สิ้นแล้ว…ราช เลอสรวง เจ้าตำนวน “สิงห์ดำ”

สิ้นแล้ว…ราช เลอสรวง เจ้าตำนวน “สิงห์ดำ”

“ราช เลอสรวง” นามปากกา “ระวี” และเจ้าของฉายา “ศิลปินพันปก”ของ ท่านนิวัฒน์ ธาราพรรค์ นักวาดภาพ นักคิด นักเขียน ชั้นครูของวงการหนังสือ เกิดที่อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูนเมื่อปี พ.ศ.2483 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน เขาเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว และได้เข้ามาเรียนเพาะช่างรุ่นเดียวกับนักวาดนิยายภาพชื่อดังจุก เบี้ยวสกุล (จุลศักดิ์ อมรเวช) ซึ่งในขณะเรียนนั้น ‘ฉลอง ธาราพรรค์’ พี่ชายที่เป็นนักวาดฝีมือ เช่นเรื่องเจ้าชายกาลี มณีโสภา เห็นว่าเขาวาดรูปได้ จึงนำผลงานการ์ตูนเล่มแรกของราชเรื่อง ‘หักเขี้ยวเสือ’ ไปขายที่สำนักพิมพ์ผดุงศึกษา นับแต่นั้นมา เขาก็รับจ๊อบวาดรูป เรียนไปทำงานไปเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอมและค่าครองชีพ จนต้องขาดเรียนบ่อยครั้ง

สำหรับผลงานที่สร้างชื่อให้ก็คือ ‘สิงห์ดำ’ นิยายภาพแนวต่อสู้ บู๊แอ๊คชั่น ราคา 1 บาท ที่เขียนให้สำนักพิมพ์ผ่านฟ้าพิทยา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาใช้นามปากกา “ราช เลอสรวง” จากนั้นเจ้าตัวก็มีผลงานตามออกมาอีกมากมายอาทิ จอมขมังเวทย์, ตลุยแหลก, สิงห์คำรน, หักด่านมฤตยู, สิงขรผู้ทรงพลัง ฯลฯ

ต่อมาเขาได้เขียนภาพปกพ็อคเก็ตบุ๊คเรื่องเพชรพระอุมาให้พนมเทียน สลับกับสุรินทร์ ปิยานันท์นักวาดฝีมือดีอีกคนในขณะนั้น และได้วาดภาพปกอีกครั้งในจักรวาล รายสัปดาห์ โดยใช้นามปากกาว่า ” ระวี ” ( ราช เลอสรวง ) วาดปกด้วยสีโปสเตอร์ให้จักรวาลรายสัปดาห์ฉบับเพชรพระอุมาตั้งแต่เล่ม 99 มาจนถึงเล่ม 166 …. เล่ม 167 เปลี่ยนเป็นภาพของ เปี๊ยก โปเตอร์ แต่ยังมีภาพของ ” ระวี ” ปรากฎอีกภาพบนปกเล่ม 168 ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายจริง ๆ พอเล่มที่ 169 จึงเป็นฝีมือของ เปี๊ยก โปสเตอร์ อีกครั้ง ต่อเนื่องไปจนมีภาพของลูกศิษย์มาแทน ภาพปกจะสลับด้วยเรื่อง มัจจุราชสีรุ้ง ไปเรื่อย ๆ จนเพชรพระอุมาจบ จึงเป็นปก มัจจุราชสีรุ้งมาแทนทั้งหมด

แรงบันดาลใจด้านการทำงานศิลปะของราช เกิดจากการได้ใกล้ชิดพี่ชายตั้งแต่เด็กและเห็นกระบวนการวาดอย่างมืออาชีพ เขาจึงใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนการ์ตูนบ้าง แต่มีความมุ่งมั่นว่าจะต้องสร้างงานที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ตามแบบพี่ ไม่ซ้ำแบบใคร และยังชอบดูผลงานของนักเขียนการ์ตูนต่างประเทศ โดยไปซื้อหนังสือเฉพาะเล่มที่ขายราคาถูกตรงสนามหลวง

วันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจออกจากวงการนิยายภาพด้วยหลายเหตุผล ผันอาชีพไปเป็นบรรณาธิการนิตยสารหลายหัว ได้แก่ หนุ่มสแควร์ หนุ่ม 75 แปลก รายปักษ์, มหัศจรรย์ นานถึง 30 ปีที่เขาไม่จับพู่กันเลย แม้ว่า โอม รัชเวทย์ นักเขียนการ์ตูนและนักวาดภาพประกอบจะซื้อกระดาษ พู่กันมาให้..

สำหรับศพของนักเขียนการ์ตูนดังนั้นตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาทองคำจันทร์ วัดภาณุรังษี บางพลัด โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 7 พ.ค. เวลา 16.00 น.