“หลับ”คือความเป็นมนุษย์ – “หาเสียง” คือเรื่องการเมือง
การงีบหลับในห้องประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ของสมาชิก 2 ท่านที่เป็นภาพทางสื่อทุกแขนงในยุคดิจิทัล เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน “แซ่ด” ในบ้านเมือง
ในความเป็นมนุษย์ของทุกคนทุกชาติบนโลกใบนี้จะต้องมีการ “หลับ” ในช่วงเวลากลางวัน เป็นปกติของร่างกายมนุษย์ทุกเผ่าบนโลกมนุษย์ใบนี้
โดยเฉพาะในห้องประชุมสภาฯ ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ส่งผลให้ สนช.ที่สูงวัยเผลอหลับคอพับคออ่อนบนเก้าอี้นั่งอย่างไม่รู้ตัวในขณะตั้งใจฟังการประชุมอย่างเพลิน ๆ
แต่ความจริงที่ยากปฏิเสธได้ก็คือ การหลับแบบเผลอไป ที่ไม่ใช่การลักหลับ เกิดขึ้นกับสมาชิกผู้ทรงเกียรติของสภา ฯ ทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา มิใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในยุค คสช.
เมื่อกระแส “หลับ” ของสมาชิก สนช.บางท่านเป็นที่ฮือฮาตามสื่อต่าง ๆ ปรากฏว่ามีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคู่ปรปักษ์กับ สนช. ก็ไม่เสียเวลาคิดออกมาถล่มแหลกดิสเครดิตแบบปากพาไป
ทว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยผู้ที่โจมตีพฤติกรรมการนอนหลับก็ต้องหน้าแตก เพราะสื่อได้มีการเผยภาพที่ได้บันทึกเก็บไว้มาให้ประชาชนได้รับรู้ว่า อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็เคยหลับในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรยุคที่เพื่อไทยเป็นใหญ่ในแผ่นดินเช่นกัน
ส่วนพรรคการเมืองเก่าไม่มีสมาชิกพรรคไหนออกมาถากถางเยาะเย้ยเรื่อง สนช.หลับในห้องประชุม เนื่องจากรู้ตัวว่าพูดไปแล้วเดี๋ยวก็เข้าตัวเองให้อับอายขายหน้า!!
รับรองว่าเรื่อง “หลับ” ในห้องประชุมสภา ฯ ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นยุคนี้ หรือยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในภายภาคหน้า เพราะความเป็นมนุษย์ของคนเรา
เฉกเช่นเดียวกับคนที่สวมบทบาทในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ก็คือมนุษย์เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น อารมณ์ดี โมโห หงุดหงิด ฉุนเฉียว ย่อมอยู่ที่ในจิตและกายของมนุษย์ ไม่ว่ามนุษย์นั้นจะสวมหัวโขนประเภทไหน
โดยเฉพาะหัวโขน “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งถือว่าอยู่ในตำแหน่งสูงสุดในการรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และเป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องอดทนแบบมนุษย์สูงในการรับฟังเสียงสะท้อนต่าง ๆ ที่มากระทบถึงตัวเอง
เพราะฉะนั้นจึงต้องทำใจอุเบกขาปล่อยวางจากการล้อเลียนด้วยภาพ และเสียงที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
เนื่องจากมนุษย์สูงที่เป็น “ท่านผู้นำ” ของประเทศต่าง ๆ ไม่มีใครหนีพ้นการนินทากาเลเหมือนเทน้ำในเรื่องดังกล่าวได้!!
เหมือนเช่นการ “หาเสียง” ของพรรคการเมือง และนักการเมืองในประเทศประชาธิปไตยจะต้องใช้ปากพูดจาไปในทางที่ไม่ดีถึงคู่ต่อสู้ในช่วงทำศึกเสียงเลือกตั้ง
เมื่อนักการเมืองใช้ด้วยถ้อยคำหรู ๆ เสียดสีขย่มคู่แข่งทางการเมือง ก็ย่อมไม่เกิดความสงบเรียบร้อยทางปากที่จะส่งผลกระทบถึงความวุ่นวายได้??
การที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่กุมอำนาจประเทศในขณะนี้ อยากเห็นการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีความสงบเรียบร้อย ไม่พูดจาให้ร้ายบิดเบือนกันไปมา หาเสียงด้วยนโยบายของพรรคว่าจะทำอะไรให้แก่ประเทศชาติ
ถ้า คสช. สามารถควบคุมนักการเมืองให้ฝืนธรรมชาติทางปากของตนเองได้ตามนโยบายความสงบได้ 99.99 % ล่ะก็
ที่นี่ประเทศไทยก็จะถูกบันทึกว่าเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทำได้ แต่จะทำได้หรือไม่ก็ต้องคอยดูกันช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง
สำหรับโค้งสุดท้ายของการเป็นรัฐบาล คสช. ปรากฏเป็นข่าวอย่างที่ทราบกันดีว่า “บิ๊กตู่” ได้เดินสายพบปะประชาชนตามพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มถี่มากยิ่งขึ้น ก็โดนติฉินนินทาว่าเป็นการ “หาเสียง” ปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจ??
แม้ว่า “บิ๊กตู่” จะปฏิเสธทุกครั้งว่า ไม่มีการสืบทอดอำนาจ แต่ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง
เชื่อหรือไม่เชื่อ วันเวลาข้างหน้าจะพิสูจน์เองว่า “โกหก” หรือ”จริง”!!
นายจักรยาน
Social Links