สุขภาพที่ดีอยู่ในมือคุณ!
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชั้นนำเอเชียยืนยัน
พร้อมเผยแนวทางดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
– ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพกว่า 100 คนจาก 11 ประเทศและภูมิภาคร่วมงานประชุมสุดยอด APSMI Summit เพื่อผลักดันการดูแลสุขภาพด้วยตนเองที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค
– การประชุมดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมศักยภาพให้แก่บุคคลทั่วไปด้วยความรู้และเครื่องมือ เพื่อสนับสนุนระบบสุขภาพที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพกว่า 100 คนจาก 11 ประเทศและภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิกได้มารวมตัวกันในการประชุมสุดยอด Asia Pacific Self-Medication Industry (APSMI) Summit ประจำปี 2568 ที่จัดขึ้นในบาหลี เพื่อเร่งผลักดันแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยตนเองให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาค
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Self-Care in Healthcare: From Shared Vision to Shared Action” (การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง: จากวิสัยทัศน์ร่วมสู่การลงมือปฏิบัติร่วมกัน) โดยได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนความเข้าใจร่วมกันให้กลายเป็นการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและอิงตามหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้การยอมรับว่าการดูแลสุขภาพด้วยตนเองเป็นแนวทางที่ส่งเสริมศักยภาพให้บุคคลสามารถดูแลรักษาสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วย และจัดการกับภาวะโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีความรับผิดชอบ ช่วยเสริมให้ทั้งชุมชนและระบบสาธารณสุขแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
Rachmadi Joesoef ประธานของ APSMI, ตัวแทนของ GP Farmasi และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PT Konimex กล่าวว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ถือเป็นอีกหมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยตนเองอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเป็นเวทีที่รวมตัวหน่วยงานกำกับดูแล อุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อเปลี่ยนความร่วมมือให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง
ภายหลังการเปิดตัวโครงการริเริ่ม Bangkok Joint Initiative on Self-Care of Medical Products ไปในปี 2567 การประชุมสุดยอดปีนี้ได้มุ่งเน้นที่การขับเคลื่อนจากวิสัยทัศน์ไปสู่การลงมือปฏิบัติ โดยมุ่งพัฒนากรอบการทำงานและความร่วมมือเพื่อปิด “ช่องว่างด้านการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง” ที่เกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และความเหลื่อมล้ำของระดับความรู้และความเข้าใจด้านสุขภาพในประชากร หนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Self-CARER (Self-Medication Collaborative ASIAN Regulatory Expert Round Table) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมหน่วยงานกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และอุตสาหกรรมยาที่ซื้อได้ในร้านขายยาโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อบูรณาการการดูแลสุขภาพด้วยตนเองอย่างมีความรับผิดชอบเข้าสู่กรอบนโยบายสุขภาพแห่งชาติ
ดร. Junko Sato ประธานร่วมของ Self-CARER (PMDA Japan) กล่าวว่า “Self-CARER คือกลุ่มความร่วมมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ผนึกกำลังหน่วยงานกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และสมาพันธ์ Asia-Pacific Self-Medication Industry (APSMI) เพื่อบูรณาการแนวคิดการดูแลสุขภาพด้วยตนเองอย่างมีความรับผิดชอบเข้าสู่กรอบนโยบายสุขภาพของแต่ละประเทศ”
