ทะเลาะกันเองในแต่ละขั้วการเมืองเขาการเมืองเรา

                หลาย ๆ ประเทศผู้นำของประเทศก็ถูกนักการเมืองคนละซีกขับไล่ให้ออกไป เพราะหมดฝีมือในการแก้ไขวิกฤติโควิดนรก

            ที่นี่ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน  เล่นการเมืองจนไม่ได้นึกถึงว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนคนไทยปลอดภัยจากเชื้อไว้รัสยมบาล  นอกจากไล่ให้ไปพ้นๆ จากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี!!

                แม้กระทั่ง "หมอ" ในเมืองไทยก็ยังทะเลาะกันเองในเรื่องยี่ห้อวัคซีนที่จะนำมาฉีดให้แก่ประชาชนว่ายี่ห้อนี้ดียี่ห้อโน้นไม่มีประสิทธิภาพ หรือวัคซีนเชื้อตายดีกว่าวัคซีนเชื้อเป็น

                และพวกไม่ใช่่หมอก็พลอยผสมโรงนำมาเห่าบิดเบือนข้อเท็จจริงแบบอิงความโกหกเข้าไว้ก่อน

                สงครามล้างโลกที่ "ไว้รัสนคร" กำลังเปิดเกมรุกกับมนูษย์ด้วยยุทธวิธีใหม่ ๆ พลิกการต่อสู้กับมวลมนุษย์ด้วยฤทธิ์เดชที่นึกไม่ถึง  ต้องหาวิธีแก้เกมสู้ตลอดเวลามาเกือบ 2 ปีก็ยังไม่แก้ไม่ได้ตรงจุด

                สมรภูมิในสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของวาระแห่งชาติมนุษย็โลก เพราะเป็นการต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่่เห็น  ไม่เหมือนกับสงครามโลก 2 ครั้งที่ผ่านมาได้เห็นสมรภูมิที่มนุษย์ยิงต่อสู้ระเบิดตูมตามในแต่ละสมรภูมิ

                บรรดามนุษย์การเมืองบางจำพวกคลุ้มคลั่งในเรื่องสิทธิเสรีภาพ  ภราดรภาพ และเสมอภาพ  ออกมาประท้วงท่ามกลางสมรภูมิที่มนุษย์ต่อกรกับศัตรูไวรัสตัวร้ายด้วยความไม่หวั่นตัวเองจะบาดเจ็บหรือถึงขั้นเด็ดสะมอเร่

                นอกจากนี้ก็ยังช่่วยแพร่เชื้อ "ไวรัสมหาภัย" ให้กับประชาชนที่ตั้งการ์ดหลบภัยอยู่ดี ๆ ก็ต้องมารับเคราะห์ติดเชื้ออย่างช่วยไม่ได้

                สมมติว่าเป็นสมรภูมิสู้รบยิงกันปังระเบิดกันตูมแต่ละสถานที่  จะมี"ม็อบ" ออกไปประท้วงกลางสมรภูมิหรือไม่  มีแต่ทุกคนหนีหลบภัยเอาตัวรอดทั้งสิ้น เพราะลูกปืนลูกระเบิดจริง ๆ โดนแล้วตายจริงบาดเจ็บจริง

                ทว่าสงครามไวรัสล้างโลก เป็นสมรภูมิที่มองไม่เห็น มนุษย์งี่เง่าก็ทำเป็นกล้าบ้าบิ่น  ส่งผลดีต่อ"โควิด-19" ที่ทำให้ยิ้มด้วยสบายใจในการกระจายเชื้อร้ายของตัวเองเพิ่มทวีคูณขึ้น

                บทสรุป ณ เวลานี้  ศึกสงครามระหว่างมนุษย์กับศัตรูที่มองไม่เห็นครั้งนี้  ต้องขอบอกตรง ๆ ว่า "กองทัพไวรัสโควิด" ชนะไปแล้วในทุกสมรภูมิของประเทศต่าง ๆ

                พฤติกรรมของมนุษย์งี่เง่าบางจำพวก  ทำให้ "ไวรัสโควิด" ยิ้มเยาะตลอดเวลา!!

            เพราะฉะนั้น เชื่อได้เลยว่า "ไวรัสล้างโลก" แห่งศตวรรษนี้จะต้องโค้งคำนับมนุษย์งี่เง่าที่ทำให้กองทัพ"ไวรัสนรก" ของพวกตัวเองไม่พรากจากโลกมนุษย์ไปอยู่ที่ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ หรือดาวดวงไหน ๆ ในจักรวาล

            ขออยู่เคียงคู่สู้กับมนุษย์จนกว่าโลกจะแตกนะจ๊ะ!!

                        

You may also like

“กล้วย” จากพืชบ้านๆ สู่เส้นทางความสำเร็จ กับความมุ่งมั่นแบบ ทน พร้อม ลุย / “นิสสัน”นำเสนอเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จ

“ก