สุภาพบุรุษทางการเมืองคือ”ไม่สัญญา”??

สุภาพบุรุษทางการเมืองคือ"ไม่สัญญา"??

นายจักรยาน

                อุณหภูมิความร้อนของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในเวลานี้ก็เป็นเรื่องร้อนสุดขีดที่กองทัพ "รัสเซีย" ยกทัพบุก "ยูเครน" ที่เปิดศึกกระหน่ำกระสุนพุงใส่กัน โดยมีตึกรามบ้านช่อง ประชาชน และทหารผู้บุกเข้าไป กับทหารที่ต่อต้านการบุกรุกบาดเจ็บล้มตายกันจำนวนมาก

                แต่ประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศสบายดี  สะเก็ดกระสุนของแต่ละฝ่ายไม่ได้ปลิวมาถูกท่านผู้นำให้ระคายผิว!!

                สาเหตุที่โลกในแถบยุโรปตะวัออกมีปัญหาจนชาวโลกผว่าเรื่องระเบิดนิวเคลียร์ ก็เป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันว่า เป็นเพราะสหรัฐอเมริกาที่ยกตัวเองเป็นพี่เบิ้มของโลก และองค์การสนธิสัญญาแอดแลนติกเหนือ หรือ "นาโต้" เข้ามาพัวพันด้วย

                เสียงวิพากษ์วิจารณ์วิเคราะห์และสังเคราะห์ของกูรูชาติต่าง ๆ ก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นออกมากันมากมายว่า ทำไมเหตุนี้จึงเกิดขึ้น

                แต่แปลกที่ "สหรัฐอเมริกา" และ "นาโต้" รู้ถึงเหตุดังกล่าวว่าจะปะทุขึ้นมา  ทว่าไม่ยอมระงับเหตุนั้น ไม่ให้เกิดปัญหา!!

                เหตุสงครามระหว่างระหว่าง "รัสเซีย" กับ "ยูเครน"   ทั้ง "พี่เบิ้มสหรัฐอเมริกา" และ "นาโต้" ก็กล้า ๆ กลัว ๆ   ไม่มีการสั่งกองกำลังทหารของ "สหรัฐ" และ "นาโต้" เข้ามาช่วย "ยูเครน" รบให้พินาศสันตะโรกันไปมาก ๆ ยิ่งขึ้น

                นอกจากใช้วาทะกรรมด้วย "คำขู่" ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น!!

                ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศทั้งชาติเล็กและชาติใหญ่มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ขอเวลาอีกไม่นาน  สันติภาพจะเกิดขึ่้นให้เห็นไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2565??

             ส่วนจะจบแบบไหนก็ไม่มีใครคาดเดาได้  แต่ทุกฝ่ายที่เข้าไปยุ่งให้เกิดอีรุงตุงนังนั้นจะได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ที่ไม่ทำให้ฝ่ายใดเสียเปรียบ  เชื่อว่าไม่มีฝ่ายไหนได้ประโยชน์เต็มร้อย!!

                เพราะฉะนั้น เรา ๆ ท่าน ๆ โปรดติดตามตอนเกมโอเวอร์!!

                สำหรับสถานการณ์การเมืองของ "ประเทศไทย" นั้นไม่ได้กังวลกับสงครามที่เปรี้ยงปร้างตูมตามในขณะนี้

            ท่านผู้ทรงเกียรติ ส.ส. และนักการเมืองสนใจเรื่อง "ยุบสภา"มากกว่าว่าจะยุบเมื่อไหร่??

                ไม่กี่วันก่อนพี่ใหญ่แห่ง 3 ป. "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ประชุมกับพรรคเล็กที่ร่วมเป็นรัฐบาลด้วยความราบรื่นและชื่นมื่น  

                หลังประชุมเสร็จสิ้น "ลุงป้อม" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและตั้งใจให้เป็นข่าวใหญ่ว่า น่าจะมีการ "ยุบสภา" เกิดขึ้นภายหลังการประชุมเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพเสร็จสิ้น

                โดยจะมีการเลือกตั้งกันใหม่ทั้งประเทศในต้นเดือนมกราคม 2566 เป็นของขวัญสำหรับประชาชนที่อยากเลือกตั้งกันใหม่

                ด้วยเหตุฉะนี้ ส.ส.ผู้ทรงเกียนติทุกคนก็ย่อมหูผึ่งทันที  เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักการเมืองรู้ล่วงหน้า  ใครจะขยับชยายหรือย้ายพรรคก็ต้องรีบตัดสินใจโดยเร็ว ๆ จะได้ไม่ผิดกติกาตามรัฐธรรมนูญ 60

                ดังนั้นในวันเวลาที่ผ่านมา  มี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรค ปชป. ลาออกด้วยความจำใจไปซบกับพรรคพลังประชารัฐด้วยความสบายใจหายห่วง

                อดีต ส.ส.แดนสะตอพรรค ปชป. ก็ขอลาออกไปเข้าค่าย "เศรษฐกิจไทย" ที่เพิ่งประชุมจัดสรรเก้าอี้บริหารพรรคไปเรียบร้อยโรงเรียนพรรคเศรษฐกิจไทย

                พรรคเล็ก ๆ ที่ร่วมรัฐบาลก็จะเวลาเตรียมตัวยุบพรรคตัวเองไปอยู่กับพรรคใหญ๋ ๆ เนื่องจากเลือกตั้งครั้งหน้ากติการใหม่การเลือกตั้งให้ใช้บัตร 2 ใบ  ไม่มีโอกาสลุ้นคะแนนเขย่ง??