Seema Sundaresan หัวหน้ากลุ่มทำงานด้านการปรับปรุงและบูรณาการกฎระเบียบ (Regulatory Streamlining Work Group) ของ Self-CARER และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกำกับดูแล (Regulatory Affairs) ของบริษัท P&G ได้กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือและการประสานมาตรฐานด้านกฎระเบียบให้สอดคล้องกันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยตนเองที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ และทันต่อเวลาได้จริง ดร. Deepa Maharaj หัวหน้ากลุ่มทำงานด้านดิจิทัลและผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพสุขภาพ (HCP Expert) จาก Opella Global เน้นย้ำว่า เนื่องด้วยที่ผู้บริโภคกว่า 70% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีทักษะด้านดิจิทัลอยู่แล้วในปัจจุบัน เครื่องมือดิจิทัลด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น e-Pharmacy และ e-Labelling จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขยายโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพได้อย่างปลอดภัยและเท่าเทียม
ส่วนในมุมมองของหน่วยงานกำกับดูแล Dita Novianti Sugandi Argadiredja ผู้อำนวยการกองการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า “กระทรวงสาธารณสุขกำลังขับเคลื่อนการปฏิรูประบบสาธารณสุขแห่งชาติอย่างครอบคลุม โดยยึดอยู่บนเสาหลักสำคัญ 6 ประการ ได้แก่ การปรับโฉมบริการปฐมภูมิ ระบบการส่งต่อบริการสุขภาพ ระบบเพื่อความแข็งแกร่งยืดหยุ่นด้านสุขภาพ การปฏิรูประบบการเงินสุขภาพ ทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข และเทคโนโลยีด้านสุขภาพ เป้าหมายหลักของการปฏิรูปนี้ คือการเสริมศักยภาพให้ชุมชนของเราสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพดีขึ้น และเปี่ยมด้วยพลังในการสร้างคุณค่าและประสิทธิผลยิ่งขึ้น การดูแลสุขภาพด้วยตนเองอย่างมีความรับผิดชอบถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิสัยทัศน์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างบริการปฐมภูมิและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพ ด้วยการยกระดับความรู้และเข้าใจด้านสุขภาพ และรับประกันได้ถึงความพร้อมของผลิตภัณฑ์ยาที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานคุณภาพสูงและเป็นอิสระ เราก็จะสามารถสร้างสังคมที่ประชาชนมีความกระตือรือร้นต่อการจัดการดูแลสุขภาพของตนเอง การประชุม APSMI Summit มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความร่วมมือที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายร่วมกันเหล่านี้ และสร้างสังคมอินโดนีเซียที่มีสุขภาพแข็งแรงและฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ศ. ดร. Taruna Ikrar หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งอินโดนีเซีย (BPOM) ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันพัฒนาโครงสร้างระเบียบข้อบังคับที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการใช้ยาเพื่อดูแลตนเองที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดย BPOM เชื่อว่าการเสริมศักยภาพให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น คือกุญแจสำคัญในการยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค การประชุม APSMI Summit ปี 2568 มอบเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสริมความพยายามร่วมกันและรับรองได้ว่าประชาชนทุกคนสามารถดูแลสุขภาพด้วยตนเองได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ BPOM มุ่งมั่นที่จะจัดทำกฎระเบียบที่สร้างสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกับการคุ้มครองประชาชน โดยมุ่งเน้นวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ได้แก่ (ก) การรับรองความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และคุณภาพของยา พร้อมให้ข้อมูลในการใช้ยาที่ครบถ้วน ชัดเจนและเป็นข้อเท็จจริงแก่ผู้ป่วย และ (ข) ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพอย่างมีความรับผิดชอบ
งานประชุมสุดยอด APSMI Summit ปี 2568 ปิดฉากลงด้วยการให้คำมั่นร่วมกันที่จะเสริมความร่วมมือแบบหลายภาคส่วนให้แข็งแกร่ง ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และกำหนดแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการบูรณาการแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยตนเองเข้าสู่ยุทธศาสตร์สุขภาพในระดับประเทศและภูมิภาค
ด้วยการรวมพลังของหน่วยงานกำกับดูแล ผู้นำอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สมาพันธ์ APSMI และ Self-CARER ได้เดินหน้าปูทางเพื่อสร้างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประชากรมีสุขภาพดีและมีระบบสุขภาพที่แข็งแกร่งยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งการดูแลสุขภาพด้วยตนเองจะกลายเป็นรากฐานสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
Social Links