เทคโนโลยีเปลี่ยน “การสุ่ม” ให้เป็น “การเลือก”
สุทธิชัย ทักษนันต์
ทำไมพี่น้องในครอบครัวเดียวกันที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกันแต่ละคนถึงมีความแตกต่างกัน บางคนก็ฉีกแนวออกไปไกลมาก
ทำไมพี่สาวคนโตสวยมาก แต่น้องสาวหน้าตาขี้เหร่? หรือทำไมพี่ชายเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่น้องชายกลับฉลาดเป็นเลิศ?
คำตอบอยู่ที่การ “สุ่มทางพันธุกรรม” ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีชีวิตใหม่เกิดมา
แม้ว่าพี่น้องทุกคนจะมาจากพ่อแม่คู่เดียวกัน แต่แต่ละคนจะได้รับ “สูตรผสมพันธุกรรม” ที่แตกต่างกัน เหมือนกับการสุ่มไพ่จากสำรับเดียวกัน แต่แต่ละครั้งได้ชุดไพ่ที่ไม่เหมือนเดิม
มนุษย์มี 23 คู่โครโมโซม และในการสร้างลูกแต่ละครั้ง พ่อและแม่จะส่งผ่านโครโมโซมอย่างละ 23 แท่งแบบสุ่ม ทำให้มีความเป็นไปได้ถึง 70 ล้านล้านแบบที่พี่น้องจะมีพันธุกรรมที่แตกต่างกัน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางคนโชคดีได้ “ไพ่ดี” ได้ยีนความสูง ความฉลาด และหน้าตาสวยจากพ่อแม่ในชุดเดียว ขณะที่บางคนอาจได้เพียงบางอย่างหรือไม่ได้เลย
เทคโนโลยีในยุคนี้ได้เปลี่ยนกติกาจาก “การสุ่ม” ให้เป็น “การเลือก”
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง เช่น Genomic Prediction, Orchid, Nucleus Genomics และ Herasight กำลังนำเสนอบริการที่ชื่อว่า “การทดสอบพันธุกรรมตัวอ่อนแบบโพลีจีนิก” หรือ PGT-P ซึ่งอ้างว่าสามารถช่วยให้พ่อแม่ “เลือก” ลูกที่มีแนวโน้มตามที่ต้องการได้
เทคโนโลยีนี้ไม่ได้สร้างพันธุกรรมใหม่ขึ้นมา แต่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ “ดูไพ่ก่อนเลือก” แทนที่จะยอมรับผลที่สุ่มมาแบบธรรมชาติ หากยอมจ่ายเงิน $8,999 – $50,000 พ่อแม่สามารถทราบล่วงหน้าว่าตัวอ่อนแต่ละตัวมีแนวโน้มที่จะมีความฉลาด รูปร่างหน้าตา หรือโอกาสเสี่ยงต่อโรคต่างๆ อย่างไร
กระบวนการเลือกแบบย่อๆ คือ
ขั้นตอนที่หนึ่ง เริ่มด้วยการสร้างตัวอ่อน โดยปกติจะได้ไข่จากแม่ 5-20 ฟอง แล้วนำมาผสมกับอสุจิของพ่อในห้องแล็บ หลังจากนั้น 5 วัน ตัวอ่อนจะเติบโตอยู่ในระยะที่เรียกว่า “Blastocyst” ซึ่งมีขนาดเท่าเม็ดทราย ตัวอ่อนประกอบด้วยเซลล์ประมาณ 100-200 เซลล์ อาจได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีประมาณ 5-15 ตัว ซึ่งตัวอ่อนแต่ละตัวจะมีพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละตัวได้รับการ “สุ่ม” ยีนจากพ่อและแม่มาในชุดที่ไม่เหมือนกัน
ขั้นตอนที่สอง คือ การตรวจสอบพันธุกรรมตัวอ่อนแต่ละตัว มีการดูดเซลล์ออกมา 5-10 เซลล์ ซึ่งไม่ทำร้ายตัวอ่อน เซลล์เหล่านี้จะถูกส่งไปอ่าน DNA ทั้งหมด 46 โครโมโซม บางบริษัทอ่านเฉพาะจุดสำคัญๆ (SNP Array) ส่วนบางบริษัทอ่านพันธุกรรมเกือบทั้งหมด (>99%)
ขั้นตอนที่สาม คือ การคำนวณคะแนน ข้อมูล DNA จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลคนหลายแสนคน ซึ่ง ชี้ให้เห็นว่าคนที่มี DNA แบบไหนมักจะมีความฉลาด ความสูง หรือโอกาสเสี่ยงต่อโรคเป็นอย่างไร อัลกอริทึมจะคำนวณออกมาเป็น “คะแนนความเสี่ยงแบบโพลีจีนิก” (Polygenic Risk Score) สำหรับแต่ละลักษณะ
ขั้นตอนที่สี่ คือ พ่อแม่จะเลือกตัวอ่อนที่มี DNA ที่มีแนวโน้มดีที่สุด แล้วฝังตัวอ่อนเข้าไปในมดลูกแม่ เช่น IQ สูงกว่าค่าเฉลี่ย, เสี่ยงเป็นมะเร็งต่ำ
กระบวนการคัดเลือกแบบ PGT-P นี้ ยังมีค่าใช้จ่ายสูงและจำกัดจำนวนตัวอ่อนที่ได้อยู่แค่ 5-15 ตัว แต่ในความจริงแล้วยังมีความเป็นไปได้อีก 70 ล้านล้านแบบ
ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาอีกเทคโนโลยีชื่อว่า In Vitro Gametogenesis หรือ IVG จะยิ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมากขึ้น เพราะสามารถสร้างไข่หรืออสุจิจากเซลล์ผิวหนังของผู้ใหญ่ หมายความว่าคู่สามีภรรยาจะสามารถสร้างตัวอ่อนได้ไม่จำกัด แทนที่จะจำกัดอยู่แค่ 5-15 ตัว จะมีตัวเลือกหลักร้อยหรือหลักพันตัว โอกาสที่จะหาตัวอ่อนที่ “สมบูรณ์แบบ” ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
คำถามที่ตามมา คือ แล้วตัวอ่อนที่ไม่ถูกเลือกจะจัดการอย่างไร? ทำลายทิ้ง? แช่แข็ง? บริจาค?
ตัวอ่อนที่ไม่ถูกเลือกเกือบทั้งหมดมีแนวโน้มจะไม่ได้เกิด…ผู้ไม่เห็นด้วยกับวิธีการแบบนี้หลายคนเรียกว่าเป็นการ “ฆ่า”
เรื่องจริยธรรมยังเป็นข้อถกเถียงไม่รู้จบ แต่ละฝ่ายมีเหตุผลสนับสนุนที่มีน้ำหนักสำหรับความเชื่อของตัวเอง
Social Links