"ไวรัสล้างโลก" ส่งผลให้ "เสรีภาพ" จบลงที่ "มรณภาพ"??
นายจักรยาน
ยอดผู้ติดเชื้อ "ไวรัสโควิด-19"ของไทยนับตั้งแต่หลังวันสงกรานต์ที่ไม่ใช่วันหยุดยาวดังเช่นปีที่ผ่าน ๆ มา มีสถิติลดลงต่ำกว่า 20เหลือเพียง 10 กว่าราย
ถ้าตัวเลขของผู้ป่วยในไทยน้อยกว่า 10 เมื่อไหร่ ก็จะเป็นสัญญาณดีว่าในอีกไม่นานเกินรอที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ "ไวรัสมรณะ" เป็นศูนย์
ด้วยเหตุฉะนี้ จึงมีกระแสให้รัฐบาล "ลุงตู่" คลายล็อกบางอย่างที่ได้สั่งปิดตายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะหมดอายุลงในวันที่ 30 เมษายน 2563
เพื่อให้เศรษฐกิจในบางอย่างที่สลบลงไปจะได้หายใจไปได้บ้าง
เพราะฉะนั้น เรา ๆ ท่าน ๆ อย่าเพิ่งชะล่าใจเจ้าไวรัสวายร้ายล้างโลก จะต้องตั้ง "การ์ด" ให้ดีต่อไปอย่างได้ตกตามข้อเสนอแนะของหลายหมอผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด
ณ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่า "ลุงตู่" จะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีกเดือนให้สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2563 หรือไม่ แต่ถ้าต่ออายุแล้วมีการผ่อนกิจการบางอย่างให้เงิน ๆ ทอง ๆ หมุนเวียนไปได้ ก็ต้องมีมาตรการคุมเข้มอย่าให้ "การ์ด" ตก
ที่นี่ประเทศไทยโอนลี่ก็ว่าได้ ที่มีบางฝ่ายทางการเมืองไม่ค่อยชื่นชมที่่รัฐบาลไทยรับมือการแพร่ระบาดของ "ไวรัสมัจจุราช" ได้อย่างเหนียวแน่นจนตัวเลขผู้ติดเชื้อใกล้จะเป็นศูนย์
อาจจะเป็นเพราะนักการเมืองที่ชัง "ลุงตู่" ไม่อยากเห็นประเทศไทยรอดพ้นจาก "ไวรัสโควิด-19"เป็นประเทศแรกในโลก อยากเห็นคนไทยติดเชื้อกันมากมาย จะได้หาเหตุโจมตีถล่มรัฐบาลสนองความใคร่ทางปากตัวเอง
นักการเมืองฝั่งตรงข้ามรัฐบาลหลายคนพยายามหาเหตุมารุมยำ "ลุงตู่" ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าท่าไร้เหตุและผลเท่าไหร่นัก ก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจดจำชื่อใส่สมองไว้อย่าได้ลืม??
แต่ก็แปลกดีนะ ที่คนบางจำพวกไม่ชมรัฐบาล "ลุงตู่" ใช้มาตรการคุม "ไวรัสมหันตภัย" ได้ดี แต่นานาชาติที่เห็นการรับมือป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวร้สเขมือบโลกว่าทำได้เยี่ยม
โดยเฉพาะสื่อเยอรมัน และอีกหลายประเทศ เขียนชื่นชมการคุมเข้มการระบาดของ "โควิด-19" ได้ดีมากที่ประเทศต่าง ๆ สมควรนำมาเป็นแบบอย่าง
องค์การอนามัยโลก (WHO)ก็ป่าวประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ถึงวิธีการป้องกันที่มีระบบดูแลสุขภาพถึงระดับครอบคร้ว พร้อมทั้งยกย่อง อสม.หรือ อาสาสมัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้านล้านกว่าคนทั่วประเทศที่ดูแลคนทุกหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด ซึ่ง อสม.คือบุคคลที่เป็นพลังฮีไร่เงียบ
แม้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานเพิ่มขึ้นทุกวันที่ยังรักษาอันดับ 1 ของโลกอย่างเหนี่ยวแน่น ก็ยังหลงทางในการที่จะสกัดกั้นยับยั้งเจ้าเชื้อไวรัสมหาภัยว่าจะใช้มาตรการไหนดี
ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและโรคติดต่อสหรัฐ หรือ (CDC) ประจำประเทศไทย ไม่ชื่นชมการป้องกันแบบสะเปะสะปะ ของผู้นำ"สหรัฐ" แต่กลับชื่นชมยินดีที่ประเทศไทยว่ามีทีมงานสาธารณสุขไทยมีประสิทธิภาพในการป้องกัน
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ก็ได้กล่าวชมรัฐบาลไทยที่ใช้มาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้มีผู้ป่วยลดลงเป็นแนวราบ
หรือ เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งก็กล่าวชื่นชมว่ารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการในการควบคุม "ไวรัสพญายม" อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีผู้ติดเชื้อลดน้อยลงทุกวัน
คำชมนานาทัศนะดังกล่าว คิดคงจะมีคนไทยบางกลุ่มไม่ปลื้มแน่ เพราะผิดหวังที่คนไทยติดเชื้อน้อยไป ก็ว่ากันไปตามสิทธิภาพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ
อ๊ะ อ๊ะ ขณะนี้หลายประเทศในยุโรปได้เลิก "น็อกดาวน์" ทั้ง ๆ ที่แนวโน้มในการสยบ "โควิด-19" ไม่ได้ลดลงอย่างไร โดยอ้างถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะออกมาดำเนินกิจกรรมตามปกติเหมือนเดิม แต่จะใช้การควบคุมควบคู่กันไป เพื่อให้เศรษฐกิจที่ซบเซาจะได้เริ่มเดินหน้า
หรืออย่างหลาย ๆ รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ผู้คนออกมาประท้วงผู้ว่าการรัฐของตนเองให้ "เปิดเมือง" เสียโดยเร็ว ท่านประธานาธิบดี"ทรัมป์" ก็ยุให้ประชาชนรัฐต่าง ๆ ลุกขึ้นมาประท้วงกันเยอะ ๆ เพราะเป็นเสรีภาพของทุกคน
โดยไม่สนใจว่าจะโดนเชื้อ "ไวรัสล้างโลก" จะทำลายชีวิตคนอเมริกามากมากขนาดไหน ขอเพียงได้หาเสียง เพราะต้องการเป็น "ท่านผู้นำสหรัฐ" อีกครั้งในปีหน้่า 2564
การอุบัติของเชื้อสยองโลก "ไวรัสโควิด-19" เหมือนเป็นบทเรียนสั่งสอนให้เข้าใจความจริงของ "ประชาธิปไตย" อย่างถูกต้องว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนใครที่ไหนเป็นใหญ่ ดังวาทะของ "ท่านพุทธทาส" ที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งมานานแล้ว
เพราะฉะนั้นในช่วงสถานการณ์ "ไวรัสโควิด-19" ยึดโลกอยู่ขณะนี้ บุคคลใดที่ยังพร่ำเพ้อแต่ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ ก็จะมีคำว่า "มรณภาพ" มาถึงผู้ที่ไม่บรรลุ "ประชาธิปไตย" อย่างลึกซึ้ง!?!
ทราบแล้วเปลี่ยน!!
Social Links