ไทยจะพลิกแผ่นดินดังเช่นการเมืองมาเลเซียได้หรือไม่??

ไทยจะพลิกแผ่นดินดังเช่นการเมืองมาเลเซียได้หรือไม่??

          

  ไทยจะพลิกแผ่นดินดังเช่นการเมืองมาเลเซียได้หรือไม่??

 

การเมืองแต่ละประเทศมักจะสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกต้องจารึกไว้

          ล่าสุดการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวมาเลเซียได้สร้างประวัติศาสตร์ที่ให้ชาวโลกต้องตะลึงตึงตึง

            พรรคแนวร่วมฝ่ายค้านสามารถพลิกประวัติศาสตร์ของการเมืองในมาเลเซียที่โค่น พรรคแนวร่วมรัฐบาล ที่ครองอำนาจปกครองประเทศ 61 ปีเศษหลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษ

            และโลกก็ต้องบันทึกอีก คือ นายแพทย์ มหาเธร์  โมอัมหมัด  หัวหน้าพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านได้นายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลกคือ 92 ปี

          อันชื่อภาษาไทยที่เขียนว่า “ดร.มหาเธร์” ตามสื่อต่าง ๆ นั้น  มาจากการแปลชื่อภาษาอังกฤษว่า Mahathir มาเป็นไทย

            ถ้าเป็นชาวมาเลเซียจะเรียกชื่อตามสำเนียงของประเทศเขาว่า “มหาเด”  ไม่ใช่ “มหาเธร์”!!

          สาเหตุที่ภาษาไทยไม่เขียนว่า “มหาเด” อาจกลัวว่าจะกลายเป็น “มหาเด่” ฟังดูไม่สุภาพจั๊กจี้รู้หู ก็เลยเขียนให้อ่านว่า “มหาเธร์” ด้วยความเคารพ!!

          สำหรับ ดร.มหาเธร์ หรือ มหาเด เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่มีชื่อเสียงก้องโลกมาก่อน  และสามารถนั่งเก้าอี้ได้นานถึง 4 สมัย ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 1986 จนถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2003 รวมเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง 22 ปี 107 วัน

            จากนั้นก็ได้สนับสนุนลูกน้องขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากตนเองชื่อ “อับดุลละฮ์  อะฮ์หมัด บาดาวี”  ซี่งครองเก้าอี้นั่งเพียง 1 สมัย  5 ปี 154 วัน

            ต่อมาก็ปลุกปั้นลูกศิษย์ตัวเองที่ชื่อว่า “นาจิบ  ราชัก” ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งอยู่ในอำนาจ 2 สมัย แต่อยู่เพียง 9 ปี 37 วัน เพราะปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นถาโถมเข้ามา ทำให้ต้องประกาศยุบสภาก่อนที่จะครบเทอมเพื่อชิงความได้เปรียบพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน  โดยวางแผนซับซ้อนที่จะต่อท่ออำนาจอีกสมัย

            แต่ความฝันและความหวังของ “นาจิบ ราชัก” ต้องพังทะลายลงไปจากคำตัดสินของประชาชนชาวมาเลเซียทั้งมวล

            ดร.มหาเธร์  ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าพรรคแนวร่วมรัฐบาลมาในอดีต  หลังจากวางมือก็นั่งดูการเมืองฝ่ายรัฐบาลอย่างใกล้ชิด  ทนไม่ไหวที่อดีตนายกรัฐมนตรี “นาจิบ ราชัก” ถูกกล่าวหาในเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบเรื่องใหญ่ ๆ  จึงได้หันไปจับมือกับบรรดาฝ่ายค้านลงสู้ศึกเลือกตั้งกับฝ่ายรัฐบาล ซึ่ง “ดร.มหาเธร์” ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าแนวร่วมฝ่ายค้าน จนสร้างประวัติศาสตร์พลิกแผ่นดินของมาเลเซีย

            ดร.มหาเธร์  ตอนนี้ก็อายุ 92 ปี ถ้าอยู่ครบวาระ 5 ปีก็อายุ 97 ปี  ถ้าได้เป็นต่ออีกสมัย 5 ปี กว่าจะครบวาระอายุก็ปาเข้าไปแล้ว 102 ปี

            แต่  ดร.มหาเธร์ ได้ประกาศว่าจะอยู่ไม่นานแค่ 2 ปี แล้วส่งอำนาจต่อให้ “อันวาร์” ที่ยังพักอาศัยอยู่ในคุก และเป็นพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านด้วยกันได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั่งบริหารประเทศ 

ซึ่ง “อันวาร์ อิบราฮิม” ก็เคยเป็นลูกน้องคนใกล้ชิดสมัยที่ “ดร.มหาเธร์” เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกระเด็นจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี  เพราะโดนการเมืองเล่นงานต้องไปพักอาศัยในคุกด้วยฝีมือของลูกพี่ที่ชื่อ “มหาเด” ทำให้ทั้งคู่เป็นคู่แค้นทางการเมืองกันมานาน!?!

พอมาถึงยุคของ “นาจิบ ราชัก” ก็ถูกการเมืองเล่นจนอ่วมอรทัยต้องย้ายเข้าไปอยู่ในคุกเป็นครั้งที่สอง  แต่หลังจากนั้นเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่ “ดร.มหาเธร์” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  “อันวาร์” ก็ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีของมาเลเซีย ตามข้อเสนอของ “ดร.มหาเธร์”

การเมืองไม่ว่าประเทศไหนในโลก ไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร ดังตัวอย่างการเมืองที่เห็นชัด ๆ ในมาเลเซีย!!

เชื่อว่าชาวมาเลเซียและชาวโลกต้องติดตามชมกันว่า  “อันวาร์” จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในอีก 2 ปีข้างหน้าตามคำพูดของ “ดร.มหาเธร์” หรือไม่

            ทว่าการเมืองมีการพลิกผันที่มีความไม่แน่นอนตลอดเวลา  หรือ “ดร.มหาเธร์” อาจสร้างประวัติศาสตร์อะไรอีกก็ได้??

ส่วนที่นี่ประเทศไทย  การเลือกตั้งตามโรดแม็พในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการสร้างประวัติศาสตร์ให้การเมืองไทยหรือไม่ก็ยังไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้

          สถานการณ์การ “ดูด” ที่ฮือฮาเกรียวกราวในเวลานี้ก็ไม่ใช่เป็นหน้าประวัติศาสตร์การเมืองปฏิรูปแบบใหม่ของประเทศไทย  แต่เป็นเรื่องโบราณที่อุบัติขึ้นมาแล้ว 30-40 ปี

          พรรคการเมืองใหญ่ 2 ขั้วไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์   รวมทั้งพรรคการเมืองระดับกลาง 3-4 พรรคจะมีจำนวน ส.ส.เล็ดลอดเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรมากน้อยเท่าไหร่ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้นปีหน้า  ก็ไม่มีใครบอกได้

            พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่  ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่า หรือคนรุ่นใหม่นั้น ถ้าประชาชนเบื่อการละเล่นการเมืองเดิม ๆ ของพรรคเก่าอาจเปลี่ยนใจหันมาเทคะแนนเสียงให้มากมายแซงทะลุพรรคการเมืองเก่า ๆ ก็ได้  ??

          ที่สำคัญเป็นพิเศษ เรา ๆ ท่าน ๆ ต้องจับตาดูอย่าได้กะพริบตาว่า พรรคการเมืองใหม่หลายพรรคที่ประกาศสนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” สืบทอดเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป  จะใช้กลเกมการเมืองลึกล้ำพิศดารอย่างไร

            ดังนั้น วันเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์  2562  รู้กันแน่ว่าอะไรจะบังเกิดขึ้น!!

การเมืองไทยจะมีการพลิกแผ่นดินหรือไม่ ก็อยู่ที่คนไทยทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด!!

                                      นายจักรยาน

             
 

 

 

You may also like

“ทิพยฯ”สานต่อแนวคิดจิตอาสา นำวิถีพอเพียง ร่วมดำนาในผืนนาประวัติศาสตร์ ณ ศูนย์ต้นแบบเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จ.อ่างทอง

“ทิพยฯ”ส