หัวเว่ย เปิดตัวซอฟท์แวร์-บริการด้านไอซีที ขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะ-หนุนธุรกิจโตรูปแบบใหม่

หัวเว่ย เปิดตัวซอฟท์แวร์-บริการด้านไอซีที ขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะ-หนุนธุรกิจโตรูปแบบใหม่

หัวเว่ย เปิดตัวซอฟท์แวร์บริการด้านไอซีที

ขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะ-หนุนธุรกิจโตรูปแบบใหม่

   ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันของหัวเว่ย ซึ่งจัดขึ้นภายในงานมหกรรม Mobile World Congress Barcelona ประจำปี พ.ศ. 2567 (MWC Barcelona 2024) คุณบรูซ สวิน ประธานฝ่ายบริการด้านเทคนิคระดับโลกของหัวเว่ย ประกาศเปิดตัวโซลูชันอัจฉริยะทางดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์และการบริการด้านไอซีที โดยโซลูชันเหล่านี้ได้มีการนำเทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุดมาประยุกต์ใช้ ประกอบด้วยโซลูชัน Intelligent Connectivity Integration, Intelligent IT Integration, Intelligent Operations, SmartCare, Intelligent Digital Service และ Huawei Learning โดยโซลูชันนวัตกรรมใหม่และรูปแบบการใช้งานใหม่ ๆ จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ และผลักดันให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคอัจฉริยะทางดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น    

คุณบรูซ สวิน กล่าวว่า “ในยุคโลกอัจฉริยะ การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นอัจฉริยะทางดิจิทัลจะขับเคลื่อนด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับกระบวนการคิดและประมวลผลในเชิงโทรคมนาคม และข้อมูลจำนวนมหาศาลซึ่งรวบรวมมาจากผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งฝ่ายซอฟท์แวร์และการบริการของหัวเว่ยได้นำเทคโนโลยี AI และวิธีการในรูปแบบใหม่มาใช้เพื่อยกระดับโซลูชัน ปรับปรุงเครือข่ายให้มีความเสถียรและประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจให้กับผู้ใช้งาน ตลอดจนช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมการบริการและสร้างการเติบโตในรูปแบบใหม่ให้แก่ธุรกิจ”   

โซลูชัน Intelligent Connectivity Integration: เร่งเครื่องยกระดับสู่เครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โซลูชัน Intelligent Connectivity Integration มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถยกระดับการพัฒนาเครือข่ายให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ตามเป้าหมาย ด้วยการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความท้าทายในสองสถานการณ์สำคัญ นั่นคือ ในสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้าหรือการเชื่อมต่อไม่มีคุณภาพ ระบบอัลกอริธึมจะวางแผนการจ่ายพลังงานซึ่งใช้ AI เข้ามาช่วยสั่งการให้กักเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ เครื่องปั่นไฟดีเซล และแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียด้านทราฟฟิกข้อมูลที่ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ สำหรับในสถานการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาแบบครบวงจรและมีการวางแผนด้านการยกระดับทั้งสำนักงานส่วนกลาง เครือข่าย บริการ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน การบริการโดยเชื่อมต่อและถ่ายโอนระหว่างเครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัด จึงสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การยกระดับเครือข่ายให้มีความทันสมัยมากขึ้นยังจะช่วยให้องค์กรมีพื้นที่ในการพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตใหม่ได้อีกด้วย

โซลูชัน Intelligent IT Integration: สร้างศูนย์ประมวลผลข้อมูลแบบหลากหลาย

โซลูชัน Intelligent IT Integration มีเป้าหมายเพื่อสร้างศูนย์ประมวลผลข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการด้านการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ในยุคอัจฉริยะ โดยการวางแผนและรวมศูนย์ระบบประมวลผล พื้นที่จัดเก็บ และเครือข่ายเข้าด้วยกันจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ได้อย่างมหาศาล ในขณะเดียวกัน โซลูชันระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (liquid cooling) แบบ L1 & L2 full-stack และอัลกอริธึมระบบปรับอุณหภูมิด้วย AI จะช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานลงได้อีกมาก

โซลูชัน Intelligent Operations: ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านจากแนวคิดเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ไปสู่การปฏิบัติการโดยมีบริการเป็นศูนย์กลาง

ระบบจำลองฝาแฝดดิจิทัลของเครือข่ายและเทคโนโลยี AI ได้เข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้แก่การเปลี่ยนผ่านในกระบวนการซ่อมบำรุง (O&M) จากรูปแบบเดิมที่เน้นเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (network-centric) สู่การมุ่งเน้นที่บริการเป็นหลัก (service-centric) โดยในสถานการณ์การซ่อมบำรุงต่าง ๆ ของธุรกิจบรอดแบนด์มือถือ โซลูชันและอัลกอริธึม AI จะสามารถประเมินผลกระทบจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่ไซต์โครงข่าย ซึ่งสามารถส่งผลต่อผู้ใช้งานและการบริการได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งไซต์โครงข่ายที่มีความสำคัญสูง และให้บริการเพื่อชดเชยและลดผลกระทบต่อการบริการได้ ส่วนทีมวิศวกรก็จะได้รับมอบหมายให้เข้าไปแก้ไขปัญหาที่ไซต์โครงข่ายที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ก่อน ในขณะเดียวกัน สำหรับการใช้งานรูปแบบใหม่ กิจกรรมการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ก็จะได้รับการวางแผนโดยอ้างอิงจากผลกระทบต่อบริการ นอกจากนี้ การใช้งานในรูปแบบใหม่นี้ยังขยายผลต่อยอดไปสู่สถานการณ์การซ่อมบำรุงของธุรกิจไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ซึ่งระบบจำลองฝาแฝดดิจิทัลของเครือข่ายและระบบการกู้คืนที่มีความแม่นยำสูง จะสามารถระบุต้นเหตุของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ในเวลาไม่กี่นาที และสามารถมอบหมายการดำเนินงานแก้ไขได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งจะมีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะที่คอบสนับสนุนวิศวกรซ่อมบำรุง เพื่อส่งเสริมความเชี่ยวชาญและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

