“โตเกียว-กรุงเทพ”รวมพลัง!
ร่วมมือต้านภัยพิบัติ-อุปสรรคท้าทายอื่นที่เผชิญร่วมกัน
การแสดงวิสัยทัศน์ด้านยุทธศาสตร์เมืองระดับโลก ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวและกรุงเทพได้ร่วมมือกันเพื่อจัดการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ รวมถึงปัญหาจำนวนประชากรลดลงและประชากรสูงวัย ตลอดจนอุปสรรคท้าทายอื่น ๆ ที่มหานครในเอเชียทั้งสองแห่งซึ่งมีประชากรพลุกพล่านกำลังเผชิญอยู่
ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว คุณ Koike Yuriko และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วม เมื่อพวกเขาพบปะกันราวหนึ่งชั่วโมง ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่สองของการเยือนกรุงเทพเป็นเวลา 3 วันของคุณ Koike ตามคำเชิญของคุณชัชชาติ
แถลงการณ์ฉบับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของผู้ว่าราชการทั้งสองในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเมืองที่ยั่งยืนด้วยการจัดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น “อัตราการเกิดที่ลดลง ประชากรสูงวัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรม”
ในเอกสารดังกล่าว คุณ Koike เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างเมืองเพื่อรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ “เกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น” ทั่วโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ“เมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”
“แถลงการณ์ร่วมนี้เป็นก้าวแรก เราต้องการเดินหน้าในฐานะหุ้นส่วนเพื่อร่วมระบุชี้อุปสรรคความท้าทายต่าง ๆ ที่เรามีร่วมกันและหาทางแก้ไข” ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมหลังพิธีลงนาม “เราตั้งเป้าหมายเพื่อทำให้ความร่วมมือนี้สร้างผลที่เป็นรูปธรรมให้กับประชากรของกรุงเทพและโตเกียว”
คุณชัชชาติกล่าวว่า เขาหวังว่าความรู้ที่ได้รับจากความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชากรในกรุงเทพ และช่วยทำให้เมืองแห่งนี้เป็น “เมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” “เราต้องการศึกษารูปแบบ (การรับมืออุทกภัย) ของโตเกียว” เขากล่าว โดยอ้างถึงเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในกรุงเทพและพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ยังแสดงความสนใจที่จะเรียนรู้จากมาตรการด้านระบบระบายน้ำและการประปาของโตเกียว
ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับสโลแกนที่อดีตวิศวกรโครงสร้างผู้นี้ใช้เพื่อทำให้กรุงเทพซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็น “เมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน” เมื่อเขาชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2565
เขาตั้งเป้าที่จะทำให้กรุงเทพติดอันดับ 50 เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกภายในปี 2570 โดยเน้นความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ตอบสนองความต้องการของประชากรจำนวน 5.4 ล้านคน
คุณ Koike ผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น และได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวหญิงคนแรกในปี 2559 ก็มีแผนสำคัญสำหรับเมืองหลวงของญี่ปุ่นที่มีประชากร 14 ล้านคนแห่งนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเขตมหานครที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ปี 2593 ของโตเกียว เมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายบริหารของเธอได้กำหนดเป้าหมายเชิงนโยบายสำหรับปี 2578 โดยรวมถึงความพยายามทำให้โตเกียวเป็น “เมืองที่ดีที่สุดในโลก” โดยสร้างสมดุลระหว่าง “การเติบโต” และ “การเติบโตอย่างมีคุณภาพ” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชน
“โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว” เครือข่ายใต้ดินเพื่อควบคุมน้ำท่วม
ก่อนและหลังการพูดคุยอย่างเป็นทางการ คุณชัชชาติได้พาผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวไปเยี่ยมชมสวนป่าที่เขียวชอุ่มที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และสถานีสูบน้ำพระโขนงขนาดใหญ่ที่ควบคุมระดับน้ำในคลองของกรุงเทพ และระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
สถานที่ทั้งสองแห่งช่วยบรรเทาการเกิดน้ำท่วมรุนแรง โดย “โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว” ที่สร้างขึ้นในสวนป่าเบญจกิติ ได้รับการออกแบบให้ดูดซับน้ำฝนในกรณีเกิดฝนตกหนัก นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวยังช่วยฟอกอากาศและน้ำ ขณะที่เมืองแห่งนี้เผชิญกับปัญหามลพิษเรื้อรัง
กรุงโตเกียวมี “อ่างเก็บน้ำใต้ดินสำหรับบริหารจัดการน้ำ” เกือบ 30 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำท่วม คุณ Koike ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นกล่าวกับสื่อไทยว่า รัฐบาลของเธอกำลังพิจารณาโครงการขนาดใหญ่ที่จะสร้างช่องทางใต้ดินเพิ่มเติมเพื่อช่วยระบายน้ำฝนส่วนเกินลงสู่อ่าวโตเกียว โดยการเชื่อมต่ออ่างเก็บน้ำใต้ดินเพิ่มเติมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
