Project Prometheus AI ที่มีพัฒนาการแบบเดียวกับมนุษย์

Project Prometheus AI ที่มีพัฒนาการแบบเดียวกับมนุษย์

Project Prometheus

AI ที่มีพัฒนาการแบบเดียวกับมนุษย์

สุทธิชัย ทักษนันต์

 เจฟฟ์ เบโซส คนที่เคยเป็นคนรวยที่สุดในโลก ผู้ก่อตั้งและอดีตนายใหญ่ Amazon วันนี้ได้กลับมานั่งเก้าอี้ CEO อีกครั้งในสตาร์ทอัพมูลค่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ชื่อว่า “Project Prometheus”

โครงการโพรมีเทียสได้ระดมคนเก่งด้าน AI ประมาณ 100 คนจากแลปชั้นนำของโลก เช่น OpenAI, DeepMind, Meta

จุดเด่นของโครงการนี้ คือ การพัฒนา AI ทางกายภาพ มุ่งมั่นสร้าง AI ที่เรียนรู้จากโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่แค่การฝึกฝนมันด้วยข้อมูลตัวหนังสือหรือรูปภาพเท่านั้น

โครงการนี้จะช่วยเสริมเติมเป้าหมายด้านอวกาศของ Blue Origin และจะเป็นประโยชน์ต่ออีกหลายอุตสาหกรรม เช่น วิศวกรรม วัสดุศาสตร์ ออกแบบอุตสาหกรรม การผลิต หุ่นยนต์ การทดลองเชิงกายภาพ ยานยนต์ การจำลองโลกจริงแบบกว้าง ฯลฯ

Project Prometheus กำลังสร้าง AI ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น มันจะได้เรียนรู้เหมือนอย่างพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตแบบคนหรือสัตว์

สิ่งที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจาก AI ในโครงการโพรมีเทียส เช่น

– Physical AI ต่างๆจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราจะมีหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวหรือทำงานได้เหมือนมนุษย์

– Large Language Model ที่ลดข้อผิดพลาดจาก Hallucination เพราะ AI ไม่ได้อิงข้อมูลดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่มันใช้ข้อมูลเชิงกายภาพที่เป็นประสบการณ์ตรงของมันด้วย

– มันเข้าใจสามัญสำนึกทางฟิสิกส์มากขึ้น เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งเคยเป็นข้อจำกัดในการฝึกฝน AI

– AI อาจมี Gut Feeling ในการทำงานและตัดสินใจ เหมือนกับสิ่งที่มนุษย์มีในระบบประสาท ประสบการณ์สะสม สัญญาณอารมณ์ สัญชาตญาณเอาตัวรอด

Prometheus เป็นชื่อของเทพไททัน (Titan) ในตำนานเทพเจ้ากรีก หมายถึง “ผู้มองการณ์ไกล” มองเห็นอนาคตล่วงหน้า

ในตำนานกล่าวถึงโพรมีเทียสว่าได้ขโมยไฟจากสวรรค์ และนำลงมามอบให้กับมนุษย์ ซึ่งไฟนี้เองที่ทำให้มนุษย์สามารถสร้างอารยธรรม ความรู้ และเทคโนโลยีต่างๆ

ถ้าเปรียบเทียบกับยุคนี้ก็คงหมายถึง AI และจะนำไปสู่ AI ที่เก่งเหนือมนุษย์!!!

You may also like

“พัทยา”แห่งเที่ยวฮิตปี 2025 / “มาคาเลียส”เผยรับเทรนท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ คนรุ่นใหม่-ครอบครัววัยทำงานยกนิ้วให้

“พัทยา”แ