​“บาร์เทอร์สมาร์ท”กับ “สินค้าแลกสินค้า”

​“บาร์เทอร์สมาร์ท”กับ “สินค้าแลกสินค้า”

 

 

“บาร์เทอร์สมาร์ท”กับ “สินค้าแลกสินค้า”

สังคมไร้เงินสดขับเคลื่อน SME

       ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!

          ในขณะที่รัฐบาลโหมกระหน่ำแคมเพน “สังคมไร้เงินสด”ฝ่ามรสุมมากมาย อย่างที่เรารู้กัน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก่อเกิดสังคมเล็กๆ ซึ่งขณะนี้กำลังเติบใหญ่ขึ้นมา ส่งประกายเจิดจ้าสู่สังคมไร้เงินสด ตัวจริงเสียงจริง

            นั่นคือ บริษัทบาร์เทอร์สมาร์ท จำกัด ซึ่งคำว่า “บาร์เทอร์สมาร์ท” ตรงๆง่ายๆ บาร์เทอร์ (Barter) หมายถึงแลกเปลี่ยน ขยายความออกไปก็คือการนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกัน  อันอาจจะย้อนไปถึงในยุคคุณปู่ของคุณปู และของคุณปู่ ที่จะเอาข้าวไปแลกเกลือ เอาพริกไปแลกไก่ เอาไก่ไปแลกผัก ก่อนที่จะมีคำว่า “เงิน”มาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ในยุคสมัยต่อมา

            ส่วนคำว่า สมาร์ท(Smart)ก็คือฉลาด เท่ห์ ประมาณนี้ ก็มาขยายคำว่า แลกเปลี่ยน ในสมัยที่ความฉลาด ความเท่ห์ของมนุษย์มีการพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะในทางเทคโนโลยี่ที่สูงขึ้น ก็คือการนำเทคโนโลยี่เข้ามาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งในที่นี้ก็คือ “แอพพลิเคชั่น”

            นับว่าเป็นการผสมผสานในยุคก่อนที่จะมีคำว่า 1G หลายร้อยปี กับยุค 4 G ได้อย่างลงตัวและสอดคล้องกับสถานการณ์อย่างยิ่ง

            นั่นก็คือในก้าวย่างที่ไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด พร้อมๆกันกับสถานการเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว

            อย่างที่เป็นและเห็นกันอยู่!

            ทางบริษัทบาร์เทอร์สมาร์ท โดย พต.ดร.ธนพงษ์ จันทร์ทอง ประธานกรรมการบริษัทฯได้เล็งเห็นผลกระทบของเศรษฐกิจต่อธุรกิจ โดยเฉพาะในระดับกลางถึงล่าง ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ในขณะที่มีสินค้าอยู่เต็มร้าน

            พูดกันตรงๆก็คือมีของขาย แต่ๆไม่มีคนซื้อนั่นเอง!

            จึงเกิดแนวคิดว่า ทำไม เราไม่นำสินค้าเหล่านี้มาแลกเปลี่ยนกัน เพราะสินค้าที่เหลือขายเหล่านี้ แท้จริงแล้ว ตลาดยังมีความต้องการอยู่มาก มีประโยชน์ทั้งในด้านการใช้สอยและผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่ง หากสามารถผ่องถ่ายออกไปได้

            จึงเป็นที่มาของตัวกลางในการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนสินค้าในระหว่างสมาชิกพร้อมกับการสร้างแพล็ตฟอร์มเพื่อเป็นตัวกลางอย่างแท้จริง ในชื่อบาร์เทอร์สมาร์ท

            “เราเป็นบริษัทคนไทย 100%”พต.ดร.ธนพงษ์ จันทร์ทอง หรือผู้พัน บาร์เธอร์ กล่าวกับสื่อมวลชนที่ไปร่วมงานเปิดตัวมหกรรมแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดเผยว่า บริษัทฯเริ่มเปิดตัวและเปิดรับสมาชิกเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนสินค้า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2560 โดยใช้หน่วยเพื่อช่วยให้การแลกเปลี่ยนโปร่งใสและเป็นธรรมว่า “พอยท์”

