“สี จิ้นผิง”อุทิศตนเพื่อราชการ ‘เพื่อประโยชน์ประชาชนของผม’

“สี จิ้นผิง”อุทิศตนเพื่อราชการ ‘เพื่อประโยชน์ประชาชนของผม’

“สี จิ้นผิง”อุทิศตนเพื่อราชการ

เพื่อประโยชน์ประชาชนของผม

  เมื่อห้าสิบห้าปีที่แล้ว สี จิ้นผิงในวัย 15 ปี ในฐานะ “เยาวชนมีการศึกษา” ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ในมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เขาอยู่ที่ชนบทแห่งนั้นเป็นเวลาเจ็ดปี โดยทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับเหล่าเกษตรกร

สีเล่าว่าวันคืนเหล่านั้นช่วยปลูกฝังความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ของเขาในการทำประโยชน์ให้กับประชาชน

หลังจากได้รับเลือกเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 เขาได้ให้คำมั่นว่าจะอุทิศตนไม่หยุดยั้งเพื่อรับใช้ประชาชน “ความปรารถนาของประชาชนในการมีชีวิตที่มีความสุขคือภารกิจของเรา”

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง คำนึงถึงประเทศอยู่เสมอและมองตนเองเป็นผู้รับใช้ประชาชน ตั้งแต่การดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสาขาพรรคชนบทจนกระทั่งตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน

คนของประชาชน

เมื่อมาถึงเหลียงเจียเหอ สียังเป็นวัยรุ่นที่ยังค่อนข้างฉงน และออกเดินทางในฐานะชายวัย 22 ปีที่ตั้งใจจะรับใช้ประชาชน

ต่อมาเขาเดินทางไปยังเจิ้งติง ซึ่งเป็นเทศมณฑลยากจนในมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีน หลี่ หย่าผิง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศมณฑลเจิ้งติงในขณะนั้น เล่าว่า สีกล่าวว่าจีนมีหลายสิ่งที่รอดำเนินการอยู่ และต้องการคนที่จะมาแบกรับความรับผิดชอบ

ตั้งแต่ช่วงปีแรก ๆ สีดูเฉยเมยต่อยศถาบรรดาศักดิ์ในสำนักงานต่าง ๆ เขามักออกเดินทางหลายวัน บางครั้งบนภูเขา เพื่อพูดคุยกับประชาชนระดับรากหญ้า เรียนรู้ความยากลำบากของประชาชน และช่วยแก้ปัญหาให้

ที่เจิ้งติง สี จิ้นผิงขี่จักรยานเก่า ๆ ไปทั่วเทศมณฑล และสังเกตเห็นว่าโควต้าการจัดซื้อธัญพืชประจำปีที่รัฐกำหนดไว้ที่ 38 ล้านกิโลกรัม ทำให้ชาวบ้านต่างหิวโหย

เขาเขียนจดหมายถึงคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยระบุว่าเกษตรกรท้องถิ่นประสบความยากลำบากเพราะโควต้าการจัดซื้อสูง หลังจากทีมสืบสวนทราบสถานการณ์ จึงลดโควต้าจาก 38 ล้านกิโลกรัมเหลือ 24 ล้านกิโลกรัม

เฉิง เปาฮวย เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เทศมณฑลเจิ้งติงในขณะนั้น เล่าว่าผู้คนต่างชื่นชมผลงานของสี โดยกล่าวว่าในที่สุดพวกเขาก็มีอาหารเพียงพอ สีได้หยั่งรากลึกในตัวประชาชนและคำนึงถึงความยากลำบากของประชาชน เฉิงกล่าว

เพื่อประโยชน์ของประชาชนของผม

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาแห่งชาติพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เมื่อปี 2555 สีได้เยือนประชาชนระดับรากหญ้าทั้งในเมืองและชนบทมากกว่า 100 ครั้ง

เขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเพียงพอของเสบียงตลาดอาหารช่วงวันหยุด การเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชน และค่าจ้างแรงงานข้ามชาติ การตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของประชาชนถือเป็นวาระของหน่วยงานกลาง และได้กลายเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังการปฏิรูป

ขณะนี้เรากำลังปฏิบัติตามปรัชญาการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” สีกล่าวระหว่างการประชุมสัมมนาเรื่องการขจัดความยากจนขั้นรุนแรงเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2560 “การพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางจะต้องมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด”

ภายใต้การนำของสี จีนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์หลายประการ โดยความยากเชิงสัมบูรณ์หมดสิ้นไป และมีความมั่งคั่งระดับปานกลางสำหรับประชากร 1.4 พันล้านคนของประเทศ

ตัวอย่างเช่น รายได้ต่อหัวของจีนในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี และช่องว่างรายได้ระหว่างชาวเมืองและชาวชนบทแคบลงเรื่อย ๆ มีการปรับปรุงและขยายผลประโยชน์จากการขจัดความยากจนออกไป โดยรายได้ต่อหัวในพื้นที่ชนบทที่มีการขจัดความยากจนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ในปีที่แล้ว

การสร้างความทันสมัยของจีนมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำเนินการให้แน่ใจว่าการพัฒนานั้นเพื่อประชาชนและโดยประชาชน และประชาชนจะร่วมแบ่งปันผลของการพัฒนาดังกล่าว” สีกล่าวในการสัมมนาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของจีนระหว่างเยือนอิตาลี สี จิ้นผิงยอมรับถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่และภาระอันยากลำบากในการปกครองประเทศใหญ่เช่นนี้ แต่แสดงความทุ่มเทต่อการพัฒนาของจีน

เพื่อประโยชน์ของประชาชนของผม ผมยินดีละทิ้งสวัสดิภาพของตัวเอง” สีกล่าว

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั