“สี จิ้นผิง”เดินหน้าสร้างสมดุล ควบคุมโควิดกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

“สี จิ้นผิง”เดินหน้าสร้างสมดุล

ควบคุมโควิดกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

                ภายใต้หลักปรัชญาการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จีนได้ให้ความสำคัญกับชีวิตและสุขภาพของประชาชน พร้อมกับแสวงหาแนวทางที่สร้างสรรค์ในการควบคุมโรคระบาดควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

                จีนยังคงปรับแนวทางในการต่อสู้กับโควิด-19 ให้มีความถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ มีความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดผลกระทบของโรคระบาดที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

                ครั้งล่าสุดที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางไปตรวจเยี่ยมมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เขาได้เรียกร้องให้พยายามเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมกับย้ำว่าต้องยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างแน่วแน่

            ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันพุธ โดยได้ไปตรวจเยี่ยมเมืองเหมยซานและเมืองอี๋ปิน

ส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรสีเขียว         

                การส่งเสริมการเกษตรให้มีความทันสมัยได้รับการตอกย้ำในขณะที่ผู้นำจีนเยี่ยมเยือนหมู่บ้านหย่งเฟิง โดยหมู่บ้านแห่งนี้อาศัยข้อได้เปรียบของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีข้าว จนสามารถสร้างฐานทดสอบนำร่องการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ ๆ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมณฑลเสฉวน

                หลังจากได้รับรู้ถึงความพยายามของท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกมาตรฐานสูง สนับสนุนการผลิตธัญพืช และส่งเสริมการฟื้นฟูชนบท นายสี จิ้นผิง กล่าวว่าจำเป็นต้องมีความพยายามในการส่งเสริมการใช้งานและการฝึกอบรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ตลอดจนพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และมีประสิทธิภาพ

                "ชาวจีนมีความมั่นใจที่จะถือชามข้าวไว้ในมือของเราเอง" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่าสิ่งสำคัญคือต้องรับประกันความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะการผลิตธัญพืช

ปกป้องสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในลุ่มแม่น้ำแยงซี

                การปกป้องสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการลงพื้นที่ครั้งนี้ โดยการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในลุ่มแม่น้ำแยงซีเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงในแนวเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี นายสี จิ้นผิง กล่าวขณะตรวจเยี่ยมซานเจียงโข่ว ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำจินซาและแม่น้ำหมินเจียงไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำแยงซี

                แนวเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีครอบคลุม 9 มณฑล และ 2 เทศบาลนคร คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของประชากรและมวลรวมทางเศรษฐกิจของจีน

                ผู้นำจีนได้เรียกร้องให้พยายามเปลี่ยนแนวเขตเศรษฐกิจนี้ให้เป็นศูนย์กลางของประเทศในด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นเส้นเลือดแดงหล่อเลี้ยง "วงจรคู่" (Dual Circulation) ซึ่งตลาดในประเทศและต่างประเทศส่งเสริมซึ่งกันและกัน รวมถึงเป็นกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจคุณภาพสูง

ช่วยให้ชีวิตของประชาชนและการผลิตกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

                ในระหว่างการตรวจเยี่ยม นายสี จิ้นผิง ยังได้เรียกร้องให้มีมาตรการอำนวยความสะดวกในการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ ส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในองค์กรต่าง ๆ และเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างเป็นอิสระ

                นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจีนแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการช่วยชีวิตและการรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว 6.1 แมกนิจูด ที่เมืองหย่าอันในมณฑลเสฉวน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา

                เขาขอให้หน่วยงานท้องถิ่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงจัดหาข้าวของเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ตลอดจนวางแผนฟื้นฟูและก่อสร้างใหม่

                เมื่อกล่าวถึงอุทกภัยและธรณีพิบัติภัยในบางพื้นที่ของจีนเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้เรียกร้องให้มีการเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วหลังเกิดภัยพิบัติ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินให้เหลือน้อยที่สุด