                เพื่อให้ตัวเองมี่โอกาสเป็น ส.ส.อีก ก็ต้องย้ายไปซบอกกับพรรคใหญ่ตามที่ใจปรารถนา!!

                อ๊ะ อ๊ะ  พี่ใหญ่ "ลุงป้อม" เอ่ยเวลา "ยุบสภา" ว่าหลังประชุมเอเปกในไทยเสร็๋จสิ้นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด  ซึ่งคงไม่ได้ปรึกษากับ "น้อยเล็ก" ลุงตู่

                เพราะ "ลุุงตู่" ไม่เออออคำพูดของ "พี่ใหญ่ป้อม"   กลับบอกกับสื่อมวลชนว่า "ยุบสภา" เป็นอำนาจของผม ว่าจะยุบเมื่อไหร่

                ซึ่งตีความได้ว่า "ลุงตู่" อาจ "ยุบสภา" หลังประชุมเอเปก็ได้  หรือยุบก่อนก็ได้  หรือไปยุบตอนต้นปีหน้า 2566 ก็ได้ ณ ตอนนี้ไม่มีใครเดาใจ "ลุงตู่" ได้ว่าวันเวลาที่เหมาะคือวันอะไร??

                ล่าสุดการการจัดดินเนอร์ชองคณะ 3 ป.กับหัวพน้าพรรคเล็ก ๆ ที่ร่วมรัฐบาลที่ได้รับเชิญมาหม่่ำข้าวคุยกันสมานไมตรีการเป็นรัฐบาลด้วยกัน

                การพูดคุยเคล้าอาหารเลิศรสระหว่าง "ลุงตู่"  กับหัวหน้าพรรคเล็กไม่มีข่าวลึกปมลับ ๆ ล่อ ๆ ออกมาว่า มีอะไรที่ทำให้พรรคเล็กสบายใจ  และ "ลุงตู่" หายห่วงเรื่องคะแนนเสียง

                มีแต่เพียง "ลุงป้อม" บอกความลับว่า "อาหารอร่อยดี"!!

                และก็มีข่าวกระเซ็นกระสายว่าบรรดาห้วหน้าพรรคเล็กสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเยียวยาบรรเทาความทุกข์ที่เกิดขึ้นในช่วงแพงทั้งแผ่นดินขณะนี้

                "ลุงตู่" เดาใจบรรดาสื่อมวลชนได้ว่าจะต้องโดนตั้งคำถามว่า นายก ฯ ได้สัญญาใจอะไรกับหัวหน้าพรรคเล็ก  ก็ได้เฉลยคำตอบยาวพอสมควรให้บรรดาสื่อทั้งหลายที่ข้องใจ

             แต่ขออนุญาตตัดทอนประโยคสำคัญ ๆ มาให้รู้ว่า "ไม่ต้องมีสัญญาอะไร มากินข้าวก็มากินข้าว  มาเจอกันแบบสุภาพบุรุษเข้าใจหรือไม่  ถ้าเป็นนักการเมืองก็ต้องเป็นนักการเมือง……."

                ถ้าผู้ที่ติดตามข่าวสารของบ้านเมืองไทยอ่านข่าวอย่างละเอียดจากสื่อหลัก สื่อโซเซียลต่าง ๆ รวมทั้ง ทีวี . วิทยุ ในทุกประโยคที่ตอบคำถามสื่อ

                ก็เป็นการชี้แจงอธิบายแถลงไขแบบภาษาการเมืองในเรื่อง "สัญญา"??

                ถ้า "ลุงตู่" ได้ยืนยันว่าจะ "ยุบสภา" หลังการประชุมเอเปกปิดฉากลงไปแล้ว แต่ไม่มีการ "ยุบสภา" ตามสัญญา  "ลุงตู่" ก็จะเสียหายจากคำสัญญาสุภาพบุรุษ

                หรือสัญญาว่า จะ "ยุบสภา" ต้นปีหน้าก่อนที่วาระสภาผู้แทน ฯ จะครบเทอมในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566  เพราะจะได้เลือกตั้งกันเร็วขึ้น

                ถ้ามีการเลือกตั้งหลังจากที่สภาผู้แทน ฯ ครบเทอม  ก็จะทำให้การเลือกตั้งทั่วประเทศประมาณกลางปี 2566!!

                เพราะความแน่นอนของการเมืองทุกยุคทุกสมัยก็คือ ความไม่แน่นอน  เหตุแห่งการ "ยุบสภา" เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ด้วย  ความไม่แน่นอนทางการเมือง!!

            ฉะนั้นและฉะนี้   สัญญาของสุภาพบุรุษทางการเมือง ก็คือไม่สัญญา??

            ท่านที่เคารพเข้าใจตรงกันนะจ๊ะ!!