เดินหน้าสังคมไทย “ปลุกบวชสร้างสุข” ยึดหลัก“พอดี-งดเหล้า”/หลังพบเทเงินนับล้าน-เมาเละ

เดินหน้าสังคมไทย “ปลุกบวชสร้างสุข” ยึดหลัก“พอดี-งดเหล้า”/หลังพบเทเงินนับล้าน-เมาเละ

เดินหน้าสังคมไทย “ปลุกบวชสร้างสุข”

ยึดหลัก“พอดี-งดเหล้า”/หลังพบเทเงินนับล้าน-เมาเละ

                  เสวนางานบุญ-บวช วิถีใหม่ พบคนไทยทุ่มเป็นล้านจัดงานบวชใหญ่ แผ่บารมี เน้นร่ำสุรา-ปาร์ตี้ รถแห่ บางคนยอมกู้หนี้ยืมสินจัดงานบวช เครือข่ายภาคปชช. จับมือเดินหน้าปลุกบวชสร้างสุข เอาแค่พอดี งดดื่มเหล้า หลังเก็บข้อมูลพบ กว่า 4 ปี เมาทะเลาะกันในงานบวช ดับ 30 ศพ เจ็บเกือบร้อย

               ที่สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย มีการจัดเสวนา “งานบุญ-บวชวิถีใหม่ ยึดพระธรรมวินัย ลดเสี่ยงโควิด -19” จัดโดยเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

                นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานประพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การบวชในระยะหลังมีค่านิยมเน้นการจัดเลี้ยง เป็นการประกาศให้ทราบว่าลูกฉันบวชแล้ว บางคนมองว่าเป็นเสมือนงานรวมญาติ บางครั้งสนุกเกินไปทำให้เกิดการทะเลาะ คนเดือนร้อน แต่ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาด เพราะต้องร่วมกันรับผิดชอบสังคม ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 ดังนั้นมหาเถรสมาคมจึงมีมติว่าในช่วงนี้ กำหนดให้การบวชมีมาตรการคุมเข้มการระบาดโควิด -19 คือ 1. พระอุปฌาชย์ ต้องกำหนดระยะห่างการนั่งจัดพิธีให้เหมาะสม 2. ผู้จะเข้าโบสถ์เอาเท่าจำนวนที่จำเป็น คนร่วมงานก็เอาเท่าที่จำเป็น นั่งให้ได้ระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย วัดไข้ อย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นแนวทางการจัดงานบวชแบบเรียบง่าย ตรงตามพระธรรมวินัย ทำให้ผู้บวช และเจ้าภาพได้รับมงคลมาก ดังนั้น การเสวนาวันนี้จึงเหมาะสมถูกต้อง ถูกเวลา และกิจกรรมที่ทำทั่วประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริม และร่วมกันรณรงค์ 

                นายชัยณรงค์ คำแดง ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า คุณค่างานบวชคือการสืบทอดพระพุทธศาสนา และแสวงหาทางพ้นทุกข์ แต่ปัจจุบัน การบวชมีวัตถุประสงค์เปลี่ยนแปลงไป จากการสำรวจพบว่าเหตุผลที่คนบวชมากที่สุดคือทดแทนบุญคุณพ่อแม่ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการจัดงาน 1 ครั้ง เฉลี่ยหลักแสนบาท มากสุดที่พบคือหลักล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นค่าอาหาร โต๊ะจีน ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดนตรีมหรสพ รถแห่ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องก็พบปัญหาความรุนแรงตามมา โดยจากการเก็บข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ ตั้งแต่ปี 59-63 พบว่า มีความรุนแรงในงานบวช 50 งาน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 30 ราย และบาดเจ็บกว่า 80 ราย ดังนั้นจึงมีการนำร่องทำโครงการงานบวชสร้างสุข คือการส่งเสริมงานบวชที่เรียบง่าย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้คนก้าวข้ามวัฒนธรรมการบวชที่เน้นปริมาณ มาสู่วัตถุประสงค์หลักของการบวชเพื่อสืบทอดศาสนา ศึกษาพระธรรมอย่างแท้จริง

                นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การบวชในพื้นที่ภาคใต้เป็นวัฒนาธรรม ต้องจัดยิ่งใหญ่เพื่อแสดงบารมี และฐานะทางสังคมของเจ้าภาพ มีมหรสพ แตรวง รถแห่ และทำตามๆ กันมา บางคนตั้งใจจะบวชเพื่อสืบทอดศาสนา แต่หลีกกระแสสังคมไม่ไหว ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานบวช จึงได้นำโครงการบวชสร้างสุขไปดำเนินการในพื้นที่โดยร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ชี้ให้เห็นถึงโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ปัญหาสังคม การทะเลาะวิวาท ที่สำคัญยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่โควิดด้วย เพราะทำให้สติลดลง การดูแลป้องกันตัวเองลดลง ทำให้เกิดการติดเชื้อภายในงานและนำไปติดคนที่บ้าน และชุมชน เป็นคลัสเตอร์งานบุญ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องรณรงค์กันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และศบค. ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงมีการนำมาใช้บังคับได้มากขึ้น ทำให้ปัญหาลดลง

