GenAI จะมาเปลี่ยนวิธีการทำงาน
นายจ้างจะเพิ่มค่าจ้างผู้มีทักษะ AI
สุทธิชัย ทักษนันต์
ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2024 AWS ได้เผยแพร่การศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับ AI ซึ่งเป็นผลการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างใน APAC เกือบ 15,000 คน จาก 5,000 บริษัทใน 9 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไทย
บทสรุป 5 ข้อจากการสำรวจใน APAC คือ
- องค์กรส่วนใหญ่จะใช้ AI ภายในปี 2028 (2571) AI คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค APAC อย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
- Generative AI จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา
- การได้รับทักษะด้าน AI สามารถเพิ่มค่าจ้าง และเป็นประโยชน์ในอาชีพอื่นๆให้กับพนักงานได้
- ผลตอบแทนด้านการผลิตจากพนักงานที่มีทักษะด้าน AI อาจมหาศาล
- ช่องว่างทักษะด้าน AI ใน APAC สามารถลดลงได้ด้วยการตระหนักรู้มากขึ้นด้วยโปรแกรมการฝึกอบรม
สำหรับประเทศไทย เป็นการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างพนักงาน 1,600 คน และนายจ้าง 500 ราย
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำ AWS ประเทศไทย เปิดเผยผลการสำรวจเกี่ยวกับ AI ที่ได้จากประเทศไทย สรุปได้ดังนี้ คือ
-นายจ้างคาดว่าประสิทธิภาพขององค์กรจะเพิ่มขึ้น 58% เพราะ AI
-AI สามารถพัฒนาการสื่อสารได้ถึง 66%
-AI ช่วยปรับงานซ้ำซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ 65%
-AI ส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้ถึง 60%
-พนักงานที่กำลังทำงานอยู่ในประเทศไทยเชื่อว่า AI สามารถยกระดับประสิทธิผลในการทำงานของตนได้มากถึง 56%
องค์กรในประเทศไทยกำลังเดินหน้าเต็มที่กับ AI
98% ของนายจ้างมองว่าบริษัทของตนจะปรับเปลี่ยนสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI ภายในปี 2028
นายจ้ายในไทย 97% เชื่อว่าแผนก IT จะได้รับประโยชน์มากที่สุด
แผนกอื่นๆที่นายจ้างเชื่อว่าจะได้รับผลประโยชน์สูงจาก AI เช่นกัน คือ
-ฝ่ายวิจัยและพัฒนา 95%
-ฝ่ายการเงิน 95%
-ฝ่ายการดำเนินธุรกิจ 94%
-ฝ่ายการขายและการตลาด 93%
-ฝ่ายทรัพยากรบุคคล 91%
-ฝ่ายกฎหมาย 90%
สรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นนายจ้างหรือลูกจ้างก็จะหนีไม่พ้น AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI (GenAI)
นายจ้างที่ไม่เอา AI มาช่วยทำงาน บริษัทจะไม่มีความสามารถในการแข่งขัน
ลูกจ้างที่ใช้ AI ไม่เป็น จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ใช้ AI เป็น
Social Links