โซลูชัน SmartCare: สร้างเครือข่าย NPS ที่ดีที่สุดเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาบริการด้านดิจิทัล

หัวเว่ยได้สร้างระบบจำลองฝาแฝดดิจิทัลแบบ Spatio-Temporal ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยการเชื่อมต่อ วิเคราะห์ และจำลองข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ เครือข่าย ประสบการณ์ และความพึงพอใจ โดยการนำเทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุดมาประยุกต์ใช้นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเครือข่ายสามารถพัฒนาเครือข่าย NPS ที่ดีที่สุด พร้อม ๆ ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย โซลูชัน Smart Data Cube ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบริการใหม่ ๆ เช่น การอัพเกรดผู้ใช้จาก 4G สู่ 5G การดึงดูดผู้ใช้โซลูชัน Mobile Money รายใหม่ ๆ และการให้บริการโซลูชัน FWA เป็นต้น

โซลูชัน Intelligent Digital Service: เดินหน้าสู่ยุคอัจฉริยะ ด้วยบริการใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และการเติบโตใหม่

ระบบ Convergent Billing System (CBS) ใหม่ ซึ่งดำเนินการโดย Generative AI (GenAI) จะใช้ข้อมูลจากคลังบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรทั่วโลกกว่าหลายล้านหมวด เพื่อลดระยะเวลาของกระบวนการเปิดตัวภาษีพิกัดใหม่ ช่วยแปลงไอเดียให้เป็นเงินได้อย่างรวดเร็ว

โซลูชัน AICC ยังมีระบบตอบรับอัจฉริยะที่สามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท์ได้อย่างถูกต้องและสามารถให้ความรู้และคำแนะนำได้อย่างแม่นยำ ด้วยอัตราความสำเร็จในการปิดจบการให้บริการด้วยตัวเองที่เพิ่มขึ้นจาก 60% เพิ่มเป็น 85% ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะนี้ยังสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และสามารถแนะนำร่างบทสนทนาได้อย่างเหมาะสม จนสามารถปรับปรุงประสบการณ์การสื่อสารปฏิสัมพันธ์ และลดระยะเวลาในการดำเนินงานโดยเฉลี่ยลงได้ถึง 30% ระบบใหม่นี้ยังสนับสนุนกิจกรรมการขายแบบ ToB จึงสามารถสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจได้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ด้านการเงินในระดับจุลภาค (micro-finance) ภายใต้โซลูชัน SmartCare จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้ามูลค่าสูงรายใหม่ ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ รวมไปถึงสามารถกระตุ้นการทำธุรกรรม และเพิ่มรายได้ด้านการเงินระดับจุลภาพให้กับภาคธุรกิจ ส่วนแพลตฟอร์มแบบเปิดที่ใช้โค้ดเพียงเล็กน้อย (low-code capability) สามารถร่นระยะเวลาของการเปิดตัวแอปพลิเคชันจากหลายเดือนให้เหลือเพียงไม่กี่วัน ทำให้สามารถเข้าถึงพันธมิตรในอีโคซิสเต็มได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Huawei Learning: มุ่งพัฒนาบุคลากรแห่งโลกอัจฉริยะทางดิจิทัล เดินหน้าสู่ยุคของ AI

หัวเว่ยให้บริการด้านการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบ ซึ่งรวมไปถึงการวางแผนบุคลากร การฝึกอบรม การประเมินผล และการปฏิบัติงาน บริการดังกล่าวมุ่งเน้นที่การพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับบุคลากรใหม่ ๆ ในยุคแห่งโลกอัจฉริยะ รวมไปถึงการกำหนดแนวทางและวิธีการฝึกอบรม โดยหัวเว่ยจะยังคงเดินหน้าบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ให้มีทักษะที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคอัจฉริยะทางดิจิทัลต่อไป

คุณบรูซ ซูน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่าเป้าหมายหลักของการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะคือการคลี่คลายปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และสร้างคุณค่าทางธุรกิจที่สัมผัสได้อย่างแท้จริงให้กับลูกค้า ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่และการใช้งานในรูปแบบใหม่ ซึ่งกลุ่มธุรกิจด้านซอฟท์แวร์และบริการด้านไอซีทีของหัวเว่ยจะยังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ผ่านทางนวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเทคโนโลยีนั้น ๆ ต่อไป 

ทั้งนี้ ภายในงาน หัวเว่ยได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัยเทคโนโลยีล่าสุด ณ บูธ 1H50 ในอาคาร Fira Gran Via Hall 1 ในงานมหกรรม MWC Barcelona จัดขึ้นในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จากการประกาศเปิดตัวเทคโนโลยี 5.5G เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2567 นี้ หัวเว่ยได้ผนึกกำลังร่วมกับผู้ประกอบการเครือข่ายและพันธมิตรทั่วโลกเพื่อค้นหาและขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ในด้านเทคโนโลยีเครือข่าย คลาวด์ และระบบอัจฉริยะ โดยหัวเว่ยพร้อมเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี 5G พร้อมขับเคลื่อนให้เกิดระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมที่เฟื่องฟู นำไปสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลที่ชาญฉลาด ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2024.

You may also like

เปิดตัวดัชนีชี้วัดความปลอดภัยของเด็ก บนโลกออนไลน์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก

เปิดตัวด