อ่านฟังเจาะลึกการเมือง …โปรดอย่าเชื่อทั้ง 2 รูหู!!

อ่านฟังเจาะลึกการเมือง …โปรดอย่าเชื่อทั้ง 2 รูหู!!

นายจักรยาน

                ปัจจุบันนี้โลกของเรายุ่งจริงหนอ  และขัดข้องจริงหนอ ในการสู้รบกับ "ไวรัสนรกโควิด 19" หลายสายพันธุ์ที่อาละวาดอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก

               และแต่ละประเทศของโลกก็ต้องวิ่งสู้ฟัดกับเศรษฐกิจ ที่เซถลาลงจนหัวคะมำจากพิษ "ไวรัสอำมหิต" ในยุค 5 จี 

                นอกจากนี้การเมืองในแต่ละประเทศก็วุ่นวายแก่งแย่งชิงอำนาจโดยอาศัยเหตุ "โควิดยมทูต" มาเชื่อมโยง

                ซึ่งการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ อีรุงตุงนัง ของแต่ละประเทศแตกต่างกันไปตามรัฐธรรมนูญ ประเพณีวัฒนธรรมและสังคมของประเทศใครประเทศมัน

            สำหรับที่นี่ประเทศไทย  ก็มีเหตุที่ทำให้เกิดกระแสวิเคราะห์เจาะลึก บางครั้งก็เจาะผิดเจาะถูก หรือเจาะมั่ว  ผ่านไปตามสื่อต่าง ๆ ทั้งสื่อหลักบนหน้ากระดาษ ทีวีดิจิทัล สื่้อออนไลน์สารพัดสำนักข่าว สื่อโซเชียลมีเดีย และสื่อเสี้ยมต่างๆ ที่ละเลงกันอย่างสนุกสนานสำราญบานใจ

                โดยเฉพาะคณะ 3 ป.ที่คุมอำนาจบริหารชาติบ้านเมืองในขณะนี้ มีการวิเคราะห์อย่างดุเดือดว่า ส่อแววจะแตกหักกันในอนาคตอันใกล้นี้

                เนื่องจากอย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ ทราบไปทั่วราชอาณาจักรไทแล้วว่า "น้องเล็ก" ป.ประยุทธ์  จันทร์โอชา "ลุงตู่"  นายกรัฐมนตรี ไปปลดฟ้าแลบ คนของ "พี่ใหญ่" ป.ประวิตร วงษ์สุวรรณ "ลุงป้อม"  รองนากรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แบบไม่บอกกล่าวกันก่อน??

                หะแรก "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่กลายเป็นอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์จะบ๋ายบายจากพรรค พปชร. ไปตั้งพรรคใหม่เพื่อประชด "ลุงตู่" ให้รู้ว่าไผเป็นไผ

                แต่ "ลุงป้อม" มีคาถาสาริกาลิ้นทองพูดกล่อมแป๊บเดียว "ร.อ.ธรรมนัส" ไม่ออกจากพรรค พปชร. ขอทำงานกับ "พี่ใหญ่ ป." เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

                นั่้่นก็คือการเมืองที่เป็นเรื่องไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ทุกเวลานาทีที่ไม่ทำให้เกิดอาการเสียหน้าประการใด!?!

                ด้วยเหตุฉะนี้และฉะนั้น  คนละขั้วกับรัฐบาลก็ออกมาขย่มตอกย้ำวิเคราะห์เหมือนรู้เบื้องลึกว่า คณะ 3 ป.  จะเหลือแค่ 2 ป.คือ "พี่ใหญ่ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ "น้องกลางป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

                โดยปล่อยให้ "น้องเล็กตู่" ป.ประยุทธ์  โดดเดี่ยวคนเดียว??

                พร้อมทั้งขยายเรื่องให้ดูเหมือนว่า  "พี่ใหญ่ป้อม" กับ "น้องเล็กตู่" ในการวัดบารมีระหว่างที่ 2 ป.ลงพื้นที่ตรวจราชการการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมต่างพื้นที่คนละจังหวัดว่าจะมี ส.ส.ของพรรค พปชร. ไปต้อนรับใครมากกว่ากัน

                ผลปรากฏว่ามี ส.ส.พรรค พปชร.กว่า 50 คนไปต้อนรับ "ลุงป้อม" ด้วยความอบอุ่นโชว์เป็นข่าวให้รู้ได้เห็น

                ส่วน "ลุงตู่" มี ส.ส.พรรค พปชร.ไม่ถึง 10 คนมาคอยต้อรับ!!