“เราต้องการแบ่งปันความรู้กับกรุงเทพเกี่ยวกับมาตรการป้องกันน้ำท่วมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัญหาที่เราต่างเผชิญเช่นกัน” เธอกล่าว
กรุงเทพแนะวิธีกระตุ้นการท่องเที่ยวยามค่ำคืนแก่โตเกียว
ในช่วงเย็น ผู้ว่าฯ ทั้งสองท่านได้ออกไปชมอาคารสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญของการท่องเที่ยวในกรุงเทพยามค่ำคืน
“คุณสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วยการใช้ช่วงเวลากลางคืนให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ โตเกียวยังต้องกู้คืนความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนที่ยังไม่คึกคักเท่าที่ควรหลังเกิดการระบาดของโควิด” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการเที่ยวชม โดยเธอระบุว่าเป็นสิ่งที่ “มีประโยชน์มาก”
ในแถลงการณ์ร่วม คุณ Koike เสนอให้แบ่งปันความรู้ที่จำเป็นเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเสนอให้ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมืองหลวงทั้งสองแห่ง ซึ่งคุณชัชชาติเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว
“กรุงเทพให้คำใบ้ที่ดีแก่เราว่าโตเกียวควรกู้คืนความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนได้อย่างไร” คุณ Koike กล่าวกับสื่อไทย ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนโตเกียวทำสถิติสูงสุดที่ 25 ล้านคนในปี 2567
สำหรับตัวอย่างหนึ่งของโครงการริเริ่มของโตเกียวเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเวลากลางคืน ผู้ว่าฯ ได้กล่าวถึงการแสดง “Tokyo Night & Light” ที่เป็นการฉายภาพแสงสีทุกคืน ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลกรุงโตเกียวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เธอกล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว การแสดงนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้วถึง 500,000 คน
การแสดงนี้ประกอบด้วยผลงานศิลปะภาพและเสียงขนาดสั้นหลายชิ้น ที่ถูกฉายลงบนด้านหน้าของอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียวหมายเลข 1 ซึ่งมีความสูง 48 ชั้น โดย Guinness World Records ได้รับรองว่านี่เป็นการฉายภาพแสงสีบนสถาปัตยกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแบบถาวร ผลงานที่นำเสนอประกอบไปด้วยตัวละครและสิ่งต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น สัตว์ประหลาดจากภาพยนตร์ชื่อดังก็อดซิลล่า ภาพวาดอุคิโยะเอะ (Ukiyo-e) แบบดั้งเดิม และ YOASOBI คู่ดูโอ้ศิลปิน J-pop ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
พัฒนาเยาวชนให้มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก
ในวันสุดท้ายของการเยือนกรุงเทพ คุณ Koike ได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติชั้นนำและพบกับตัวแทนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากโตเกียวที่ดำเนินกิจการในกรุงเทพ ในช่วงเช้า เธอเดินทางไปที่โรงเรียนนานาชาติ NIST International School ซึ่งเปิดสอนหลักสูตร International Baccalaureate อย่างเต็มรูปแบบ และมีการสอนภาษาต่างประเทศถึง 12 ภาษา โดยผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวได้สัมผัสกระบวนการบ่มเพาะบุคลากรที่มีศักยภาพระดับโลกโดยตรง
“ในแง่ที่ว่าเราจำเป็นต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สามารถแข่งขันกับคนรุ่นเดียวกันในมหานครแห่งอื่นของโลกได้” เธอกล่าว “วันนี้ฉันได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายที่นี่”
ต่อมา เธอได้พบกับตัวแทนของสตาร์ตอัปและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากโตเกียว โปรแกรมการเยือนกรุงเทพอย่างเป็นทางการของเธอจบลงด้วยการเยี่ยมชมศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว (Tokyo SME Support Center) และสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมแห่งมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Industrial Technology Research Institute)
การเยือนครั้งนี้เป็นภารกิจทางการในต่างประเทศครั้งที่สองของเธอ นับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สามในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน เธอได้เดินทางไปเยือนไคโร อาบูดาบี และบากู เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของโตเกียวกับโลกอาหรับ และเพื่อเสนอแนวทางริเริ่มของโตเกียวที่การประชุม COP29 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์สรุปผลการเยือนกับสื่อไทย ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวให้คำมั่นว่าจะทำงานด้วยความมุ่งมั่นและต่อเนื่องร่วมกับกรุงเทพเพื่อ “แก้ไขปัญหาที่เผชิญร่วมกันและเพิ่มผลประโยชน์ให้แก่ประชาชน” เธอกล่าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยาว่า นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ยังเป็น “สิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คน แต่ก็นำมาซึ่งอันตรายรุนแรงได้เมื่อเกิดน้ำเอ่อล้น” และเสริมว่า “โตเกียวก็เผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน”
Social Links