เลือกตั้งไม่มีคำว่า "เสมอ" แต่ "การเมือง"พิสูจน์ความจริงได้ ??
การเลือกตั้งที่ผ่านมาผู้สมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต มี "ชนะ" กับ "แพ้" สองประการเท่านั้น
เพราะการเลือกตั้้งไม่มีคำว่า "เสมอ"!!
สำหรับการฟอร์มรัฐบาลของขั้วพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ ณ ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ ฝ่ายไหนจะแพ้
ฝ่ายที่รวบรวมได้เสียงมากกว่าเกินครึ่งของจำนวน ส.ส.500 คนก็ย่อมเป็น "รัฐบาล" ส่วนฝ่ายที่มีคะแนน ส.ส.ในกลุ่มก๊วนไม่ถึงก็ต้องเป็น "ฝ่ายค้าน" ตามกติกาของประชาธิปไตย
แต่ถ้าต้องการให้ทุกฝ่ายเสมอกัน ก็จับมือเป็น "รัฐบาลแห่งชาติ"!!
ซึ่งก็เป็นไปได้ยากทั้งชาตินี้และชาติหน้า เนื่องจากมีการประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคงว่าไม่มีทางร่วมจับมือทำงานเป็นรัฐบาลกับพรรคการเมืองหนึ่ง
ส่วนจะเป็นพรรคการเมืองไหน ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าคือ พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย
สถานการณ์เวลานี้ มีการปลุกระดมให้ประชาชน "เลือกข้าง" เหมือนเดิมที่อาจส่งผลกระทบสุขภาพจิตให้ประชาชนที่ต้องการมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขเกิดความเครียดและซีเรียส
เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องไม่เครียดรู้เท่าทันเกมการเมือง "เลือกข้าง" ปล่อยให้กลุ่มที่ปลุกระดมเกิดอาการเครียดไปเองว่าทำไมประชาชนถึงไม่เครียดด้วยว่ะ!!
ความสุขทางการเมืองก็อยู่ที่เรา ๆ ท่าน ๆ ว่าอยากให้จิตใจตนเองเป็นสุขหรืออยากทุกข์จากเครียดเท่านั้นเอง
ที่แน่ ๆ ทุกกระแสความเคลื่อนไหวได้พุ่งตรงถล่มไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งคณะ 7 คนเกิดความเครียด จากข้อกล่าวทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่โปร่งใส ในการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วประเทศ
มีการล่ารายชื่อไล่ กกต.พ้นจากเก้าอี้ เพื่อส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนความผิด
แต่ถ้าผลสอบสวนของ ป.ป.ช.ไม่สำเร็จสมประสงค์ของคณะนักร้อง เหตุการณ์ทางการเมืองก็ไม่หยุดนิ่ง ก็เคลื่อนไหวหาเหยื่อรายใหม่โจมตีใหhได้
เพราะประเด็นการเมืองมีโอกาสงอกได้ทุกวันจาก "วาทะกรรม" ของนักการเมือง และพรรคการเมือง ที่จะถูกเปิดแผลขยายให้กว้างขึ้นไปตามลมปาก
โดยเฉพาะการตรวจสอบนักการเมืองในโลกดิจิทัลยุคนี้ ประชาชนที่ "เลือกข้าง" จะใช้โซเซียลมีเดียปล่อยกระหน่ำออกมาให้เกิดความกังขา
นักการเมืองคนไหนพิสูจน์ทราบได้ก็รอด คนไหนพิสูจน์ความจริงไม่ได้ก็ต้องไป!!
เพราะฉะนั้นทั้งนักการเมืองรุ่นเก่าและเพิ่มเข้่ามาใหม่ โปรดอย่าได้ประมาท!!
นายจักรยาน
Social Links