            เรื่องของเรื่องก็มีการขยายเรื่องออกไปเรื่อย ๆ ให้ดูสมจริงสมจังว่า "ลุงตู่" บารมีหดหมดท่าแล้ว

                ก็ว่ากันไปตามแบบฉบับของการเมือง  ที่อยู่นิ่งเฉย ๆ ไม่ได้ต้องยุ่งกันเข้าไว้แหละดีพี่น้องน้องเอ๋ย

                จากนั้นอีก 2-3 วัน  "ลุงตู่่" ป.น้องเล็ก ก็ได้ควง "น้องกลางป็อก" พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยไปตรวจสถานการณ์น้ำที่ จ.สุโขทัย

                กลุ่มสามมิตรที่มี 2 แกนนำ "สมศักดิ์  เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม  พร้อมทั้ง ส.ส.ในจังหวัดสุโขทัย  และจังหวัดใกล้เคียง 2-3 จังหวัดยกขวนมาต้อนรับอย่างคับคั่งให้ได้เห็นกันว่า "ลุงตู่" ยังมีบารมีอยู่!?!

                และเป็นปรากฏการณ์การเมืองเรื่อง 3 ป.ที่โดนขย้ำขย่มให้แตกกันให้ประชาชนได้เห็นว่า  "น้องกลางป็อก" กับ "น้องเล็กตู่" ไม่ได้แตกแยกประการใด

                เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า  "พี่ใหญ่ป้อม" กับ "น้องกลางป็อก" จะแยกวงไปตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น ไม่ได้เป็นตามที่มีกระแสลือที่มีการตั้งใจปล่อยให้คณะ 3 ป.แตกดังโพล๊ะ

                ที่สำคัญการออกแอคชั่นของ "กลุ่มสามมิตร"ครั้งนี้  มีเกจิเรื่องยุ่ง ๆ อดวิจารณ์ไม่ได้ว่า เหมือนเป็นการบอกให้ "กลุ่มธรรมนัส" ได้รู้ว่า พวกของตนก็เยอะเหมือนกันนะจะบอกให้!!

                ผู้สันทัดกรณี ก็วิจารณ์แบบไม่วิจัยมาว่า ระยะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทน ฯ ก็ต้องเดินสายหาคะแนนเสียงจากประชาชนของพรรค พปชร. และ คณะ 3 ป.ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

                ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหลังสภา ฯ ครบวาระ 4 ปีในเดือนมีนาคม 2566 หรือ "ยุบสภา" ก่อนในช่วงปี 2565  ก็ต้องมีนักวิเคราะห์การเมืองหาจังหวะช่วงเวลาพูดเรื่อง "ยุบสภา" ตลอดเวลาไม่รู้เบื่อ!!

                อย่างไรก็ตามกูรูทางการเมืองผู้ไม่ประสงค์ออกนามแต่ะประสงค์กระซิบมาว่า  อีกไม่นานเกินรออาจจะมีการจัดรายการโชว์ให้ประชาชนได้เห็นที่  3 ป.ทั้ง "พี่ใหญ่ป้อม" "น้องกลางป็อก" และ "น้องเล็กตู่" จับมือควงแขนไปตรวจราชการกิจกรรมบ้านเมืองพร้อมกันในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน

                เพื่อให้ผู้ที่เป็นบ่างช่างยุให้ 3 ป.แตกกระจายหายไปนั้นได้เห็นกะตาว่า 3. ป.ยังรักกันอยู่??

                เพราะฉะนั้นการเมืองที่เคลื่อนไหวไปอย่างธรรมดา ก็วิเคราะห์เจาะมั่วให้เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน จนคนฟ้งปวดสมอง

                ทว่า บางครั้งการเมืองที่อุบัติขึ้นมามีความสลับซ้อนมีท้้งเหลี่ยมและเล่ห์กลกันให้สับสน ก็วิเคราะห์กันแบบง่าย ๆ เหมือนไม่มีอะไร ทั้ง ๆ ที่มีอะไรลึก ๆ อยู่??

            ดังนั้น คำวิเคราะห์ทางการเมืองพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายอย่าปักใจเชื่อฝั่งไหนขั้วไหนมากเกินไปนัก

            โปรดฟังหูไว้หูเป็นดีที่สุด  รูหูจะได้ไม่อักเสบ!!