อเมริกา จะรับมือ AI จีนอย่างไร?

อเมริกา จะรับมือ AI จีนอย่างไร?

สุทธิชัย ทักษนันต์

DeepSeek เป็น GenAI ในหมวด Large Language Model เหมือน ChatGPT กำลังเขย่าโลกด้วยความถูกและดี

โมเดล DeepSeek-V3 ของจีนเปิดตัวช่วงปลายเดือน 12/2024 ทดสอบแล้วพบว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดล GPT-4o ของ OpenAI และ Llama 3.1 ของ Meta

DeepSeek-V3 ใช้ทุนสร้างเพียง 5.5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ GPT-4o ใช้เงินไป 1,000 ล้านดอลลาร์ หมายความว่าของจีนต้นทุนต่ำกว่าประมาณ 180 เท่า

1/2025 AI จีนเปิดตัวใหม่อีกโมเดล คือ DeepSeek-R1 เน้นเรื่องความสามารถการใช้เหตุผล และผลการทดสอบพบว่า มีประสิทธิภาพเทียบเท่า o1 ซึ่งเป็นโมเดลที่เก่งที่สุดในปัจจุบันของ OpenAI มีความสามารถทัดเทียมกันในเรื่อง คณิตศาสตร์ การโค้ด และการมีเหตุผลด้านภาษา

ใครที่ได้ทดลองใช้ DeepSeek จะได้เห็นประสิทธิภาพด้วยตัวเอง และมีนักเทคโนโลยีชื่อดังอเมริกันหลายคนช็อคเกี่ยวกับสิ่งที่ได้พบจาก AI จีน

ประสิทธิภาพของ AI จีนที่ใครๆเคยคิดว่ายังห่างชั้นกับของอเมริกาอยู่หลายปี วันนี้เกือบจะไม่มีความแตกต่างแล้ว แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ต้นทุนเพียงน้อยนิดที่ใช้ในการสร้าง DeepSeek

DeepSeek เป็น Large Language Model ที่เป็น Open Source เหมือนกับของ Meta ซึ่งใครๆก็สามารถเอาไปพัฒนาต่อยอดได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์

Meta AI ตกใจอย่างมากกับความสำเร็จของ DeepSeek โมเดล Llama 4 ของ Meta AI วัดผลแล้วได้คะแนนต่ำกว่าหลายด้าน แต่ต้นทุนการสร้างสูงกว่ามากๆ

ผู้มีชื่อเสียงหลายคนที่ออกมาแสดงความประทับใจในประสิทธิภาพของ DeepSeek เช่น สัตยา นาเดลา ซีอีโอไมโครซอฟต์, เอริก ชมิดต์ อดีตซีอีโอของกูเกิล

Perplexity ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาที่มีชื่อเสียงมาก มี AI ช่วยทำงาน ได้นำ DeepSeek มาใช้ในลักษณะ API ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถวิเคราะห์และค้นหาข้อมูลได้แบบเรียลไทม์

แม้ว่าทั้งสองโมเดล คือ DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1 เพิ่งเปิดตัวมาประมาณ 1 เดือนเท่านั้น แต่มี Application ชื่อดังที่มีข่าวว่าติดตั้ง API ของ DeepSeek แล้วมากมาย เช่น Perplexity, Relay.app, Pipedream, Chatbox, Cherry Studio, Immersive Translation, RAGFlow, JetBrains IDE Plugins, Siri Shortcuts, N8N Nodes

สาเหตุหลักที่มีนักพัฒนาหันมาใช้ DeepSeek จากจีนกันมากเพราะ “ราคาถูกกว่า ประสิทธิภาพไม่ต่างกัน”

เมื่อเปรียบเทียบค่าบริการในลักษณะการใช้งานเหมือนกัน นักพัฒนาต้องจ่ายให้กับ OpenAI มากกว่าของ DeepSeek มากกว่า 90%

Application ที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่กำลังสร้างใหม่เกือบทุกแอป จะติดตั้ง GenAI เข้าไปในแอปด้วย

แอปแต่ละแอป สามารถติดตั้ง API ของหลายๆ GenAI โมเดลได้ ระบบจะเลือกให้ว่า งานแต่ละอย่างควรใช้โมเดลไหน

– ถ้างานไม่ยากนัก และต้องการประหยัดเงิน ก็ใช้ DeepSeek ได้

– งานที่ซับซ้อนมากๆ ต้องการประสิทธิภาพสูงมากๆ อาจเลือกใช้โมเดลสูงๆของ OpenAI

– งานที่ต้องการสื่อสารด้วยภาษาที่เหมือนการพูดคุยของมนุษย์มากเป็นพิเศษ สามารถเลือกใช้ Claude ที่มีคุณสมบัติพิเศษด้านนี้

สงคราม AI รอบใหม่ระหว่าง อเมริกา กับ จีน ในคราวนี้ น่าตื่นเต้นมาก เราต้องคอยติดตามต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

– AI อเมริกาต่างๆ จะลดราคาค่าบริการลงมาสู้กับของจีนมากน้อยแค่ไหน?

– จะมีอะไรใหม่ๆที่พัฒนาต่อเนื่องออกมาอีกบ้าง?

– ถ้าต้นทุนการสร้าง GenAI ต่ำขนาดนี้ อาจได้เห็นโมเดลใหม่ๆออกมาอีกมาก…

– อเมริกาจะแบน AI จีนหรือไม่?