                ด้านพระครูภัทรธรรมคุณ เจ้าคณะอำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี คณะทำงานโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะงานบวชสร้างสุข กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานบวชสร้างสุขในจ.ลพบุรี นั้นมีการวางเป็นนโยบายระดับอำเภอ ให้ทุกวัดให้ความรู้กับประชาชนที่มาติดต่อเพื่อจัดพิธีบวชที่วัดว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า บางคนบวชแบบข้าวหม้อ แกงหม้อ บางคนคิดถึงศักดิ์ศรีต้องจัดงานยิ่งใหญ่ รวมถึงการบวชปัจจุบันสังคมเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน บางคนบวชตามประเพณี ดวงตก อกหัก หลักลอย เป็นต้น ซึ่งไม่เป็นไร เพราะบางคนเมื่อบวชเข้ามาแล้วก็สามารถเรียนรู้มีศรัทธาเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การจะทำให้โครงการงานบวชสร้างสุขสำเร็จได้จะต้องทำ 1.ค่อยเป็นค่อยไป 2. หาแนวร่วมในการขับเคลื่อน สร้างภาพ และการสื่อสาร แล้วคุณภาพจะเกิด 3.หาผู้มีส่วนร่วม เช่นนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 4. ทำให้เป็นประเพณี คนจะได้ไม่ฝืน และ 5. มีป้ายคอยเตือนบวชสร้างสุช อย่างน้อยก็เป็นเครื่องสะกิดใจคนมาร่วมงาน 

                นางทิพย์วรรณ ศรีพันธุ์ เจ้าภาพต้นแบบงานบวชสร้างสุข จ.ลพบุรี กล่าวว่า ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่ามีลูกแล้วต้องบวชแบบเรียบง่าย บาปน้อยที่สุด และไม่กลัวใครจะว่าอะไร แต่ที่ผ่านมาเห็นชาวบ้านพยยามทำตามๆ กันจัดงานบวชยิ่งใหญ่อลังการหากทำได้ ต้องมีการเทศน์สอนนาค จ้างดนตรีดังๆ หากไม่มีเงินก็กู้มาก่อน เห็นแล้วใจหายว่าคนคิดได้อย่างไร ก่อนบวช จะมีการฉลองนาคจัดยิ่งใหญ่ มีสุรา อาหาร คนมีเงินจัดงานหลักแสนบาทขึ้นไป ไปงานบวชแต่ละครั้งรู้สึกความสุขกับความเศร้ามาพร้อมกัน จึงคิดว่าลูกเราจะไม่บวชแบบนี้ โดยบวชลูกชาย พร้อมหลานชาย มีการปรึกษาเจ้าอาวาสซึ่งมีโครงการงานบวชสร้างสุขพอดี จึงเป็นโอกาสดีที่ได้จัดงานตามที่ตนเองต้องการ ซึ่งตนเองมีค่าใช้จ่ายจัดงาน รวมบวช 2 คน เพียง 4 หมื่นบาท ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ยังมีเจ้าภาพอีกมากที่มีความต้องการแบบนี้ เพียงไม่ทราบว่าทางวัดสามารถทำได้ จึงขอเสนอให้มีเมนูให้เจ้าภาพได้ทราบ เช่น เมนูบวชแบบไม่มีค่าใช้จ่าย บวชแบบมีค่าใช้จ่ายพอประมาณ แบบตามใจเจ้าภาพแต่ต้องเสียอะไรบ้าง เป็นต้น นอกจากนั้น ยังต้องให้นายอำเภอมีนโยบายส่งเสริมงานบวชสร้างสุข เพื่อจะได้ช่วยเจ้าภาพที่อาจจะกลัวถูกตำหนิจากสังคม และจะเป็นข้ออ้างได้ว่าเป็นนโยบายของอำเภอ

                ด้าน อาจารย์ประดับ สุริยะ ผู้ประสานงานโครการ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก กล่าวเพิ่มเติมว่า อำเภอวังทองได้จัดเวทีรับฟังความเห็นในทุกตำบลว่าถ้าอำเภอวังทองจะจัดงานบวชสร้างสุข เห็นเป็นอย่างไร และทำการรับสมัครเจ้าภาพ ซึ่งมีเจ้าภาพตั้งใจร่วมโครงการ 6 รายในปีนี้ พบว่า ค่าใช้จ่ายลดลงกว่าครึ่ง และได้รับคำชื่นชม อีกทั้ง นายอำเภอ และเจ้าคณะอำเภอฝ่ายสงฆ์ให้การสนับสนุนเต็มที่ จึงเห็นว่าต้องทำงานนี้ต่อไป โดยสื่อมวลชนจะต้องเข้ามาช่วยสร้างกระแสค่านิยมความเรียบง่ายได้บุญกุศลนี้

                อาจารย์กาสัก เต๊ะขันหมาก นักวิชาการของโครงการ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการพูดคุย และประเมินผล พบว่า ผู้มาร่วมงานบวชสร้างสุข และเจ้าภาพจัดงาน ไม่มีผู้ใดรู้สึกเป็นด้านลบเลย มีแต่คนยกย่องอนุโมทนาสาธุ แต่ขอให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งฝ่ายนโยบาย เจ้าคณะอำเภอ นายอำเภอ  ฝ่ายวัด และ ฝ่ายชุมชนจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้แน่นอน

 

You may also like

“เฉลิมชัย-ประชาธิปัตย์“ห่วงปัญหาเหลื่อมล้ำ จัดเวทีนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเดโมแครต ฟอรั่ม” ขจัดการผูกขาด: ลดเหลื่อมล้ำแก้จน”

“เ