            กำหนดให้ 1 พอยท์มีค่าเท่ากับ 1 บาท

            ร่วม 2 ปีที่ผ่านมา สมาชิกเริ่มขยายตัวขึ้น จาก 10 เป็น 100 จาก 100 เป็น 1,000 ซึ่งปัจจุบันนี้มีสมาชิกที่เข้าร่วมแล้ว 4,562 ธุรกิจ แยกเป็น 33 หมวดหมู่สินค้าที่มีทั้งสินค้าโอท้อป เครื่องใช้ในบ้าน โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บริษัททัวร์ รถเช่า เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุปโภค-บริโภค บริษัทรถยนต์ จักรยานยนต์ จักรยานต์ คอนโดมิเนียม บ้านและที่ดิน ตลอดจนเครื่องประดับเพชรนิลจินดา

            อีกทั้งมีการแลกเปลี่ยนสินค้ากันไปแล้วทั้งสิ้น 277,995,237 พอยท์

            พต.ดร.ธนพงษ์ จันทร์ทอง ได้กล่าวถึงแผนงานขั้นต่อไปว่า ได้ตั้งเป้าสมาชิกไว้ที่ 1 แสนรายภายใน 5 ปีนี้ พร้อมทั้งที่กำลังดำเนินการควบคู่กันอยู่ขณะนี้ คือการเตรียมพร้อมที่จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์หรือ กลต.ในการทำ ICO เพื่อระดมทุนอีกทางหนึ่งในการบริหารกิจการ ตลอดจนการเดินหน้าก้าวต่อไป

            นั่นคือขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวเดินที่สำคัญอีกก้าวหนึ่ง เท่ากับว่า จะเกิดการแลกเปลี่ยนสินค้ากันทั่วโลก อันหมายถึงการแพร่สะพัดของสินค้าไทยไปยังต่างประเทศกันอย่างคึกคัก แล้วสิ่งที่ต้องตามมาคือการท่องเที่ยว ที่สมาชิกมีทั้งทัวร์ โรงแรม-ที่พัก ตลอดจนรถเช่าบริการครับครัน

            จึงนับว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญทีเดียว!

            สำหรับผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิก ต้องเป็น “ธุรกิจ”เท่านั้น จะมีหน้าร้านหรือไม่มีหน้าร้านก็ได้ โดยจ่ายค่าสมัครสมาชิกเป็นเงินสด 4,500 บาท จ่ายครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดไป ไม่มีวันหมดอายุไดๆทั้งสิ้น

            ส่วนงานมหกรรมแลกเปลี่ยนสินค้า เป็นการโปรโมชั่นช่วยสมาชิกอีกทางหนึ่ง จะจัดให้สมาชิกมาพบปะแลกเปลี่ยนกันทุกๆ 3 เดือน ส่วนการจัดแบบย่อย จะมีทุกเดือนและทุกสัปดาห์อยู่แล้ว นอกเหนือจากการแลปเปลี่ยนกันผ่านแอพพลิเคชั่น ที่เกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วมงอยู่แล้ว

            นี่คือความเป็นมาและเป็นไป จากแนวคิด สู่แนวทางการเติบโตของธุรกิจ ถึงวันนี้ ทุกย่างก้าว ล้วนน่าจับตามองอย่างยิ่งยวด เพราะนี่ไม่ใช่แค่การขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบใหญ่เท่านั้น แต่หากหมายถึงพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ-อีกแรงหนึ่ง!

            น่าสนใจทีเดียว!

 

You may also like

คปภ.เดินหน้า! เปิดเวทีสัมมนาวิชาการด้านประกันภัย ประจำปี 2567 “Thailand Insurance Symposium 2024”

 นายชูฉั